EV ตกน้ำ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนสายไป เตรียม "เครื่องมือทุบกระจก" ให้พร้อม
ภาพรถเก๋งไฟฟ้าที่จมอยู่ในน้ำพร้อมพาดหัวข่าวอันน่าเศร้าที่ว่า "คนขับทุบกระจกหนีไม่ทัน" ไม่ได้เป็นเพียงการรายงานอุบัติเหตุ แต่เป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนใจผู้ใช้รถยนต์ทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles - EV) เกี่ยวกับอันตรายเมื่อรถตกน้ำ และความจำเป็นในการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เมื่อตกน้ำ
รถยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า มีความแตกต่างจากรถยนต์สันดาปทั่วไปเมื่อตกน้ำ ซึ่งส่งผลต่อการเอาตัวรอด
- ระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์ ระบบล็อกประตูและกระจกส่วนใหญ่เป็นระบบไฟฟ้า เมื่อรถเริ่มจมน้ำหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรใต้น้ำ อาจทำให้ระบบเหล่านี้ขัดข้อง ไม่สามารถปลดล็อกหรือเลื่อนกระจกขึ้นลงได้ตามปกติ ทำให้ผู้ที่ติดอยู่ภายในไม่สามารถเปิดประตูหรือลดกระจกได้ทันท่วงที
- ความเร็วในการจม รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากเนื่องจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งอาจทำให้รถจมน้ำได้เร็วกว่ารถยนต์ทั่วไปเล็กน้อย ทำให้มีเวลาน้อยลงในการตัดสินใจและดำเนินการ
- แรงดันน้ำ ทันทีที่รถจมลงไปในน้ำ ระดับน้ำภายนอกจะสร้างแรงดันมหาศาลกดทับประตู ทำให้ไม่สามารถใช้กำลังคนเปิดประตูออกไปได้ แม้จะปลดล็อกได้แล้วก็ตาม
ข้อคิดและวิธีปฏิบัติเมื่อรถตกน้ำ
จากกรณีนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการดำเนินการอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามหลัก "ปลด-ลด-ทุบ"
- ปลด (Seatbelt) สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ ปลดเข็มขัดนิรภัย ทันที เพื่อให้ร่างกายเป็นอิสระ
- ลด (Window) รีบ ลดกระจกหน้าต่างลงให้เร็วที่สุด (ภายในไม่กี่วินาที) ก่อนที่ระบบไฟฟ้าจะขัดข้องหรือแรงดันน้ำจะสูงเกินไป หากลดกระจกไม่ได้ ให้เตรียมพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
- ทุบ (Window) หากกระจกไม่สามารถลดลงได้ ให้ใช้เครื่องมือทุบกระจกฉุกเฉิน (Car Safety Hammer/Window Breaker) ทุบกระจกด้านข้างให้แตก เพื่อสร้างช่องทางหนีที่ดีที่สุด การทุบกระจกหน้ารถมักจะไม่ได้ผล เพราะเป็นกระจกนิรภัยแบบลามิเนต (Laminated Glass) ที่มีความแข็งแรงมาก ส่วนกระจกด้านข้างส่วนใหญ่มักเป็นกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ (Tempered Glass) ที่แตกง่ายกว่าเมื่อถูกทุบด้วยแรงที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ฉุกเฉินที่ต้องมีในรถ
บทเรียนสำคัญที่สุดคือ การมีอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินอยู่ในรถเสมอ
- เครื่องมือทุบกระจก (Car Safety Hammer/Window Breaker) เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีปลายแหลมแข็งหรือกลไกสปริงสำหรับทุบกระจกโดยเฉพาะ ควรวางไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ช่องเก็บของด้านหน้า หรือติดไว้ข้างเบาะที่นั่งคนขับ
- เครื่องตัดเข็มขัดนิรภัย (Seatbelt Cutter): มักจะมาพร้อมกับเครื่องทุบกระจก ใช้สำหรับตัดเข็มขัดนิรภัยที่อาจติดขัดหรือบิดตัวไม่สามารถปลดล็อกได้
การฝึกฝนสติและความรู้
- ฝึกซ้อมในใจ ผู้ขับขี่ควรฝึกซ้อมขั้นตอน "ปลด-ลด-ทุบ" ในใจเป็นประจำ เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ตื่นตระหนก
- รู้ตำแหน่งอุปกรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนในรถรู้ตำแหน่งของเครื่องมือฉุกเฉินและรู้วิธีการใช้งาน
- เป้าหมายสูงสุดคือการออกทางช่องกระจก การรอให้น้ำเข้าท่วมจนเต็มห้องโดยสารเพื่อให้แรงดันน้ำภายในและภายนอกเท่ากันแล้วค่อยเปิดประตู เป็นวิธีที่อันตรายและมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดอากาศหายใจ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการออกทางช่องกระจกที่ถูกทุบแตกทันทีที่ทำได้
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ย้ำเตือนว่า แม้เทคโนโลยียานยนต์จะก้าวหน้าไปมากเพียงใด การเตรียมพร้อมรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อก็ยังคงเป็นเรื่องพื้นฐานและสำคัญที่สุดสำหรับการรักษาชีวิต
