อาหารเป็นพิษจากพืชที่พบในช่วงฤดูฝน พิษใน “กลอย” ที่กินแล้วอาจถึงตาย โดยเฉพาะในฤดูฝนมีความเป็นพิษสูง ประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวัง
“กลอย” เป็นพืชที่มีลักษณะทั่วไปเป็นไม้เถา มีหัวใหม่เกิดขึ้นทุกปีจากส่วนลำต้นใต้ดิน หัวมีขนาดต่างๆกันผิวสีฟางหรือเทา เนื้อในสีขาวถึงขาวนวล พบได้ที่ไหนในภาคอีสาน ที่นิยมนำกลอยมาประกอบเป็นอาหาร
ช่วงที่กลอยออกดอก คือ ช่วงหน้าฝนประมาณเดือน กรกฎาคม – ตุลาคม
ในหัวกลอยมีแป้งและมีสารที่มีพิษชื่อว่า ไดออสคอรีน (dioscorine) ซึ่งมีฤทธิ์กดและกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
ผู้ที่ได้รับพิษจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษ ความต้านทานของแต่ละคน
สำหรับผู้ที่มีอาการได้รับพิษจากกลอย ห้ามกระตุ้นให้อาเจียนเพราะสำลัก แนะนำให้รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที พร้อมเก็บตัวอย่างกลอย เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยได้เร็วขึ้น
ซึ่งการรับประทานกลอยให้ปลอดภัยต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน และต้องมีความชำนาญในการล้างพิษกลอยเป็นพิเศษ
ถึงแม้จะมีวิธีกำจัดพิษกลอยที่มีมาแต่โบราณ แต่ก็ยังไม่มีวิธีการใดที่บอกได้แน่ชัดว่ากลอยจะหมดพิษ ดังนั้นการแช่น้ำไว้หลายวัน หรือการล้างกลอยไปเรื่อยๆจนกว่าเมือกที่ผิวกลอยจะหมดนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันว่าจะปลอดภัย 100%
ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังหากจะรับประทานกลอยในช่วงฤดูฝน และไม่ควรให้เด็กรับประทานกลอยจะดีที่สุด เนื่องจากสารพิษกระจายตัวได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ จึงอันตรายสำหรับเด็ก และที่สำคัญหากรับประทานแล้วเกิดอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
จากการเฝ้าระวังสถานการณ์อาหารเป็นพิษจากพืช ในช่วงปี พ.ศ. 2559–2563 |
---|
กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังเหตุการณ์อาหารเป็นพิษจากพืช พบมี เหตุการณ์จากการรับประทานกลอยทั้งหมด 11 ครั้ง โดยมีผู้ป่วย รวม 172 คน ส่วนใหญ่มักพบในช่วงฤดูฝน ภูมิภาคที่พบเหตุการณ์บ่อยครั้ง คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค
Advertisement