Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ฮุน มาเนตเข้ม!สั่งทะลายรังมิจฉาชีพทั่วกัมพูชา นักเคลื่อนไหวมองสร้างภาพ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ฮุน มาเนตเข้ม!สั่งทะลายรังมิจฉาชีพทั่วกัมพูชา นักเคลื่อนไหวมองสร้างภาพ

16 ก.ค. 68
16:25 น.
แชร์

ในวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ออกคำสั่งให้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อกวาดล้างเครือข่ายหลอกลวง (scam compounds) ทั่วประเทศ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับร่วมมือกันจัดการปัญหาอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและผู้ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ต่างมองว่า มาตรการนี้อาจเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อลดแรงกดดันจากนานาชาติมากกว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเชิงลึก

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กัมพูชาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของเครือข่ายหลอกลวงระดับโลก โดยมีแรงงานจากจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และแอฟริกา ถูกล่อลวงหรือค้ามนุษย์เข้ามาในประเทศผ่านโฆษณางานปลอม ก่อนจะถูกบังคับให้ทำงานในธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น สแกมหลอกให้รัก (romance scam) การลงทุน หรือคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่าความเสียหายรวมหลายพันล้านดอลลาร์

คำสั่งของฮุน มาเนต ซึ่งเผยแพร่เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ระบุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้อง “เคลียร์พื้นที่” ที่มีการหลอกลวงออนไลน์ทั้งหมด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้มีแรงงานต่างชาติเดินทางเข้ามาทำงานในแหล่งหลอกลวง นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากกองทัพและหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้

ในเอกสารเดียวกัน ยังมีคำสั่งให้คณะกรรมการควบคุมคาสิโนตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าคาสิโนทุกแห่งไม่มีการใช้แรงงานบังคับ การทรมาน หรือการควบคุมตัวโดยมิชอบ เนื่องจากพบว่ามีแหล่งหลอกลวงจำนวนมากฝังตัวอยู่ในธุรกิจคาสิโน โดยเฉพาะหลังรัฐบาลสั่งห้ามการพนันออนไลน์ในปี 2020 และคาสิโนหลายแห่งประสบปัญหารายได้ลดลงจากผลกระทบของโควิด-19 จนบางแห่งถูกดัดแปลงเป็นแหล่งหลอกลวง

นายเพ็น โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวว่า ทางการไม่เคยปฏิเสธว่ามีเครือข่ายหลอกลวงในประเทศ พร้อมยืนยันว่าคำสั่งฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ต่อเนื่องในการปราบปรามขบวนการดังกล่าว

ด้านฮุน มาเนต กล่าวย้ำว่า “เราไม่เคยปฏิเสธว่ากัมพูชายังมีปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ และเรายอมรับว่าเราก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกใช้พื้นที่ในการกระทำความผิด รัฐบาลของผมจะใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อขจัดขบวนการเหล่านี้ให้หมดไปจากประเทศ”

ไทยเร่งกดดันข้ามแดน ขณะคำสั่งกัมพูชายังถูกมองว่า ‘สร้างภาพ’

คำสั่งของฮุน มาเนต มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างกัมพูชากับไทยที่กำลังเผชิญข้อพิพาทชายแดน หลังจากรัฐบาลไทยประกาศความตั้งใจที่จะจัดการกับขบวนการหลอกลวงที่ส่งผลกระทบต่อพลเมืองไทยในเมียนมา กัมพูชา และลาว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจไทยได้ออกหมายจับและบุกค้นทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับก๊ก อัน สมาชิกวุฒิสภากัมพูชา พร้อมออกหมายจับเพิ่มเติมต่อบุตรชายทั้งสามของเขา นอกจากนี้ ไทยยังประกาศตัดกระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชายแดนที่เชื่อว่าเป็นศูนย์ปฏิบัติการหลอกลวง

ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาเนต ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ากัมพูชาเป็นต้นตอของปัญหา พร้อมกล่าวหาไทยกลับว่าเป็น “แหล่งหลบซ่อนของแก๊งหลอกลวง เครือข่ายยาเสพติด และการฟอกเงิน”

ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการองค์กร Asia Human Rights and Labor Advocates ให้ความเห็นว่าการที่ไทยหันมาให้ความสำคัญกับการกวาดล้างศูนย์หลอกลวงตามแนวชายแดนนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำมานานแล้ว แม้กัมพูชาจะแสดงความกังวลต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่เขากลับมองว่าความเป็นไปได้ที่รัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการอย่างจริงจังนั้นยังต่ำมาก

“นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตกำลังวางหมากใหม่ในเกมการแสดง ด้วยคำประกาศใหญ่โตแต่ไร้น้ำหนัก” นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนในกรุงเทพฯ กล่าว “รัฐบาลกัมพูชาต้องการสร้างภาพว่ากำลังจัดการกับปัญหา แต่ในความเป็นจริงไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”

ก่อนหน้านี้ กัมพูชาเคยประกาศกวาดล้างเครือข่ายหลอกลวงในพื้นที่สำคัญ เช่น เมืองท่าสีหนุวิลล์และเมืองชายแดนบาเว็ต โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2022 ที่ตำรวจบุกค้นสถานที่ต้องสงสัยหลายจุดและมีคำสั่งให้ปิดกิจการ แต่ไม่นานหลังจากนั้น สื่อท้องถิ่นก็รายงานว่าสถานที่เหล่านี้กลับมาเปิดดำเนินงานตามปกติอีกครั้ง

ความหละหลวมในการจัดการปัญหาของกัมพูชาทำให้แรงกดดันจากนานาชาติยังคงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เปิดเผยรายงานที่ชี้ว่าเครือข่ายหลอกลวงในกัมพูชายังคงดำเนินกิจการได้โดยแทบไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยหนึ่งในสามของสถานที่ที่มีการสืบสวน พบว่าแม้จะเคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น แต่ก็สามารถกลับมาละเมิดสิทธิมนุษยชนได้อีกภายในเวลาไม่นาน

เจค็อบ ซิมส์ นักวิจัยจากศูนย์เอเชียแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยรายงานเมื่อต้นปีนี้ที่ระบุถึงความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นระหว่างชนชั้นนำทางการเมืองในกัมพูชากับผู้ดำเนินกิจการเครือข่ายหลอกลวง เขามองว่าสิ่งนี้ทำให้ความพยายามใด ๆ ที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มเหล่านี้ดูน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง

ซิมส์ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่ทางการกัมพูชาจะมีปฏิบัติการแสดงภาพบางอย่างในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อเบี่ยงเบนแรงกดดันจากต่างชาติ แต่เขาตั้งข้อสงสัยถึงความตั้งใจจริงในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฎหมายนี้

“ถ้าจะมีความพยายามปราบปรามอย่างแท้จริงต่ออุตสาหกรรมนี้ในกัมพูชา พรรคประชาชนกัมพูชาก็จะต้องกล้ายุ่งกับผู้มีอุปการคุณระดับสูงของตนเอง ซึ่งในบริบททางการเมืองปัจจุบันของประเทศ แทบเป็นไปไม่ได้เลย” ซิมส์กล่าว

ที่มา: Nikkei Asia

แชร์
ฮุน มาเนตเข้ม!สั่งทะลายรังมิจฉาชีพทั่วกัมพูชา นักเคลื่อนไหวมองสร้างภาพ