เคล็ดลับดูแล EV ให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมและวิ่งได้ไกลขึ้นในสภาพอากาศเย็น
แม้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นทางเลือกที่สะอาดและประหยัดสำหรับการขับขี่ในเมือง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว หรือเมื่อต้องขับขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นจัดบนภูเขาสูง หลายคนอาจเคยได้ยินว่า "แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะทำงานได้ไม่ดีในอุณหภูมิต่ำ" ซึ่งเป็นความจริงบางส่วน เนื่องจากอุณหภูมิที่ลดลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเคมีภายในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยตรง ทำให้ระยะทางวิ่งจริงสั้นลง แต่ปัญหานี้สามารถจัดการได้! การดูแลและปรับพฤติกรรมการใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยให้รถ EV ของคุณยังคงวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและอุ่นใจตลอดทริปหน้าหนาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับสำคัญเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของ EV ในอากาศเย็น
อุ่นแบตเตอรี่ก่อนการชาร์จและขับขี่
แบตเตอรี่รถ EV ทำงานได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม การชาร์จแบตเตอรี่ที่เย็นจัดไม่เพียงแต่ใช้เวลานานขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการรับพลังงานลดลงด้วย รถ EV ส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์ "Pre-conditioning" หรือการอุ่นแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ขับขี่ควรตั้งเวลาหรือกดฟังก์ชันนี้ผ่านแอปพลิเคชันก่อนที่จะเสียบปลั๊กชาร์จ หรือก่อนการขับขี่ การอุ่นแบตเตอรี่ล่วงหน้าจะช่วยให้เคมีภายในพร้อมทำงาน และช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งได้สูงสุดถึง 10-15% เลยทีเดียว
ใช้ระบบปรับอากาศ อย่างชาญฉลาด
ระบบทำความร้อน (Heater) ในรถ EV คือตัวการหลักที่ดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้มากที่สุด การเปิด Heater ด้วยอุณหภูมิสูงตลอดเวลาจะลดระยะทางวิ่งได้อย่างรวดเร็ว
- ใช้ระบบทำความร้อนเฉพาะจุด หากรถของคุณมีฟีเจอร์อย่าง เบาะนั่งอุ่น (Heated Seats) หรือ พวงมาลัยอุ่น (Heated Steering Wheel) ให้ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้แทนการเปิด Heater ในห้องโดยสารให้อุณหภูมิสูงเกินไป เพราะการอุ่นร่างกายโดยตรงจะใช้พลังงานน้อยกว่าการอุ่นอากาศทั้งห้องโดยสาร
- ใช้ปั๊มความร้อน (Heat Pump) หากรถของคุณมาพร้อมเทคโนโลยี Heat Pump ควรเลือกใช้ฟังก์ชันนี้ เพราะมันจะดึงความร้อนจากภายนอกหรือจากส่วนอื่น ๆ ของรถมาใช้ในการทำความอุ่นในห้องโดยสาร ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าระบบทำความร้อนแบบไฟฟ้าดั้งเดิม
จัดการการชาร์จให้เหมาะสมกับช่วงเวลาเดินทาง
พยายามวางแผนการชาร์จให้เสร็จสิ้น ก่อนออกเดินทางเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน เพราะแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มใหม่ ๆ จะยังคงมีความอุ่นอยู่ ซึ่งช่วยให้รถสามารถดึงประสิทธิภาพการขับขี่ออกมาใช้ได้สูงสุดตั้งแต่เริ่มออกตัว ในทางกลับกัน หากชาร์จเต็มตั้งแต่กลางคืนและปล่อยให้รถจอดตากน้ำค้างจนแบตเตอรี่เย็นจัด ประสิทธิภาพก็จะลดลงทันทีที่เริ่มขับ
ใช้ระบบเบรกแบบนำกลับพลังงาน อย่างเบามือ
ในสภาพอากาศเย็นหรือเมื่อต้องขับลงเขาที่มีหมอกลงจัดและพื้นผิวถนนอาจเปียกชื้น การตั้งค่าระบบ Regenerative Braking ให้ดึงพลังงานกลับคืนมามากเกินไป (High Regen) อาจทำให้รถเกิดการชะลอตัวอย่างรุนแรงและกระทันหัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียการควบคุมบนถนนลื่น ควรตั้งค่า Regen ให้อยู่ในระดับต่ำหรือปานกลาง เพื่อให้การชะลอความเร็วเป็นไปอย่างนุ่มนวลและสม่ำเสมอ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่หน้าหนาว
จอดรถในพื้นที่ที่ได้รับการปกป้องจากความเย็น
หากเป็นไปได้ ควรเลือกจอดรถในโรงจอดรถที่ปิดมิดชิด หรือพื้นที่ที่มีหลังคาและกำแพงบังลม แทนการจอดตากน้ำค้างหรือลมหนาวจัดตลอดคืน การจอดในที่อุ่นขึ้นเล็กน้อยจะช่วยชะลอการสูญเสียความร้อนของแบตเตอรี่ และทำให้การ "Pre-conditioning" ในเช้าวันรุ่งขึ้นใช้พลังงานน้อยลง
การดูแล EV ในหน้าหนาวคือการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้มีข้อจำกัดในการขับขี่หน้าหนาวอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแต่ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การอุ่นแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทาง การใช้เบาะอุ่นแทนการเปิด Heater สูง และการขับขี่อย่างนุ่มนวล จะช่วยให้รถ EV ของคุณยังคงประหยัดพลังงานและมอบระยะทางวิ่งที่น่าพอใจ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทริปสัมผัสไอหนาวได้อย่างสบายใจและไม่สะดุดเรื่องพลังงาน
