Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ผายลม" อย่าคิดว่าไม่สำคัญ  ผายลมบอกสุขภาพ แบบไหนที่เสี่ยงป่วยโรคลำไส้

"ผายลม" อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ผายลมบอกสุขภาพ แบบไหนที่เสี่ยงป่วยโรคลำไส้

9 ก.ย. 68
12:21 น.
แชร์

"ผายลม" อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ผายลมก็บอกสุขภาพได้ เช็กพฤติกรรมการผายลมแบบไหนที่เสี่ยงป่วยโรคลำไส้

การผายลม หรือคำสั้นๆ ที่เราเรียกว่าการตดนั้น เป็นกระบวนการขับแก๊สออกจากร่างกาย ซึ่งเกิดจาก 2 สาเหตุหลักคือ การกลืนอากาศเข้าไปและการย่อยอาหาร ถือเป็นพฤติกรรมปกติทางร่างกายของคนเรา แต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการผายลมบ่อย มีกลิ่น สามารถบ่งบอกภาวะสุขภาพของเราได้

นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ไลฟ์และแชร์ความรู้เรื่องของการผายลม เรื่องใกล้ตัวที่สามารถบอกสุขภาพเราได้ ไว้ให้ได้เช็กและสังเกตตัวเอง แบบไหนปกติ-ไม่ปกติ เพื่อจะได้ไม่ลามไปถึงความเสี่ยงป่วยโรคลำไส้ได้ ดังนี้

การตดแบบไหนที่ถือว่าปกติ? ทำไมบางทีตดเยอะ บางทีกลิ่นแรง บางทีไม่มีเสียงเลย? หรือบางครั้ง เราตดบ่อยจนรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว? วันนี้ผมอธิบายให้ฟังครับ

1. ทำไมเราถึงผายลม?

การผายลมเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้กำจัดแก๊สส่วนเกินออกจากลำไส้ ซึ่งแก๊สพวกนี้มาจากหลายสาเหตุ ลองดูว่าต้นเหตุหลักๆ มีอะไรบ้าง

1.1 อากาศที่กลืนเข้าไป

เชื่อไหมว่า แก๊สที่ออกมาเป็นตดบางส่วน มาจากอากาศที่เรากลืนเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ใครที่ชอบพูดตอนกินข้าว หรือกินข้าวเร็ว ๆ นี่แหละตัวดีเลย เพราะตอนที่เรากิน อากาศก็ไหลลงไปในท้องด้วย แถมถ้าเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือดื่มน้ำจากหลอด ก็ยิ่งกลืนอากาศมากขึ้นอีก ซึ่งอากาศพวกนี้จะต้องออกจากร่างกาย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางส่วนจะออกมาเป็นเรอ และบางส่วนเดินทางลงไปเป็นตด

1.2 กระบวนการย่อยอาหาร

อาหารที่เรากินเข้าไป บางอย่างร่างกายย่อยเองได้ แต่บางอย่างต้องพึ่งพาแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งเจ้าพวกนี้จะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตหรือใยอาหารที่ร่างกายเราย่อยเองไม่ได้ อาหารที่มีเส้นใยเยอะ อย่างถั่ว ธัญพืช ผักตระกูลกะหล่ำ หรือผลไม้บางชนิด เป็นของโปรดของแบคทีเรียพวกนี้เลย แต่ผลก็คือ พวกมันจะปล่อยแก๊สออกมาด้วย ทำให้เกิดการผายลมนั่นเอง

1.3 ภาวะสุขภาพบางอย่าง

ถ้าคุณเคยกินนมแล้วรู้สึกว่าท้องอืด ผายลมบ่อย หรือท้องเสีย อาจเป็นไปได้ว่าคุณมีภาวะแพ้แลคโตส (Lactose Intolerance) เพราะร่างกายย่อยน้ำตาลในนมไม่ได้ ทำให้เกิดการหมักหมมของอาหาร และเกิดแก๊สขึ้น หรือบางคนที่มีกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ก็มักจะมีอาการท้องอืด ตดบ่อย และรู้สึกไม่สบายท้องตลอดเวลา

1.4 การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ใครที่เคยสังเกตตัวเองว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนมักจะผายลมบ่อยขึ้น นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนมีผลต่อระบบย่อยอาหารของเรานั่นเอง โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง อาหารใช้เวลาในการย่อยนานขึ้น จึงเกิดแก๊สมากกว่าปกติ

2. ลักษณะของการผายลมที่ควรรู้

2.1 ความถี่ของตด

ในไลฟ์คนก็ถามกันเยอะ หนูตดบ่อยเกิดจากอะไรและมีปัญหาอะไรคะ อันนี้เราก็ต้องกลับมาดู คำว่าบ่อยนี่คือบ่อยขนาดไหน ปกติแล้ว คนเราตดวันละ 10-20 ครั้ง ถ้าตดมากหรือน้อยกว่านี้ อาจเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง อย่าว่าผมแปลกเลยนะ แต่อยากให้ทุกคนลองนับดู เพราะมันบ่งบอกความผิดปกติได้

- ตดน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน – อาจเพราะกินไฟเบอร์น้อย หรือระบบย่อยอาหารทำงานช้า ถ้ามีอาการท้องอืดร่วมด้วย ลองเพิ่มไฟเบอร์ ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น และขยับร่างกายบ้าง

- ตด 10-20 ครั้งต่อวัน – ปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล

- ตดมากกว่า 20 ครั้งต่อวัน – อาจเป็นเพราะกินอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สมาก เช่น ถั่ว ผักใบเขียว น้ำอัดลม นม หรืออาจเป็นสัญญาณของ IBS หรือ SIBO

2.2 กลิ่นตด

ปกติแล้ว ตดส่วนใหญ่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เพราะเป็นแค่ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน แต่ถ้ามีกลิ่นแรง มักมี แก๊สกำมะถัน ผสมอยู่

- ตดไร้กลิ่น เกิดจากลมที่กลืนเข้าไปเยอะ เช่น หายใจเร็ว เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกินอาหารที่ไม่ทำให้เกิดแก๊สพวกนี้ เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว

- ตดมีกลิ่น ถ้ากินอาหารที่มีกำมะถันสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ผักตระกูลกะหล่ำ (บร็อคโคลี กะหล่ำปลี หัวหอม กระเทียม) ตดก็อาจเหม็นได้

- ตดเหม็นหนักมาก อาจเป็นเพราะระบบย่อยมีปัญหา เช่น แพ้แลคโตส , IBS หรือแบคทีเรียในลำไส้ผิดปกติ (SIBO)

2.3 เสียงของตดมีความหมายไหม?

เสียงของการผายลมขึ้นอยู่กับ

ปริมาณแก๊ส

ความเร็วของการปล่อยแก๊ส

ความตึงของกล้ามเนื้อรอบทวารหนัก

เพราะฉะนั้นการที่ตดดัง ตดเบา ไม่สามารถบ่งบอกโรคอะไรได้

3. เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

ถ้าตดเยอะ หรือมีกลิ่นแรงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีอาการพวกนี้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์

- ปวดท้องเรื้อรัง

- ท้องอืดหนักจนรู้สึกอึดอัด

- ท้องเสียหรือท้องผูกนานผิดปกติ

- มีเลือดปนในอุจจาระ

- น้ำหนักลดโดยไม่รู้สาเหตุ

- มีไข้ร่วมกับอาการทางเดินอาหาร

ถ้ามีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาลำไส้ที่ต้องรีบเช็ก

4. วิธีลดการผายลมที่มากเกินไป

- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สเยอะ เช่น ถั่ว ผักตระกูลกะหล่ำ น้ำอัดลม และอาหารไขมันสูง

- กินให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด ลดการกลืนอากาศ

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น

- ดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

5. โพรไบโอติกและพรีไบโอติกช่วยได้อย่างไร?

โพรไบโอติก (Probiotics) คือแบคทีเรียดี ที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ

พรีไบโอติก (Prebiotics) คืออาหารของแบคทีเรียดี เช่น กระเทียม หัวหอม กล้วย หน่อไม้ฝรั่ง

ทั้งสองอย่างนี้ช่วยลดปัญหาท้องอืด ตดบ่อย และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

ตดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน และบอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของเรา ถ้าผายลมเยอะขึ้น มีกลิ่นแรงผิดปกติ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารของเรากำลังมีปัญหา การกินอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สเยอะ ออกกำลังกาย และเสริมโพรไบโอติกกับพรีไบโอติก สามารถช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และลดการเกิดตดที่ผิดปกติได้

แม้ภาวะท้องเฟ้อ เรอ ผายลม เป็นเพียงอาการไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากพบความผิดปกติร่วมกับอาการอื่นๆ อาจบ่งบอกถึงโรคร้ายที่ซ่อนอยู่ในระบบทางเดินอาหาร เช่น

- โรคมะเร็งลำไส้

- โรคลำไส้แปรปรวน

- การทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร

- ภาวะที่เกี่ยวของกับกระเพาะอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษ

- ภาวะแพ้แล็กโทสจาก นมวัว หรือ โยเกิร์ต

- โรคลำไส้อักเสบ เช่น โรคโครห์น หรือลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล

- โรคแพ้กลูเตน

- แผลในกระเพาะอาหาร

- โรคลำไส้อุดตัน

เป็นต้น

ที่มา : หมอเจด

Advertisement

แชร์
"ผายลม" อย่าคิดว่าไม่สำคัญ  ผายลมบอกสุขภาพ แบบไหนที่เสี่ยงป่วยโรคลำไส้