ทุจริตยูเครนซ้ำเติมสงคราม รัฐมนตรีทรยศชาติ! ฟอกเงินงบพลังงานในรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกมาเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สวิตลานา กรีนชุก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฮอร์มาน ฮาลุชเชนโก ลาออกจากตำแหน่ง แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นพันธมิตรคนสำคัญของผู้นำยูเครนก็ตาม สืบเนื่องจากการสอบสวนคดีคอร์รัปชันครั้งใหญ่ พบมีเอี่ยวในการยักยอกงบประมาณด้านพลังงานของประเทศ ล่าสุด สองรัฐมนตรีคนสนิทของเซเลนสกีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา องค์กรต่อต้านการทุจริตในยูเครนได้ออกมาแฉถึงบุคคลหลายคนที่คาดว่า อยู่เบื้องหลังแผนการยักยอกเงินในภาคพลังงาน ซึ่งมีมูลค่าประมาณสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงที่บริษัทชื่อดังที่ดำเนินการด้านนิวเคลียร์แห่งชาติอย่าง Enerhoatom ก็มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวด้วย
ในรายละเอียดข้อกล่าวหาระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฮอร์มาน ฮาลุชเชนโก รวมถึงรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่สำคัญคนอื่น ๆ ได้รับเงินจากผู้รับเหมาที่รับงานก่อสร้างเครื่องป้องกันการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อรับมือกับการรุกรานของรัสเซีย
ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออเลกซีย์ เชอร์นีชอฟ และ ทิมูร์ มินดิช ซึ่งเป็นนักธุรกิจและเป็นเจ้าของร่วมของสตูดิโอรายการโทรทัศน์ Kvartal95 ซึ่งเป็นสตูดิโอเก่าของเซเลนสกี มีรายงานว่านักธุรกิจคนนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ฮาลุชเชนโกกล่าวว่าจะปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหา ขณะที่กรีนชุกกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า "ในขอบเขตของกิจกรรมทางวิชาชีพของเธอนั้น ไม่มีส่วนใดที่ละเมิดกฎหมาย"
สำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติของยูเครน (Nabu) และสำนักงานอัยการพิเศษปราบปรามการทุจริต (Sap) กล่าวว่า การสอบสวนซึ่งใช้เวลาถึง 15 เดือน และเกี่ยวข้องกับ การบันทึกเสียงกว่า 1,000 ชั่วโมง ได้เปิดเผยการมีส่วนร่วมของสมาชิกหลายคนในรัฐบาลยูเครน ตามข้อมูลของ Nabu ผู้เกี่ยวข้องได้เรียกรับ เงินสินบน (kickbacks) อย่างเป็นระบบจากผู้รับเหมาของ Enerhoatom คิดเป็นมูลค่าระหว่าง 10% ถึง 15% ของมูลค่าสัญญา
องค์กรต่อต้านการทุจริตยังกล่าวอีกว่า มีการฟอกเงินจำนวนมหาศาลในแผนการนี้ และได้เผยแพร่ภาพถ่ายของกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเงินสด โดย Nabu ระบุว่า เงินทุนดังกล่าวถูกโอนออกนอกยูเครน และพบว่ามีการฟอกเงินในประเทศศัตรูอย่างรัสเซียด้วย อัยการกล่าวหาว่า รายได้จากแผนการนี้ถูกฟอกผ่านสำนักงานแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของ อันดรีย์ เดอร์คาช ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติยูเครนและปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิกของรัสเซีย ทั้งนี้ Nabu กำลังเผยแพร่ข้อมูลการสอบสวนและเทปดักฟังใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องทุกวัน และให้คำมั่นว่าจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมอีก
ข่าวฉาวมีผลต่อสถานะสมาชิกสหภาพยุโรป
เรื่องอื้อฉาวนี้กำลังเกิดขึ้นท่ามกลางการโจมตีที่ทวีความรุนแรงขึ้นของรัสเซียต่อโรงงานพลังงานของยูเครน รวมถึงสถานีไฟฟ้าย่อยที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาคอร์รัปชันในยูเครน ซึ่งยังคงแพร่หลายอยู่ แม้จะมีความพยายามจากองค์กรตรวจสอบทุจริตมาเป็น 10 ปี
ในเดือนกรกฎาคม เคยมีการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศยูเครน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่พยายามจะจำกัดความเป็นอิสระขององค์กรปราบปรามการทุจริตหลักสองแห่ง คือ Nabu (สำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) และ Sap (สำนักงานอัยการพิเศษปราบปรามการทุจริต) ซึ่งประชาชนชาวยูเครนมีความกังวลอย่างยิ่งว่า การจำกัดอำนาจของหน่วยงานเหล่านี้จะส่งผลให้ประเทศ สูญเสียสถานะผู้สมัครสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)
สหภาพยุโรปได้มอบสถานะนี้ให้กับยูเครน ภายใต้เงื่อนไขสำคัญที่ว่า ยูเครนต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับการทุจริตอย่างจริงจังและน่าเชื่อถือ การบั่นทอนอำนาจของ Nabu และ Sap จึงถูกมองว่าเป็นการละเมิดเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ความฝันในการเข้าร่วม EU ต้องพังทลายลง
ขณะนั้น พันธมิตรยุโรปของยูเครนได้แสดงความกังวลอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจดังกล่าว โดยเอกอัครราชทูตจากกลุ่มประเทศ G7 พยายามหารือประเด็นนี้กับผู้นำยูเครน ปฏิกิริยาต่อต้านครั้งนั้นเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดที่รัฐบาลยูเครนเผชิญนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 และถูกระงับลงได้จากการตัดสินใจของเซเลนสกีที่จะฟื้นฟูความเป็นอิสระของทั้งสององค์กรต่อต้านการทุจริต
อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคน วิกฤตการณ์ครั้งนั้นทำให้ความทุ่มเทของเซเลนสกีต่อการปฏิรูปการต่อต้านการทุจริตเป็นที่น่าสงสัย และข่าวฉาวล่าสุดนี้ก็เสี่ยงที่จะนำไปสู่คำถามที่น่าอึดอัดใจมากขึ้นสำหรับประธานาธิบดียูเครน เนื่องจากรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องกลับเป็นคนสนิทหรืออย่างน้อยก็ ‘เคย’ สนิทกับผู้นำยูเครนมาก่อน
