ธุรกิจการตลาด

หุ้น JKN พุ่ง 18.80% รับข่าว ผนึกกำลัง TOPNEWS ผลิตข่าว ขยายฐานผู้ชม

11 ก.ย. 66
หุ้น JKN พุ่ง 18.80% รับข่าว ผนึกกำลัง TOPNEWS ผลิตข่าว ขยายฐานผู้ชม

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสข่าวลือหนาหูมาก ถึงการขายช่อง JKN18 ของ “แอน จักรพงษ์” ให้กับช่อง TOPNEWS จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้ รุ่น JKN239A ที่ต้องเร่งหาเงินมาชำระหนี้ก้อนหนี้ ราว 400 ล้านบาท

ล่าสุด ข่าวลือก็ปรากฎความจริง เพียงครึ่งเดียวว่า มีความร่วมมือผนึกกำลังการจริงๆ ในการผลิตรายการข่าวสาร ระหว่างช่อง JKN18 กับ TOPNEWS ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และกลับเข้ามาเก็งกำไร ทำให้ราคาหุ้นเปิดตลาดพุ่ง 18.80% หลังจากทราบข่าวการผนึกกำลัง หวังจะช่วยสร้างเรตติ้ง และมีเงินสดเข้ามาเสริมสภาพคล่อง

โดย ราคาหุ้น JKN ปรับตัวขึ้นทันที 18.80% หรือเพิ่มขึ้น 0.22 บาท มาที่ 1.39 บาท/หุ้น จากราคาเปิด 1.36 บาท/หุ้น ราคาสูงสุด 1.42 บาทท/หุ้น และราคาต่ำสุด 1.32 บาท/หุ้น สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลง 6.56 จุด หรือลดลง 0.42% มาอยู่ที่ 1,540.61 จุด 

บล.หยวนต้า ประเมินนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร 

โดยบล.หยวนต้า นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ เผยว่า ราคาหุ้นของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน หรือ JKN ที่ปรับตัวขึ้นมา คาดว่าจะจากการที่นักลงทุนได้เข้ามาเก็งกำไรข ภายหลังข่าว JKN ได้ผนึกกำลังกับบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด ที่ผลิตและเผยแพร่ข่าวสารในสถานีข่าว Top News จะเข้ามาดูแลการผลิตรายการข่าวสาร สาระ ทั้งข่าวทั่วไป ประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน แทนสถานีข่าวทุกประเภทของ JKN ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ JKN รับรู้เงินสดเข้ามาบางส่วนช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับกลุ่มธุรกิจ

“ถือว่ามีความสมเหตุสมผลเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท โดย JKNBL ยังเป็นผู้ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เช่นเดิม และมิได้ทำการขายสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ตามที่ปรากฏในรายงานข่าวแต่อย่างใด” 

สำหรับการร่วมผลิตรายการในครั้งนี้นั้น จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับช่อง JKN18 ด้วย การนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันความนิยมของผู้ชม รวมถึงขยายฐานผู้ชมช่อง JKN18 ให้มีจำนวนมากขึ้น สามารถเสริมสร้างให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

โดย JKN18 ยังคงเป็นผู้ดูแลในกลุ่มรายการด้านบันเทิงทั้งหมด โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันความนิยมของผู้ชม รวมถึงขยายฐานผู้ชมของสถานีโทรทัศน์ JKN18 และการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทในการเป็นผู้นำด้านรายการข่าวและบันเทิงมาร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยยกระดับให้ช่อง JKN 18 เป็นสถานีโทรทัศน์ด้านข่าวสาร สาระและความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ 

JKN18 ดูแลข่าวบันเทิงอย่างเดียว ที่เหลือ TOPNEWS ดูแลทั้งหมด เริ่ม 18 ก.ย.นี้

บริษัทเจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศจับมือพันธมิตร เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจกับบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด ในส่วนของธุรกิจทีวีดิจิตอล 

โดย JKN18 ยังคงเป็นผู้ดูแลในกลุ่มรายการด้านบันเทิงทั้งหมด โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันความนิยมของผู้ชม ขณะที่สถานีข่าว Top News  จะดูแลในกลุ่มรายการข่าวสาร สาระ ทั้งในด้านข่าวทั่วไป ประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน แทนสถานีข่าวทุกประเภทของ JKN ทั้งหมดในปัจจุบัน 

อย่างไรก็ตาม การนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทในการเป็นผู้นำด้านรายการข่าวและบันเทิงมาร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยยกระดับให้ช่อง JKN 18 เป็นสถานีโทรทัศน์ด้านข่าวสาร สาระและความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ โดยการปรับรูปโฉมใหม่นี้จะเริ่มต้นในวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 

โดยในช่วงเช้าของวันนี้ก่อนเปิดตลาดหลักทรัพย์ไทย JKN ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการร่วมผลิตรายการข่าวกับ TOPNEWS ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำผังรายการ โดย JKN จะได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับช่อง JKN18 ซึ่งมีฐานจำนวนคนดูจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ในอนาคต

ถือว่าเป็นการทำงานอย่างเข้มแข็ง และกล้าหาญมากสำหรับ “แอน จักรพงษ์” ที่กล้าเปลี่ยนแปลง ปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ มองจุดเด่นของบริษัท และมองหาจุดเด่นของพาร์ทเนอร์ ให้เข้ามาเสริมให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น และสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมสื่อในยุคดิจิทัลนี้ได้ดีเลยทีเดียว

ก้าวต่อไปจากนี้ ยังคงหวังว่า JKN จะสามารถหาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้หุ้นกู้ ที่ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นเดียวกันที่ต้องหาเงินมาชำระหุ้นกู้ส่วนที่เหลือให้ได้ เพื่อไม่ให้หุ้นกู้ชุดอื่นๆ ที่เตรียมจะครบกำหนดในปีหน้าต้องถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ไปด้วย เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทเอาไว้ให้เดินต่อไปได้

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT