สรุปแผนสันติภาพยูเครน ทรัมป์เสนอสละดินแดน ลดขนาดกองทัพ แลกการคุ้มครอง
ร่างแผนสันติภาพฉบับใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า สำหรับการยุติสงครามในยูเครนนั้น จะกำหนดให้รัฐบาลยูเครนต้องยกดินแดนให้แก่รัสเซีย โดยสหรัฐฯ จะยอมรับโดยพฤตินัยว่าไครเมียและดินแดนอื่น ๆ ของยูเครน ที่ขณะนี้รัสเซียกำลังยึดครองมาอย่างผิดกฎหมายนั้น เป็นของรัสเซียโดยชอบธรรม รวมถึงยูเครนจะต้องจำกัดขนาดกองทัพด้วย ตามร่างแผนที่สำนักข่าว CNN ได้รับมาเมื่อวันพฤหัสบดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันความถูกต้องของร่างแผนดังกล่าวกับสื่อมวลชนสหรัฐฯ ซึ่งแนวคิดหลายอย่างที่นำเสนอในแผน 28 ประการนี้ ยูเครนและชาติยุโรปเคยปฏิเสธที่จะนำแผนมาเข้าร่วมในการเจรจาครั้งก่อน ๆ เพราะถูกมองว่า เป็นการยอมประนีประนอมต่อรัสเซีย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า แผนดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และข้อตกลงขั้นสุดท้ายใด ๆ จะต้องอาศัยการประนีประนอมจากทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ยูเครนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นบางส่วนที่กำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในขณะนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นข้อสรุป ด้านเลขานุการฝ่ายสื่อทำเนียบขาวกล่าวว่า แผนยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
หลังจากพบกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลทรัมป์ในแผนใหม่นี้ โดยกล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า เขาเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานที่สร้างสรรค์ ซื่อสัตย์ และรวดเร็วเพื่อบรรลุสันติภาพ
ทั้งนี้ แผน 28 ประเด็นนี้ นับเป็นความพยายามล่าสุดของทำเนียบขาวในการยุติสงครามรัสเซียในยูเครน ข้อกำหนดบางส่วนของข้อเสนอ รวมถึงการยอมยกดินแดนในพื้นที่ที่รัสเซียไม่ได้ควบคุมอยู่ในปัจจุบัน เคยเป็นสิ่งที่ฝ่ายยูเครนไม่เคยยอมรับมาก่อน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มองเห็นช่องทางใหม่ในการเริ่มต้นการหารือเพื่อสันติภาพอีกครั้ง
มัดรวมรายละเอียดแผน ทำอะไร-ไม่ทำอะไร
ร่างแผนนี้อธิบายถึงการดำเนินการตามแผนว่าจะได้รับการกำกับดูแลและค้ำประกันโดยคณะมนตรีสันติภาพ ซึ่งมีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธาน คล้ายกับการหยุดยิงในฉนวนกาซา และระบุว่า จะมีการคว่ำบาตรสำหรับฝ่ายใดก็ตามที่มีการละเมิดข้อตกลงสันติภาพ
ร่างแผนนี้จะกำหนดให้ ไครเมีย ลูฮันสค์ และโดเนตสค์ ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นของรัสเซียโดยพฤตินัย ซึ่งนับเป็นการกลับลำนโยบายที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนานของสหรัฐฯ ที่จะยอมรับบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนและไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตโดยใช้กำลัง
นอกจากนี้ ร่างแผนระบุว่า พื้นที่เคอร์ซอนและซาโปริซเซีย จะถูกตรึงไว้ตามแนวเส้นควบคุม และสำหรับภูมิภาคอื่น ๆ นอกเหนือจาก 5 พื้นที่นี้ ที่รัสเซียควบคุมไว้ได้นั้น รัสเซียก็จะต้องสละดินแดนอื่น ๆ ที่ตกลงกันไว้
ในรายละเอียด แผนดังกล่าวเรียกร้องให้กองกำลังยูเครนถอนทหารออกจากส่วนต่าง ๆ ของภูมิภาคโดเนตสค์ และหลังจากนั้น พื้นที่ดังกล่าวจะกลายเป็นเขตกันชนปลอดทหารที่มีความเป็นกลาง แต่จะเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติในฐานะดินแดนที่เป็นของสหพันธรัฐรัสเซีย แผนระบุว่า กองกำลังรัสเซียจะไม่เข้าสู่เขตปลอดทหาร ทั้งสองประเทศจะให้คำมั่นว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงการจัดเตรียมอาณาเขตที่ตกลงกันไว้ด้วยกำลัง มิฉะนั้นการค้ำประกันความมั่นคงจากสหรัฐฯ จะไม่เป็นผล
ร่างแผนระบุว่า หากรัสเซียบุกยูเครน "นอกเหนือจากการตอบสนองทางทหารที่เด็ดขาดและประสานงานกันแล้ว การคว่ำบาตรทั่วโลกทั้งหมดจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ การยอมรับดินแดนใหม่ และผลประโยชน์อื่น ๆ ทั้งหมดของข้อตกลงนี้จะถูกยกเลิก" ขณะเดียวกัน "หากยูเครนยิงขีปนาวุธใส่กรุงมอสโกหรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยไม่มีเหตุอันควร การค้ำประกันความมั่นคงจะถือเป็นโมฆะ"
อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การกำหนดว่าให้รัสเซีย-ยูเครน ทำอะไรและไม่ทำอะไรบ้าง แต่ยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของการค้ำประกันความมั่นคงที่สหรัฐฯ ให้คำมั่นไว้กับยูเครน แต่กลับมีระบุไว้ว่า สหรัฐฯ จะได้รับค่าชดเชยจากยูเครนอย่างไรบ้าง ในการสร้างความปลอดภัยในยูเครน
ลดขนาดกองทัพ จัดเลือกตั้ง สร้างคณะทำงาน
ร่างแผนนี้รวมถึงคำมั่นที่ว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ซึ่ง NATO จะต้องไม่ประจำการทหารในยูเครน หรือแม้แต่เครื่องบินขับไล่ของยุโรปจะไปประจำการในโปแลนด์ ไม่ใช่ในยูเครน แผนนี้ยังจำกัดขนาดกองทัพยูเครนไว้ที่ 600,000 นาย และยังเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งของยูเครนภายใน 100 วัน
นอกจากนี้ ร่างแผนเรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "คณะทำงานร่วมด้านประเด็นความมั่นคง" ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย เพื่อส่งเสริมและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของข้อตกลงนี้ รวมถึงยังกำหนดแนวทางสำหรับการกลับเข้าสู่ประชาคมโลกของรัสเซีย รวมถึงการยกเลิกการคว่ำบาตร, การได้รับเชิญให้กลับเข้าร่วมกลุ่ม G8 และการบูรณาการเข้าสู่เศรษฐกิจโลกอีกครั้ง
แผนดังกล่าวจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสงครามได้รับนิรโทษกรรมอย่างสมบูรณ์สำหรับการกระทำของตนในช่วงสงคราม และตกลงที่จะไม่เรียกร้องหรือพิจารณาข้อร้องเรียนใด ๆ ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากำหนดเวลานั้นรวดเร็วเพียงใด หรือเซเลนสกีได้ตกลงตามประเด็นต่าง ๆ ของแผนหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยุโรปและยูเครนบอกกับ CNN เมื่อวันพุธว่า แผนนี้ดูเหมือนจะมีข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถยอมรับได้และสุดโต่งจากรัสเซีย รวมถึงการยอมเสียดินแดนในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออก ซึ่งรัสเซียยังไม่ได้ควบคุมอยู่ในปัจจุบันด้วยซ้ำ
