เปิดรายชื่อและวีรกรรมแก๊งอาชญากรในอเมริกาใต้ที่ทรัมป์หมายหัว

5 กันยายน 2568 รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอกล่าวว่า พร้อม “ถล่ม” แก๊งอาชญากรข้ามชาติหากจำเป็น และอาจมีการร่วมมือกับต่างชาติด้วย

รูบิโอกล่าวขณะเดินทางพบประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ดาเนียล โนโบอา ที่กรุงกีโตว่า สหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีเพิ่ม 2 กลุ่มอาชญากรที่ใหญ่ที่สุดของเอกวาดอร์ “โลส โลโบส” และ “โลส โชเนโรส” ในฐานะองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ

สหรัฐฯ เร่งแผนปราบแก๊งอาชญากรต่างชาติ

รูบิโอยังยืนยันกับผู้สื่อข่าวอีกว่า การจัดการกลุ่มอาชญากรจะไม่ได้เป็น “การดำเนินการฝ่ายเดียว” จากทางสหรัฐฯ แต่เป็นความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น เป็น “ความร่วมมือระหว่างรัฐบาล”

“ตอนนี้พวกเขา [รัฐบาลต่างชาติ] จะช่วยเราหาตัวคนพวกนี้ [กลุ่มอาชญากร] และจัดการถล่มเสียเลย ถ้านั่นคือสิ่งที่ต้องทำ” รูบิโอกล่าว

“ท่านประธานาธิบดี [โดนัลด์ ทรัมป์] กล่าวว่า ท่านต้องการทำสงครามกับกลุ่มคนพวกนี้ เพราะพวกเขาทำสงครามต่อเรามานานมากกว่า 30 ปี แต่ไม่มีใครตอบโต้อะไรเลย [...] แต่กับรัฐบาลที่เป็นมิตร หลายกรณีอาจไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้น เพราะรัฐบาลที่เป็นมิตรจะพร้อมช่วยเหลือเรา”

โนโบอา ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ ได้ส่งทหารลงประจำบนท้องถนน และรัฐสภาได้อนุมัติแผนการปฏิรูปที่ประธานาธิบดีกล่าวว่า จะช่วยลดอาชญากรรมได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเอกวาดอร์และเม็กซิโกยังไม่กล่าวว่าจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการโจมตีทางทหาร

สหรัฐฯ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มอาชญากรอย่างเข้มข้น 1 วันก่อนหน้า (4 กันยายน 2568) สหรัฐฯ เพิ่งโจมตีเรือลำหนึ่งในทะเลแคริบเบียน ซึ่งทางการสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้สังหารอาชญากรค้ายาเสพติดไป 11 คน แต่ไม่ได้ระบุตัวตน

ทรัมป์กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นปฏิบัติการทางทหารมุ่งเป้าสมาชิกแก๊งอาชญากรเวเนซูเอลา “เตรน เด อารากัว” เนื่องจากกลุ่มนี้กำลังขนส่งยาเสพติดมายังสหรัฐฯ

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทางทะเลกล่าวกับสำนักข่าว BBC ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวมีแนวโน้มจะละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล และกฎหมายพาณิชยนาวี

ต่อมาช่วงเย็น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหาว่า เครื่องบินรบของกองทัพเวเนซุเอลาบินเข้าใกล้เรือรบสหรัฐฯ ถือเป็น “การเคลื่อนไหวที่ปลุกปั่นมาก เพื่อแทรกแซงปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายยาเสพติดของสหรัฐฯ ”

นอกเหนือไปจากนี้ รูบิโอยังกล่าวว่า เขาจะอนุมัติงบประมาณด้านการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาความปลอดภัย 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (435.23 ล้านบาท) และอีก 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (193.44 ล้านบาท) ให้กับเทคโนโลยีโดรน เพื่อสนับสนุนเอกวาดอร์จัดการทำลายกลุ่มอาชญากรขนส่งยาเสพติด

กลุ่มอาชญากรที่สหรัฐฯ จับตา

เอกวาดอร์

โลส โชเนโรส (Los Choneros) คือสมาคมอาชญากรและผู้ก่อการร้ายเอกวาดอร์ มีต้นกำเนิดที่จังหวัดมานาบี กลุ่มก่อตั้งเมื่อทศวรรษที่ 1990 เป็นกลุ่มอาชญากรที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของประเทศ และเป็นแกนหลักในความรุนแรงต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของประเทศ

แนวคิดของกลุ่มคือ การรวมเอากลุ่มอาชญากรกลุ่มเล็ก ๆ เข้าด้วยกัน มีทั้งการค้ายาเสพติด กรรโชกทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และอาชญากรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างสหพันธ์อาชญากรควบคุมเรือนจำ ด้วยความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ฉ้อโกง เรือนจำกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของอาชญากร

อดีตผู้นำ ฆอร์เฆ หลุย ซามบราโน (Jorge Luis Zambrano) หรือ “ราสกิญา” ปกครองโลส โชเนฌรสระหว่างปี 2007-2020 ทำให้กลุ่มกลายเป็นส่วนสำคัญในการขนสางโคเคนผ่านมานาบีไปสหรัฐฯ เม็กซิโก และยุโรป

เมื่อปีก่อน CNN รายงานว่า โลส โชเนโรสมีสมาชิกมากถึง 30,000 คน และมีผู้นำคือ อาโดลโฟ มาซิอาซ หรือ “ฟิโต” ที่แม้ถูกจับอยู่ในคุกเอกวาดอร์ แต่กลับมีสภาพความเป็นอยู่ราวกับราชา ในห้องขังที่มีห้องน้ำครบชุด และเตียงควีนไซส์

โลส โลโบส (Los Lobos) เป็นกลุ่มอาชญากรและผู้ก่อการร้ายเอกวาดอร์ กลุ่มก่อตั้งเมื่อปี 2020 หลังแยกตัวมาจากกลุ่ม โลส โชเนโรส (Los Choneros) หลังสังหารผู้นำกลุ่มในขณะนั้นคือ ราสกิญา

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในด้านพื้นที่และจำนวนคน จนมีสมาชิกมากกว่า 8,000 คน สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรุกฮือในคุกต่าง ๆ ทั่วประเทศ อย่างเช่นการต่อสู้กันในคุกระหว่าง โลส โลโบส และ โลส โชเนโรส ในคุกเมืองกัวยากิล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,233 คน

โดยทั่วไปกลุ่มมุ่งเน้นการขนส่งยาเสพติดและรับจ้างฆ่าให้กับกลุ่มพันธมิตรกลุ่มอื่น ข้อมูลจาก Insightcrime ยังกล่าวว่า โลส โลโบส มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางการเมือง ที่เป็นภัยต่อเสถียรภาพของประเทศหลายครั้ง อาทิ การเสียชีวิตของ เฟร์นานโด บิยาวิเซนซิโอ ผู้สมัครประธานาธิบดีในปี 2023 ที่ถูกสังหารระหว่างหาเสียง อัยการชี้ว่ากลุ่มนี้คือเบื้องหลังการสังหาร

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ชี้ว่า กลุ่มมีความเกี่ยวข้องกับการสังหารคนกว่า 17 คนในหมู่บ้านหนึ่ง ชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งระหว่างการต่อสู่ของ โลส โลโบส และ โลส โชเนโรส

เวเนซุเอลา

เตรน เด อารากัว (Tren de Aragua) คือกลุ่มอาชญากรข้ามชาติเวเนซูเอลา มีสมาชิกมากกว่า 7,000 คน (บางแหล่งชี้ว่า จำนวนคนไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามีคนเวเนซุเอลา คนเปรู และโคลัมเบียจำนวนมาก) และนำโดย เอกเตอร์ รัสเทนฟอร์ด เกเรโร ฟลอเรส หรือ “นิโญ เกเรโร” หลายแหล่งข้อมูลกล่าวว่า กลุ่มนี้คือกลุ่มอาชญากรที่มีอำนาจมากที่สุด

มีต้นกำเนิดที่รัฐอารากัวของเวเนซูเอลา ในขณะนี้กลุ่มนี้มีขอบข่ายกว้างขวางทั่วภูมิภาคลาตินอเมริกา อาทิ โคลอมเบีย เปรู และชิลี และบางส่วนในสหรัฐฯ ขยายตัวตามเส้นทางการอพยพของชาวเวเนซูเอลา

ไม่มีหลักฐานว่ากลุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าโคเคนในภูมิภาคมากเท่ากลุ่มอาชญากรอื่น แต่ในปี 2565 นักสืบและอัยการเปิดเผยว่า กลุ่มมีความเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ควบคุมการข้ามพรมแดนผิดกฎหมาย และอาชญกรรมทางเพศ การลักพาตัว การทรมาน และเส้นทางขนส่งยาเสพติด

ในเดือนกันยายน 2023 ตำรวจและทหารเวเนซูเอลาโจมตีคุกโตโกรอน ศูนย์กลางบัญชาการของกลุ่ม เพื่อยึดอำนาจคืนมา แต่ผู้นำกลุ่มสามารถหลบหนีไปได้ ปฏิบัติการอาชญากรข้ามชาติจึงยังเดินหน้าต่อ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มนี้ สหรัฐฯ ลงบัญชีเตรน เด อารากัวเป็นหนึ่งในกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ และให้หมายจับ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 386.64 ล้านบาท แลกกับข้อมูลที่จะช่วยการจับกุมผู้นำอาวุโสของกลุ่มทั้ง 3 คน

เม็กซิโก

การ์เตล เด ซินาโลอา (Cártel de Sinaloa) คือกลุ่มอาชญากรข้ามชาติเม็กซิกัน และเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก มีฐานอยู่ที่เมืองกูลิอากัน รัฐซินาโลอา ประเทศเม็กซิโก 

กลุ่มก่อตั้งช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 ต่อมากลุ่มถูกปราบปรามเมื่อปี 1985 เพราะกลุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรมานและการฆาตกรรม เมื่อถึงปลายทศวรรษที่ 1990 กลุ่มแตกตัวออกเป็นหลายกลุ่มอาชญากรรม และจากกลุ่มอาชญากรเล็ก ๆ ขยายตัวจนมีสมาชิกรวมจำนวนมาก

เชื่อกันว่า กลุ่มนี้เป็นกุญแจสำคัญในสงครามยาเสพติดในเม็กซิโกนานหลายปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และก่อความรุนแรงทั่วประเทศ การ์เตล เด ซินาโลอาก่อตั้งโดย “เอล ชาโป” ผู้เคยแหกคุกเม็กซิโกออกมาได้ถึง 2 ครั้ง และปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในคุกสหรัฐฯ หลังจากนั้น กลุ่มเผชิญความท้าทายมาก ทำให้แตกตัวออกไปเป็นหลายกลุ่ม และแตกคอเป็นอริกันเองในกลุ่มเหล่านั้น

กลุ่มอาชญากรอื่นที่สหรัฐฯ ลงบัญชีในฐานะองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ เช่น MS-13 กลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติในอเมริกากลาง, ฆาลิสโก การ์เตล รุ่นใหม่ (Jalisco Cartel New Generation: CJNG) ในเม็กซิโก, การ์เตล เดล โนเรสเต (Cártel del Noreste) ในตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก, ลา นูเอบา ฟามิเลีย มิโชอากานา (La Nueva Familia Michoacana Organization) ในเม็กซิโก, การ์เตล เดล โกลโฟ (Cártel del Golfo) ในตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก, และ CU กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่รวมตัวบรรดาอาชญากรข้ามชาติในเม็กซิโก

ที่มา: BBC, BBC, CNN, Insightcrime, Britanica, The US Government