สำนักงานสถิติแห่งชาติตุรกี เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือ "อัตราเงินเฟ้อ" จากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 69.97% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ดีดตัว 7.25% ในเดือนเม.ย. โดยการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนเม.ย.ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของราคาอาหารและค่าใช้จ่ายในภาคขนส่ง
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 121.82% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี และดีดตัว 7.67% เมื่อเทียบรายเดือน
โดยรายงานระบุว่า ราคาสินค้าแพงขึ้นมากโดยเฉพาะสินค้าที่ตุรกีต้องนำเข้า อย่าง ข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวัน ซึ่งสองอย่างนี้ได้รับผลกระทบซ้ำเติมจากวิกฤตสงครามยูเครนและรัสเซียด้วย และถ้าเทียบเป็นรายปี ขณะนี้ราคาขนส่งพุ่งขึ้น 105.9% จากวิกฤตราคาพลังงาน ส่วนราคาอาหารเพิ่มมาถึง 89.1%
อีกปัญหาที่ตามมาคือราคาที่อยู่อาศัย รายงานจากธนาคารกลางตุรกีระบุว่า ค่าบ้านเฉลี่ยเมื่อเดือนก.พ. ปีนี้ที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 96.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่เมืองใหญ่อย่างนครอิสตันบูลราคาแพงขึ้น106.3%
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยหลักคือการนำเข้าวัตถุดิบ เช่น เหล็กกล้า ที่มีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้บางโครงการก่อสร้างต้องระงับชั่วคราว ส่วนราคาเช่าก็ปรับตัวแพงขึ้นด้วยเช่นกัน