กางปริมาณน้ำมันสำรองโลก เวเนซุเอลามีมากสุด แม้ผลิตได้น้อยกว่าสหรัฐฯ
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาในเวลานี้ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเวเนซุเอลาอย่างหนัก รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาเวเนซุเอลาว่า นำเงินจากการขายน้ำมันไปสนับสนุนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนนำไปสู่การยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาเอาไว้ ในขณะที่เวเนซุเอลาประณามการกระทำของสหรัฐฯ ว่า เป็น "การลักขโมยและการกระทำเสมือนโจรสลัด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หากเราไปดูข้อมูลเรื่อง “น้ำมัน” ซึ่งถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าบนโลกใบนี้ เราจะพบว่า จริง ๆ แล้ว สหรัฐฯ คือประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในโลกในปี 2024 ส่วนเวเนซุเอลาก็สามารถผลิตน้ำมันได้เช่นกันแต่น้อยกว่า แต่ความน่าสนใจคือ แม้เวเนซุเอลาจะผลิตน้ำมันได้ไม่เท่ากับสหรัฐฯ แต่เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก
น้ำมันสำรองคืออะไร?
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงานระบุว่า ปริมาณสำรองปิโตรเลียม หรือ Petroleum Reserves คือ ปริมาณปิโตรเลียมที่สามารถจะผลิตขึ้นมาได้อย่างคุ้มค่าต่อการลงทุนจากแหล่งปิโตรเลียม ภายใต้เงื่อนไขทางเศรษฐศาสตร์ ณ ขณะนั้น โดยแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ
1.ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว
2.ปริมาณสำรองที่คาดว่าจะพบ
3.ปริมาณสำรองที่น่าจะพบ
สำหรับน้ำมันสำรองประเภท “ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว” หรือ Proved Reserves เป็นปริมาณปิโตรเลียมที่วิเคราะห์จากข้อมูลทางด้านธรณีวิทยา และด้านวิศวกรรม สามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่สำรวจค้นพบแล้ว ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันอย่างคุ้มค่าเชิงพาณิชย์ โดยมีแผนการผลิตปิโตรเลียมที่ชัดเจน และได้รับอนุญาตจากภาครัฐแล้ว ซึ่งหากประเมินปริมาณสำรองโดยใช้วิธีด้านความแน่นอน (Deterministic) จะถือว่าเป็นปริมาณที่มีความมั่นใจสูงว่าจะสามารถผลิตปิโตรเลียมในปริมาณดังกล่าวขึ้นมาได้ หรือหากใช้วิธีทางสถิติ (Probabilistic) จะมีความน่าจะเป็นอย่างน้อยร้อยละ 90 ที่จะผลิตปิโตรเลียมได้เท่ากับหรือมากกว่าปริมาณปิโตรเลียมดังกล่าว ทั้งนี้ ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว เรียกสั้น ๆ ได้อีกอย่างว่า P1
ประเทศที่มีน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดคือเวเนซุเอลา
ตามรายงานทบทวนประจำของปีของ OPEC ระบุว่า เวเนซุเอลาคือประเทศที่ถือครองน้ำมันดิบสำรอง P1 เกือบ 1 ใน 5 ของโลก หรือราว 303,000 ล้านบาร์เรล รองลงมาคือซาอุดีอาระเบีย 267,000 ล้านบาร์เรล อิหร่าน 209,000 ล้านบาร์เรล อิรัก 145,000 ล้านบาร์เรล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 113,000 ล้านบาร์เรล
ในขณะที่สหรัฐฯ เองก็เป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองประเภท P1 เป็นลำดับที่ 9 ของโลก ด้วยปริมาณ 45 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของ OPEC ระบุว่า ในปี 2024 ประเทศที่ผลิตน้ำมันได้เยอะที่สุดในโลกคือ สหรัฐฯ ซึ่งสามารถผลิตได้ถึง 18.2 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำมันโลกที่ผลิตได้ ตามมาด้วยรัสเซีย 12.7 เปอร์เซ็นต์ และซาอุดีอาระเบีย 12.3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เวเนซุเอลาครองสัดส่วนการผลิตน้ำมันแค่ 1.3 เปอร์เซ็นต์ของโลกเท่านั้น
เวเนซุเอลา มีทรัพยากรมหาศาล แต่ผลิตได้จำกัด
เวเนซุเอลาถือครองปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่พิสูจน์แล้วมากที่สุดในโลก โดยคาดการณ์ว่ามีปริมาณสูงถึง 303,000 ล้านบาร์เรลในปี 2024 แหล่งสำรองส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณแถบโอริโนโก (Orinoco Belt) ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันดิบชนิดหนักมาก (Extra-heavy crude) อันต้องใช้เทคนิคการสกัดขั้นสูงในการผลิต
แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล แต่การผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลากลับเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ ทั้งจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยในปี 2024 ยอดการผลิตน้ำมันของประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 921,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์และการดำเนินกุศโลบายทางการเมือง
บริษัท Petróleos de Venezuela, S.A. (PDVSA) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นผู้บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันของชาติ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานกลับถูกขัดขวางจากการขาดแคลนเงินทุนจากต่างประเทศและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ดังนั้นศักยภาพที่แท้จริงของอุตสาหกรรมน้ำมันในเวเนซุเอลาก็ยังคงไม่ถูกนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
