กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 คน นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธดรูซและชนเผ่าเบดูอินเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ก.ค. 68) ซึ่งเหตุนองเลือดกินเวลาราว 2 วันเต็ม
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า เขาได้สั่งการโจมตีเป้าหมายที่เป็นกองกำลังและอาวุธในพื้นที่เมืองสุไวดาของซีเรีย เนื่องจากรัฐบาลซีเรีย ตั้งใจจะนำไปใช้โจมตีชาวดรูซ ด้านทางด้านซีเรียได้ประณามการเข้าแทรกแซงของอิสราเอล และระบุว่า การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีสมาชิกกองทัพและพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่กองกำลังรัฐบาลซีเรียถูกส่งเข้าไปในเมืองสุไวดา นับตั้งแต่กลุ่มรัฐอิสลามได้โค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ชุมชนชนกลุ่มน้อยหลายแห่ง รวมถึงชาวดรูซ ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาอิสลามชีอะห์ที่มีเอกลักษณ์และความเชื่อเป็นของตนเอง ยังคงไม่ไว้วางใจรัฐบาลชั่วคราวของประธานาธิบดีอาเหม็ด อัล-ชาราอา แม้ว่าเขาจะให้คำมั่นว่าจะปกป้องพวกเขา
จนถึงขณะนี้ เมืองสุไวดายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธดรูซที่ปฏิเสธการเข้าร่วมกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลใหม่ เนทันยาฮูได้กล่าวว่า เขาให้คำมั่นที่จะป้องกันอันตรายต่อชาวดรูซในซีเรีย เนื่องจากรัฐบาลอิสราเอลมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับชาวดรูซที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลและที่ราบสูงโกลัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศซีเรียออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (15 ก.ค. 68) ว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการโจมตีล่าสุดทางตอนใต้ของซีเรียและรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาด้วย ขณะที่สำนักข่าว Axios ของสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ได้ขอให้อิสราเอลยุติการโจมตีกองกำลังทหารซีเรีย โดยอิสราเอลรายงานว่าจะหยุดการโจมตีในเย็นวันอังคารที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีกลาโหมซีเรียได้ประกาศหยุดยิงในสุไวดา โดยกล่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับผู้นำท้องถิ่นในการส่งกำลังรักษาความปลอดภัยเข้าไปในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวดรูซคนหนึ่งได้เรียกร้องให้นักรบในพื้นที่ต่อต้านการเข้ามาของกองกำลังของรัฐบาลใหม่
หลังจากการส่งกองกำลังซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย SOHR ได้กล่าวหากองกำลังรัฐบาลและพันธมิตรว่าทำการประหารชีวิตพลเรือนชาวดรูซอย่างน้อย 19 คน รวมถึง 12 คน ที่บ้านพักรับรองของครอบครัว โดยไม่ผ่านการพิจารณาคดีว่ามีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการ "ทำลายล้างบ้านเรือนและทรัพย์สินของพลเรือนอย่างเป็นระบบ" รวมถึง "ขโมยสิ่งของในบ้าน ทุบประตูและหน้าต่าง และจุดไฟเผาบางส่วน"
สอดคล้องกับสำนักข่าวรอยเตอร์สที่รายงานว่า พบเห็นชายในชุดเครื่องแบบทหารกำลังเผาและปล้นบ้านเรือนและร้านค้า แต่ทางการซีเรียยังไม่มีการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที ทั้งนี้ บรรยากาศในเมืองสุไวดายังเต็มไปด้วยความรุนแรง ชาวเมืองคนหนึ่งเปิดเผยว่า เป็นหายนะที่มีการยิงกันไม่เลือกหน้า ทำให้ผู้คน "หลบหนีไปยังชนบท" แม้จะมีการประกาศเคอร์ฟิวโดยทางการซีเรีย แต่สถานการณ์ไม่ได้สงบลงเลย
การปะทะกันระหว่างชนเผ่าเบดูอินและกองกำลังติดอาวุธดรูซในสุไวดาถูกจุดชนวนขึ้นจากการปล้นและลักพาตัวพ่อค้าชาวดรูซบนทางหลวงไปยังดามัสกัสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (11 ก.ค. 68) ต่อมาไม่กี่วัน นักรบติดอาวุธดรูซรายงานว่าได้ล้อมและยึดเขตอัล-มาควาสของเมือง ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวเบดูอิน การปะทะกันได้ขยายวงไปยังส่วนอื่น ๆ ของสุไวดา เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 คน กระทรวงมหาดไทยซีเรียได้ประกาศว่ากองกำลังของตนและกองกำลังกระทรวงกลาโหมจะเข้าแทรกแซง โดยอ้างว่าไม่มีสถาบันใด ๆ ที่ดูแลควบคุมความรุนแรงนี้ได้
สำนักข่าว Suwayda 24 ที่ดำเนินการโดยนักเคลื่อนไหวในซีเรีย ระบุว่า ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่การไกล่เกลี่ยระหว่างผู้นำเบดูอินและดรูซ ส่งผลให้มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกลักพาตัวไปจากทั้งสองฝ่าย แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ร์ มีรายงานว่าการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งในชนบททางตะวันตกของเมือง หลังจากโดรนโจมตีหมู่บ้านในเวลาเดียวกับที่กองกำลังรัฐบาลถูกส่งไปยังพื้นที่ใกล้เคียง หมู่บ้านในพื้นที่ถูกโจมตีด้วยปืนครก และมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคนถูกนำส่งโรงพยาบาล
ตามรายงานของ SOHR ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวดรูซกล่าวว่าพวกเขาได้ตกลงที่จะอนุญาตให้กองกำลังรัฐบาลเข้าสู่เมืองสุไวดา เพื่อยุติการนองเลือด และเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธทั้งหมดให้ความร่วมมือและส่งมอบอาวุธของตน ด้านชีคฮิกมัต อัล-ฮัจรี ผู้นำชาวดรูซผู้ทรงอิทธิพล ได้โพสต์วิดีโอเรียกร้องให้นักรบดรูซ "ต่อต้านการรณรงค์อันโหดร้ายนี้ด้วยทุกวิถีทางที่มี" โดยกล่าวหากองกำลังรัฐบาลว่าระดมยิงผู้คนในเมืองสุไวดาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง