Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดคดีทุจริตนักการเมือง ทำชาวเนปาลแค้นจัด โดนไล่ล่า เผาบ้าน ลากลงน้ำ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เปิดคดีทุจริตนักการเมือง ทำชาวเนปาลแค้นจัด โดนไล่ล่า เผาบ้าน ลากลงน้ำ

11 ก.ย. 68
13:42 น.
แชร์

คลิปวีดิโอชายคนหนึ่งถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะถูกฝูงชนลากลงแหล่งน้ำ และถูกทำร้ายร่างกาย กลายเป็นไวรัลที่สร้างความตกใจให้กับชาวเน็ตไม่น้อย ก่อนที่จะพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเนปาล ตามมาด้วยคลิปวิดีโอของหญิงคนหนึ่ง ที่กำลังอ้อนวอนขอชีวิต เพราะถูกกลุ่มผู้ประท้วงทำร้ายร่างกายจนใบหน้าฟกช้ำ และท้ายสุด การไล่ล่าเผาที่พักของบรรดานักการเมืองชาวเนปาล ก็นำมาซึ่งการเสียชีวิตของภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรีเนปาล เป็นเหตุสลดที่ไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้น

ความรุนแรงเหล่านี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากแรงแค้นของประชาชนต่อตัวนักการเมือง ด้วยคดีทุจริตที่ทั้งประเทศรับรู้กันดี แต่กลับเอาผิดอะไรไม่ได้กับนักการเมืองเนปาลหลายคน Spotlight รวบรวมคดีฉาว-คดีทุจริต เบื้องหลังที่จุดกระแสประท้วงครั้งใหญ่ในเนปาล พวกเขาพัวพันคดีอะไรบ้าง จนได้รับบทลงโทษจากประชาชนที่โกรธแค้น

รมว. คลังกับปมโกงกินที่ดินรัฐ

“นายพิษณุ ประสาด เปาเดล” (Bishnu Prasad Paudel) อาจเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนเดียวในโลก ที่ถูกประชาชนสั่งปลดเสื้อผ้า ก่อนจะลากลงไปทำร้ายร่างกายกลางน้ำ นักการเมืองคนนี้มีประวัติโชกโชน นั่งเก้าอี้กลาโหมและมหาดไทยมาก่อน เรียกได้ว่าเก๋าเกมการเมืองเนปาล เขามีชื่อพัวพันในคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการยึดครองที่ดินของรัฐอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่บาลูวาตาร์ ใจกลางกรุงกาฐมาณฑุ ชาวเนปาลยังมองว่า ตระกูลของเขาร่ำรวยผิดปกติ และเป็นนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเมืองเนปาล

มีรายงานว่า ลูกชายของเขาได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย เแต่ท้ายที่สุดคณะกรรมการสอบสวนการทุจริต (CIAA) และศาลยุติธรรมไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับเขา เพียงเพราะครอบครัวของเขาตัดสินใจนำโฉนดที่ดินมาคืนรัฐบาล จึงถือว่าเป็นการจบคดีและไม่มีความผิด นักเคลื่อนไหวต่อต้านการทุจริตจึงมองว่าการตัดสินดังกล่าวอาจมีแรงจูงใจทางการเมือง และการที่เขาและผู้พิพากษาตกลงที่จะคืนที่ดินไม่ได้แปลว่าพวกเขาบริสุทธิ์

นายพิษณุ ประสาด เปาเดล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเนปาล

อดีตนายกฯ เนปาล เล่นแร่แปรธาตุ อยู่ยาว 5 สมัย 

“เชอร์ บาฮาดูร์ ดูบา” (Sher Bahadur Deuba) อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลที่นั่งตำแหน่งนี้ยาวนานถึง 5 สมัย นับเป็นตัวละครหลักที่ทำให้ประชาชนชาวเนปาลโกรธแค้น สื่อมวลชนเนปาลเชื่อว่า เขาและตระกูลเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ 

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ประชาชนมองว่าเขาเล่นแร่แปรธาตุจนครองตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนาน เพราะเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ และ 2-3 วันก่อนการเลือกตั้ง เขาจะบินกลับมาหาเสียง พร้อมกับการซื้อเสียง และยัดเงินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะเสื่อมอำนาจลงและคู่แข่งทางการเมืองจะเนื้อหอมแค่ไหน ผลการเลือกตั้งก็ออกมาเป็นชื่อเขาติดต่อกันถึง 5 ครั้ง 

ในปี 2548 สมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เชอร์ บาฮาดูร์ ดูบา ถูกคณะกรรมการสอบสวนการทุจริต (CIAA) ตัดสินจำคุก 2 ปี ในข้อหาทุจริตเงินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการก่อสร้างถนนเพื่อเข้าถึงโครงการน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาในภายหลังได้ตัดสินให้เขาพ้นผิดและสั่งให้ปล่อยตัว โดยให้เหตุผลว่าคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตดังกล่าวเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นอย่างผิดรัฐธรรมนูญ

อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลที่นั่งตำแหน่งนี้ยาวนานถึง 5 สมัย

รมว. ต่างประเทศ กับฉายา “เจ้าแม่รับสินบน”

“นางอาร์จู บาฮาดูร์ ดูบา” (Arzu Rana Deuba) เป็นคู่สมรสของอดีตนายกรัฐมนตรี 5 สมัย เชอร์ บาฮาดูร์ ดูบา เธอถกทำร้ายร่างกายใกล้บ้านพัก คลิปวิดิโอปรากฎให้เห็นใบหน้าบวมช้ำ การเป็นภริยาของนักการเมืองสายเทา ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ประท้วงเกิดความแค้น แต่เพราะเธอเองมีตำแหน่งทางการเมืองในเนปาลมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเธอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ  และยังเป็นที่รับรู้กันถึงประวัติการรับส่วยและสินบนในหลายโครงการ

นางอาร์จูพัวพันในคดีอื้อฉาวที่เธอรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการเข้ามาซื้อสัมปทาน หรือรับงานก่อสร้างของราชการ จนมีการพูดกันในหมู่คนเนปาลว่า “หากใครจะทำงานในโครงการก่อสร้างใด ๆ ของรัฐบาล จะต้องผ่านให้สินบนกับผู้หญิงคนนี้ก่อน” แม้ข้อเท็จจริงอาจตรวจสอบได้ยาก แต่ความร่ำรวยที่ผิดปกติ และการมีชื่อรับผลประโยชน์ในโครงการใหญ่ ๆ ของเนปาล ก็ทำให้ประชาชนปักใจเชื่อว่า นักการเมืองหญิงคนนี้ไม่ธรรมดา

“นางอาร์จู บาฮาดูร์ ดูบา” (Arzu Rana Deuba)

นอกจากนี้ เธอยังถูกกล่าวหาว่ามีเครือข่ายข้าราชการและนักการเมืองหลอกลวงชาวเนปาลหลายร้อยคน โดยอ้างว่า จะส่งพวกเขาไปตั้งถิ่นฐานในฐานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โดยมีการเรียกเก็บเงินจำนวนมหาศาลจากเหยื่อ มีการกล่าวหาว่าเธอกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ได้รับเงินสินบนในเรื่องนี้ แม้เธอจะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าหลักฐานที่เป็นเสียงบันทึกนั้นเป็นของปลอม

อดีตนายกฯ ทุจริตฟาร์มงู ที่ภรรยาถูกไฟคลอก

 นางรัชยลักษมี จิตรการ (Rajyalaxmi Chitrakar) ภริยาของนายชลนาถ ขนัล (Jhalanath Khanal) อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาล อยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส หลังจากถูกกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาที่พักอาศัยในกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อวันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 แต่เธอไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน

เชื่อว่าประชาชนพุ่งเป้าโจมตีนายชลนาถ เนื่องจากเขาเคยขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่การเมืองเนปาลกำลังอยู่ในภาวะหยุดชะงัก แต่คดีอื้อฉาวของเขาที่ทำให้ประชาชนโกรธแค้น เกี่ยวข้องกับโครงการเพาะเลี้ยงงูเพื่อผลิตเซรุ่มแก้พิษงู (anti-venom) เป็นโครงการของสถาบันที่ใช้ชื่อของเขาคือ "Jhalanath Khanal Academy of Health Sciences" ซึ่งมีรายงานว่าสถาบันดังกล่าวได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมากถึง 720 ล้านรูปีเนปาลจากรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น และเทศบาล แต่ประชาชนมองว่า เป็นจำนวนเงินที่สูงเกินจริงและอาจมีการนำเงินไปใช้ในทางที่ผิด

หน่วยงานปราบปรามการทุจริตของเนปาล (CIAA) ได้ยื่นฟ้องร้องคดีทุจริตต่อบุคคล 7 คน รวมถึงอดีตรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ โดยกล่าวหาว่ามีการยักยอกเงินทุนจำนวนมาก และมีการใช้เงินไปในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ อีกทั้งโครงการดังกล่าวไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจและมองว่าเป็นการนำเงินภาษีไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของชนชั้นนำทางการเมือง

นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด กับกฎหมายไร้ความเป็นธรรม

นายเค.พี. ชาร์มา โอลี (K.P. Sharma Oli) นายกรัฐมนตรีเนปาลได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเผชิญกับแรงกดดันจากการประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรวมถึงการเผาทำลายบ้านพักของเขาด้วย นักการเมืองคนนี้ ถูกมองว่าให้การปกป้องนักการเมืองพันธมิตรของเขา โดยใช้อำนาจในทางมิชอบ ออกกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรม

ความโกรธของประชาชนสะสมมานานหลายคดี เพียงไม่กี่วันก่อนที่จะมีการประท้วง สื่อมวลชนเนปาลรายงานข่าวที่นักการเมืองคนหนึ่งขับรถชนเด็กแล้วหนีหายไป แต่มีการไล่ล่าตามตัวนักการเมืองคนนี้ พร้อมเรียกร้องให้เขาได้รับบทลงโทษทางกฎหมาย แต่นายกรัฐมนตรีโอลีกลับแถลงต่อประชาชนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ ขออย่าให้ประชาชนเปลี่ยนเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องของการเมือง นับเป็นการสุมไฟแค้นให้ประชาชนไม่น้อย

นอกจากนี้ เขายังเคยออกกฎหมายปกป้องนักการเมือง โดยการอนุญาตให้นักการเมืองที่เคยมีคดีความผิด ซึ่งหนีภัยไปต่างประเทศเกิน 5 ปี สามารถกลับประเทศได้อย่างไร้มลทิน เป็นอิสระ และกลับมาลงเล่นการเมืองใหม่ได้ เพราะถือว่าชดใช้ความผิดแล้ว ที่ต้องออกไปอยู่นอกบ้านเกิด 

หนึ่งในกฎหมายที่เสมือนเป็น ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ที่ทั่วโลกรับรู้กันคือการแบนโซเชียลมีเดียในกลุ่มเยาวชน แต่เป็นที่รู้กันดีว่า ความเคลื่อนไหวของเขาเป็นการปิดปากประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์การทุจริตของรัฐบาล นำมาซึ่งการประท้วงครั้งใหญ่ในเนปาลที่ยากเกินจะควบคุมได้


แชร์
เปิดคดีทุจริตนักการเมือง ทำชาวเนปาลแค้นจัด โดนไล่ล่า เผาบ้าน ลากลงน้ำ