
เจ้าหน้าที่กองเรือชายฝั่งของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ กำลังไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันลำที่ 3 ที่เชื่อมโยงกับเวเนซุเอลา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง "การไล่ล่าอย่างจริงจัง" ต่อเรืออีกลำหนึ่งในน่านน้ำสากลใกล้กับเวเนซุเอลา ทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงทวีความรุนแรงขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันไปแล้ว 2 ลำในเดือนนี้ โดยลำหนึ่งถูกยึดเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา รวมถึงเรือสคิปเปอร์ลำใหญ่ถูกยึดไปเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมเป็นลำแรก
รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาเวเนซุเอลาว่า นำเงินจากการขายน้ำมันไปสนับสนุนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในขณะที่เวเนซุเอลาประณามการยึดเรือบรรทุกน้ำมันว่าเป็น "การลักขโมยและการกระทำเสมือนโจรสลัด"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรไม่ให้เข้าหรือออกจากประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก โดยทางเวเนซุเอลาได้กล่าวหาว่ารัฐบาลของทรัมป์กำลังพยายามขโมยทรัพยากรของตน
แม้ทางการสหรัฐฯ จะยังไม่ได้ยืนยันการไล่ล่าเรือลำที่ 3 อย่างเป็นทางการ และยังไม่ทราบชื่อรวมถึงตำแหน่งที่แน่นอนของเรือลำดังกล่าว แต่ข้อมูลจาก TankerTrackers.com ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรือมากกว่า 30 ลำ อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จากทั้งหมด 80 ลำในน่านน้ำเวเนซุเอลา
สำหรับการยึดเรือเมื่อวันเสาร์ ทีมยุทธวิธีพิเศษได้บุกขึ้นเรือบรรทุกน้ำมันที่จดทะเบียนในปานามาในน่านน้ำสากล แม้เรือลำดังกล่าวจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อเรือที่ถูกคว่ำบาตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ระบุว่าเรือกำลังขนส่ง "น้ำมันของ PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ที่ถูกคว่ำบาตร" นอกจากนี้ ข้อมูลจาก BBC Verify ยังพบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เรือลำนี้เคยเดินเรือภายใต้ธงชาติกรีซและไลบีเรียด้วย
รัฐบาลเวเนซุเอลาแถลงตอบโต้เหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า "จะไม่ปล่อยให้สหรัฐฯ ลอยนวล" และเตรียมยื่นคำร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมถึงหน่วยงานพหุภาคีและรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เวเนซุเอลาพึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันอย่างมากเพื่อใช้จ่ายในงบประมาณรัฐบาล ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เสริมกำลังทหารในทะเลแคริบเบียนและดำเนินการโจมตีเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติดของเวเนซุเอลา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 100 คน
นอกจากนี้ ยังมีการคว่ำบาตรญาติบางส่วนของประธานาธิบดีมาดูโร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกว่า "ระบอบการปกครองที่ผิดกฎหมาย"
ด้านมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า "เป็นที่ชัดเจนว่าสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของระบอบการปกครองเวเนซุเอลานั้น เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ไม่อาจยอมรับได้"
เขากล่าวเสริมว่า เป้าหมายของรัฐบาลทรัมป์คือการเปลี่ยนแปลงอำนาจของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งคำพูดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลาที่กล่าวหาว่ารูบิโอกำลังลากสหรัฐฯ เข้าสู่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนระบอบการปกครอง นับเป็นการแทรกแซงการเมืองในประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังไม่มีการเปิดเผยหลักฐานต่อสาธารณะว่าเรือเหล่านี้ขนส่งยาเสพติด และการปฏิบัติการทางทหารกำลังถูกตรวจสอบอย่างหนักจากสภาคองเกรส เนื่องจากการโจมตีที่เกิดขึ้น รัฐบาลทรัมป์ได้กล่าวหาประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ว่าเป็นผู้นำองค์กรก่อการร้ายที่ชื่อว่า "Cartel de los Soles" ซึ่งทางมาดูโรให้การปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด