FLOOD THE ZONE: ปฏิบัติการล้างบางผู้อพยพ หลังทรัมป์ได้ไฟเขียวจากศาล
เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากถือปืน ยืนคุมทั่ว LA
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และในฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนใต้ อย่างนครลอสแอนเจลิส ต้องเผชิญกับบรรยากาศที่แปลกใหม่ แต่ไม่เป็นมิตรเท่าใดไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนน สวนสาธารณะ ที่ทำการรัฐบาล หรือแม้แต่ลานจอดรถในห้าง ล้วนปรากฏให้เห็นเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบจากหลายหน่วยงานกระจายตัวอยู่ทั่วท้องถนน บ้างก็ใส่หมวก ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า แต่เจ้าหน้าที่บางส่วนถือปืนและติดอาวุธ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนในเครื่องแบบเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจากหลากหลายหน่วยงาน นำโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ICE บรรยากาศเช่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งกวาดล้างผู้อพยพ ลงนามโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีเป้าหมายที่จะจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมาย ผู้ลักลอบเข้าเมือง และอาชญากรข้ามชาติ เพื่อส่งพวกเขากลับประเทศตามเชื้อชาติและภาษาที่พูด
การจับกุมและควบคุมตัวในแคลิฟอร์เนียตอนใต้เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ความโกรธและความหงุดหงิดแผ่กระจายไปในชุมชนผู้อพยพที่เรียกร้องสิทธิในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ มีการเดินขบวนประท้วงถึงความไม่เป็นธรรม อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องเพราะเจ้าหน้าที่ละเมิดประชาชนขณะเข้าจับกุมด้วย
ฟลอร์ เมเลนเดซ ผู้อำนวยการบริหารของศูนย์คนงานล้างรถ CLEAN เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้เล็งเป้าหมายไปที่ร้านล้างรถถึง 81 ร้าน โดยมีการบุกค้นร้านล้างรถเหล่านี้ แห่งละไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพียงเพราะพนักงานล้างรถส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ และมีแรงงานอย่างน้อย 250 คนถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่เริ่มบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวด
เธอกล่าวว่า “คนงานอย่างเขานี่แหละที่ทำให้ชุมชนของเราดีขึ้น พัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อคนงานคนอื่นๆ ลุกขึ้นมาต่อต้านความอยุติธรรมเหล่านั้นและทำให้ดีขึ้น การจับกุมเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
หลายฝ่ายต่อต้าน แต่ทำไมศาลสั่งไฟเขียว
การประท้วงและแรงต่อต้านที่ขยายวงกว้างขึ้น ไม่ได้ทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทบทวนภารกิจดังกล่าว แต่ทรัมป์กลับตอบโต้ด้วยการส่งทหารกองกำลังรักษาดินแดน 4,000 นายและนาวิกโยธิน 700 นายไปที่นครลอสแอนเจลิส ซึ่งผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนียตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การสั่งกองกำลังชุดนี้ลงพื้นที่ ละเมิดกฎหมายในศตวรรษที่ 19 ที่ห้ามทหารบังคับใช้กฎหมายต่อพลเรือน
อย่างไรก็ตาม คำสั่งที่ปกป้องผู้อพยพดังกล่าวเป็นอันต้องยกเลิกไป หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ศาลฎีกาสหรัฐฯ ยืนกรานสนับสนุนแนวทางการตรวจคนเข้าเมืองแบบแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการบุกค้น ‘คนน่าสงสัย’ เข้าข่ายเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายได้อย่างเต็มที่ ในพื้นที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้
ศาลได้อนุมัติคำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในการระงับคำสั่งของผู้พิพากษาที่ห้ามเจ้าหน้าที่หยุดหรือควบคุมตัวบุคคลโดยไม่มี "ความสงสัยอันสมเหตุสมผล" ว่า บุคคลเหล่านั้นอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยสังเกตจากเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ หรือหากพวกเขาพูดภาษาสเปนหรืออังกฤษด้วยสำเนียงต่างชาติ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
ด้านแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต ออกมาประณามการตัดสินของศาลอย่างรุนแรง โดยออกแถลงการณ์ระบุว่า เสียงข้างมากในศาลฎีกาที่ทรัมป์เลือกมาด้วยตัวเองเพิ่งกลายเป็นขบวนการสร้างความหวาดกลัวทางเชื้อชาติในนครลอสแอนเจลิส โดยพาดพิงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าทรัมป์ได้แต่งตั้งผู้พิพากษาฝ่ายอนุรักษ์นิยมถึง 3 คน ทำให้ตัวเลขของผู้โหวตสนับสนุนคำสั่งของทรัมป์ออกมาเป็น 6 ต่อ 3 และทำให้คำสั่งของผู้พิพากษาเป็นอันต้องยกเลิกไป
ผู้พิพากษาฝ่ายเสรีนิยมทั้งสามคนของศาลฎีกาได้ออกคำโต้แย้งที่รุนแรง ซึ่งเขียนโดยผู้พิพากษาโซเนีย โซโตเมเยอร์ ที่เขียนไว้ว่า “ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนในพื้นที่ลอสแอนเจลิสถูกจับกุม, ผลักลงกับพื้น, และใส่กุญแจมือเพียงเพราะรูปร่างหน้าตา, สำเนียง, และข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขามีอาชีพเป็นแรงงานใช้แรงงาน”เธอกล่าวเพิ่มว่า “วันนี้ ศาลกำลังทำให้ผู้คนอีกนับไม่ถ้วนต้องเผชิญกับความอัปยศแบบเดียวกันนี้อย่างไม่จำเป็น”
ปฏิบัติการ “FLOOD THE ZONE”
ในท้ายที่สุด ปฏิบัติการกวาดล้างผู้อพยพจะดำเนินต่อไปอย่างมีความชอบธรรมทางกฎหมายมากขึ้น ล่าสุด นายทอม โฮแมน ผู้บัญชาการตำรวจชายแดนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับนักข่าวหน้าทำเนียบขาว ระบุว่า “เรามีเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 10,000 คน เราจะระดมกำลังไปทั่วโซนนี้” ซึ่งในภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า “Flood the zone” รวมถึงสำนักข่าวอเมริกัน ก็กล่าวถึงคำสั่งเพิ่มกำลังพลของทรัมป์ในพื้นที่ด้วยคำนี้เช่นกัน
คำว่า "Flood the zone" เป็นสำนวนที่ใช้ในวงการกีฬาของสหรัฐฯ เดิมทีหมายถึงการส่งผู้เล่นจำนวนมากเข้าไปในพื้นที่หนึ่งในสนามเพื่อครองพื้นที่และสร้างโอกาสให้ทีมของตนเอง อย่างไรก็ตาม สำนวนนี้ได้ถูกนำมาใช้ในวงการการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดย สตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้านักวางแผนกลยุทธ์ของทำเนียบขาวในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ในบริบทของนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของทรัมป์ คำว่า "flood the zone" หมายถึงการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย เช่น ลอสแอนเจลิส เพื่อดำเนินการกวาดล้างและจับกุมผู้อพยพอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามการประกาศของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS)
