6 ผักที่เป็นมิตรกับลำไส้ กินง่าย ช่วยขับถ่ายคล่อง บอกลาท้องผูก
รู้แล้วต้องกิน 6 ผักที่เป็นมิตรกับลำไส้ กินง่าย ช่วยขับถ่ายคล่อง บอกลาท้องผูก แถมยังหาทานได้ง่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผักเป็นยาตามธรรมชาติที่ดีที่สุด คำนี้คงไม่เกินจริง เพราะนอกจากคุณประโยชน์มากมายที่ดีต่อร่างกาย ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ป้องกันโรค บำรุงสายตา และช่วยระบบขับถ่าย เช่น 6 ผักต่อไปนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผักที่เป็นมิตรต่อลำไส้ กินง่าย ขับถ่ายคล่อง
1. กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียว ผักที่กำลังได้รับความนิยม และมีการครีเอทเมนูใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่การต้ม ให้หลากหลายขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจจะไม่ชอบมัน เพราะเมือกเหนียวๆ เวลากิน แต่รู้หรือไม่ว่ากระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ เป็นพืชที่มีสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน วิตามินเอ อี บี กรดอะมิโน โพแทสเซียม แคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก
โดยเฉพาะกับลำไส้ของเรา กระเจี๊ยบเขียวมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารอย่างมาก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร เมือกเหนียวๆ ในกระเจี๊ยบเขียวประกอบด้วยโพลีแซ็กคาไรด์ เช่น คอลลาเจนและมิวโคโพลีแซ็กคาไรด์ ซึ่งช่วยส่งเสริมการลำเลียงจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ สรรพคุณหลักคือเป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการผิดปกติของระบบย่อยอาหาร กระเจี๊ยบเขียวยังมีใยอาหารจำนวนมากและเมือกที่สามารถควบคุมการดูดซึมของลำไส้เล็กเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมือกนี้ยังเป็นตัวกลางในการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งมีฤทธิ์หล่อลื่นลำไส้อีกด้วย
ปริมาณไฟเบอร์ในกระเจี๊ยบเขียวสามารถดูดซับน้ำและสร้างอุจจาระขนาดใหญ่ ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยป้องกันอาการท้องผูก กระเจี๊ยบเขียวยังสามารถทำหน้าที่เป็นยาระบาย ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับไฟเบอร์แล้วจะช่วยจับสารพิษเพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวของลำไส้
2. ปวยเล้ง
ผักใบเขียวที่ถูกยกย่องว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด แหล่งโภชนาการมากคุณค่า ปวยเล้งเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นที่สนับสนุนการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น วิตามินเค สำคัญต่อสุขภาพกระดูกและการแข็งตัวของเลือด วิตามินเอ ประโยชน์ต่อสุขภาพสายตาและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงวิตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และโดยเฉพาะ ไฟเบอร์สูง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบย่อยอาหารที่มีสุขภาพดี ใยอาหารในปวยเล้ง ช่วยในการรักษาการขับถ่ายเป็นประจำ ป้องกันอาการท้องผูก ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ ช่วยกวาดคราบตกค้างที่เกาะผนังลำไส้ และส่งเสริมสุขภาพไมโครไบโอมในลำไส้
3. บร็อคโคลี่
บร็อคโคลี่ เป็นผักในตระกูลกะหล่ำอุดมไปด้วยวิตามินซีและเค โฟเลต และโพแทสเซียม สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การแข็งตัวของเลือด และสุขภาพโดยรวมของเซลล์ รวมถึงยังเป็นแหล่งไฟเบอร์อาหารชั้นยอด ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงและการขับถ่ายให้เป็นปกติ
มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าบร็อคโคลี่ส่งผลดีต่อสุขภาพลำไส้ โดยการเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่มีประโยชน์ การบริโภคบร็อคโคลี่ สามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้มีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ เช่น แบคทีเรีย Bacteroides ในสัดส่วนที่สูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น กลูโคซิโนเลตในบร็อคโคลี่จะถูกแบคทีเรียในลำไส้เผาผลาญเป็นสารประกอบชีวภาพ เช่น ไอโซไทโอไซยาเนต ซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สารประกอบเหล่านี้อาจช่วยควบคุมจุลินทรีย์ในลำไส้และปรับปรุงการทำงานของลำไส้ แต่สำหรับใครที่มีภาวะอาการ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน อาจรับประทานบร็อคโคลี่แล้วเกิดอาการท้องอืด ไม่สบายท้องเพราะมีแก๊สเป็นผลพลอยได้
4. ผักโขม
เป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยใยอาหารที่ช่วยเพิ่มการขับถ่ายให้เป็นปกติ ป้องกันอาการท้องผูก และเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ มีโพลีฟีนอลและไทลาคอยด์ ที่ช่วยลดการอักเสบในลำไส้ และส่งเสริมสุขภาพจุลินทรีย์ลำไส้ ใยอาหารในผักโขมจะช่วยเพิ่มปริมาณกากอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายสะดวกและป้องกันอาการท้องผูก รวมถึงทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ช่วยเสริมสร้างจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และรักษาสมดุลของลำไส้
5. แครอท
แครอทดีต่อลำไส้เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ ช่วยให้ขับถ่ายง่าย และป้องกันท้องผูก รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ และสุขภาพดวงตา และสารอื่น ๆ เช่น ฟอลคารินอล ที่ช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้ เสริมสร้างจุลินทรีย์ในลำไส้ และอาจช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย นอกจากนี้ผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงอย่างแครอท ยังช่วยป้องกันเยื่อบุกระเพาะและลำไส้ เร่งให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย
6. ขึ้นฉ่าย
ผักกลิ่นฉุนสำหรับบางคน แต่รู้หรือไม่ว่าอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารล้างพิษในลำไส้ ทุกส่วนของขึ้นฉ่ายสามารถขับสารพิษออกจากลำไส้ได้ ขึ้นฉ่ายมีแคลอรี่น้อย แต่มีกากใยอาหารสูง มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน และเสริมการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ดีต่อการทำงานของกระเพาะอาหาร มีเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์หรือเส้นใยธรรมชาติที่กล่าวกันว่ามีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะหมักในลำไส้ใหญ่ ส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงและสุขภาพลำไส้ที่ดีขึ้น
อ้างอิง :
What are the benefits of eating okra?
Is Broccoli Bad for Gut Health? Exploring the Truth Behind This Cruciferous Vegetable
Advertisement
