
มลพิษทางอากาศกลายมาเป็นปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าระบบทางเดินหายใจ โดยงานวิจัยล่าสุด ชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมา หากเราต้องสัมผัสกับมลพิษทางอากาศเป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่และภาวะเสื่อมถอยทางปัญญา รวมไปถึงโรคซึมเศร้า
นักวิจัยเฝ้าสังเกตการณ์เก็บข้อมูลว่า มลพิษทางอากาศยังอาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมอารมณ์ การสร้างและเก็บรักษาความทรงจำ รวมถึงความเสถียรของเส้นทางประสาทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคิดและพฤติกรรม
ท่ามกลางการขยายตัวของเมืองและระดับมลพิษที่ผันผวนในหลายพื้นที่ การทำความเข้าใจผลกระทบทางจิตวิทยาและระบบประสาทที่ซ่อนเร้นเหล่านี้จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสนใจในประเด็นนี้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนถึงความพยายามในวงกว้างที่จะประเมินว่าปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมีบทบาทต่อรูปแบบการคิด ความรู้สึก และการดำเนินชีวิตของผู้คนตลอดช่วงชีวิตอย่างไร
ผลการศึกษาดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ใน JAMA Psychiatry โดยระบุถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังสัมผัสกับมลพิษทางอากาศเป็นเวลานาน ๆ ทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่
งานวิจัยชี้ว่า การเผชิญมลพิษทางอากาศในระยะยาวมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับอัตราการเกิดอาการซึมเศร้าที่เพิ่มสูงขึ้น กลไกทางชีวภาพที่นักวิทยาศาสตร์พูดถึงคือ ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นภายในร่างกาย ความผิดปกติของการควบคุมสารสื่อประสาท และความบกพร่องในการสื่อสารระหว่างเครือข่ายประสาทที่มีหน้าที่กำหนดอารมณ์และการตอบสนองทางความรู้สึก อนุภาคฝุ่นขนาดเล็กยังสามารถเข้าสู่สมองผ่านกระแสเลือด ซึ่งอาจรบกวนความมีเสถียรภาพของสารซีโรโทนินและโดพามีน ซึ่งสารเคมีที่ช่วยควบคุมสมดุลอารมณ์ได้
อาการที่อาจพบได้ ได้แก่
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อาการเหล่านี้มักค่อย ๆ ปรากฏทีละเล็กทีละน้อย ทำให้หลายคนมักโยนเหตุผลไปที่ความเครียดหรือไลฟ์สไตล์ มากกว่าจะเชื่อมโยงกับการสัมผัสมลพิษทางอากาศในระยะยาว