‘สงครามส่งด่วน’ หรือจะสู้ ‘สงครามหม้อเดือด’ ระหว่าง MK แบรนด์ยักษ์ใหญ่รุ่นพี่ในวงการ กับ สุกี้ตี๋น้อย แบรนด์น้องใหม่ไฟแรงที่กล้าสั่นบัลลังก์ ที่ไม่ว่าจะจะออกโปรโมชั่น หรือแคมเปญกี่ครั้ง ผู้บริโภคอย่างเราก็ไม่พ้นต้องมาเปรียบเทียบกับทุกที
เช่น สุกี้น้อยมีจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคา เอาใจกลุ่มแมส มีแคมเปญให้ผู้บริโภคนำน้ำจิ้มแบรนด์ไหนก็ได้ถือเข้ามากินในร้าน หรือ ออกเมนูเป็ดเพื่อสร้างประสบการณ์เมนูใหม่ๆให้แก่ลูกค้า แต่ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า เวลาผู้บริโภคไปกินร้านสุกี้แล้วมีเป็ด = ร้าน MK
หรือจะเป็นฝั่ง MK ที่มีจุดแข็งเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ แม้ราคาจะสูงแต่รสชาติไม่เป็นรองแน่นอน แต่สุดท้าย MK ก็ได้ออกเมนูใหม่ๆ แคมเปญใหม่ๆ อย่างเช่น สุกี้แห้ง เอาใจผู้บริโภคที่เรียกร้องกันเข้ามาอย่างหนัก หรือจะเป็นการปรับลดราคาให้ถูกลงเอาใจสายมากินคนเดียว และส่าสุดคือ การเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ที่อยู่ชายคา MK อย่าง โบนัสสุกี้ บุฟเฟ่ต์ที่มีทั้งความคุ้มค่าคุ้มราคา เอาใจสายกินจุ
ซึ่งนี่เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ถูกปรับกันไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งแม้ว่าการแข่งหั่นราคาหรือการอัดโปรโมชั่นอาจเป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา แต่คำถามก็คือนี่คือมันยั่งยืนหรือเปล่า ?
บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M Group ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่ากำไรสุทธิเหลืออยู่ที่ 276 ล้านบาท ลดลงกว่า 31.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 401 ล้านบาท โดยคาดว่ามาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จนทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคหด
ส่วนบีเอ็นเอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่ากำไรสุทธิเหลืออยู่ที่311 ล้านบาท ลดลงเพียง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แม้จะปิดจบไตรมาส 2 ด้วยกำไรที่หดทั้งคู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าศึกนี้คงไม่จบลงง่ายๆเพราะปัจจุบันสุกี้ตี๋น้อย มีร้านค้ามากกว่า 86 สาขา และTeenoi BBQ 4 สาขา และ Teenoi Express 1 สาขา และคาดว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆและใหม่ๆจากสุกี้ตี๋น้อยอย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับ MK ที่ได้มีการวางแผนรุกต่อเนื่อง เริ่มจาก MK Restaurants ประกาศขยายโปร “คุ้ม คุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท” ถึงเดือนสิงหาคมแล้ว รวมถึงแบรนด์น้องใหม่ในพอร์ต “Bonus Suki” ที่พึ่งเปิดตัวสาขาแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคม และแผนการขยายสาขาของแบรนด์ในเครือ