Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ทอง"เสี่ยงดิ่งสุดรอบ 1 ปี จับตาลุด 30,000 บาท ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

"ทอง"เสี่ยงดิ่งสุดรอบ 1 ปี จับตาลุด 30,000 บาท ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

15 มิ.ย. 65
17:18 น.
แชร์

ดร. พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล. ผู้อำนวยกำรศูนย์วิจัยทองคำ (Gold Research Center) ให้ข้อมูลกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้มีมุมมองเป็น 2 กรณี

กรณีที่ 1. เฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75%

หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% จะเป็นปัจจัยกดดันต่อภาพรวมการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก รวมถึงกระทบ "ราคาทองคำ" ให้มีความเสี่ยงจะปรับลดลงไปที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลดลงไปที่ 29,500 บาทต่อบาททองคำ โดยจะเป็นระดับราคาที่ทำจุดต่ำสุดในรอบประมาณ 1 ปี

ทั้งนี้ เนื่องจากจะมีแรงขายทองคำของนักลงทุนลงออกมา เพื่อย้ายเงินลงทุนออกไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นดอลลาร์ ซึ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูง

 

กรณีที่ 2. เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% กรณีนี้มีมุมมองว่า "มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากกว่า" กรณีที่จะขึ้นดอกเบี้ยแรงที่ 0.75% โดยหากเป็นไปในรูปการณ์นี้ ประเมินว่าจะเห็นแรงซื้อของนักลงทุนกลับเข้ามาในทองคำ จึงมีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำดีดกลับมาที่ระดับ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 30,500 บาทต่อบาททองคำ

 

ทั้งนี้ เนื่องจากราคาทองคำที่ลงไประดับปัจจุบันที่ประมาณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 30,000 บาทต่อบาททองคำ ถือว่าได้รับรู้ข้อมูลที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรงที่ 0.75% ไปพอสมควรแล้ว

 

goldus

  

ขณะที่หลังการประชุมในคืนนี้ (14-15 มิ.ย.) เฟดจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) อีก 4 ครั้ง ซึ่งวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.50%

 

ดังนั้นจะส่งผลให้สิ้นปี 2565 ดอกเบี้ยของสหรัฐจะขยับขึ้นไปถึงระดับ 2.25-2.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.75-1% โดยเฟดมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือดอกเบี้ยมาแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเงินเฟ้อสหรัฐในเดือน พ.ค.ปีนี้ ขยับขึ้นไปแตะ 8.6% หรือสูงสุดในรอบ 40 ปี

 

คำแนะนำการลงทุน ให้เก็งกำไรซื้อขายทองคำ "แบบระยะสั้น" เนื่องจากภาพรวมการลงทุนของสินทรัพย์ทั่วโลกยังเป็นช่วงขาลง โดยให้ติดตามข้อมูลผลประชุมของเฟดในคืนนี้อย่างใกล้ชิด

  • หากผลประชุมเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แล้วราคาทองคำสามารถดีดบวกขึ้น แนะนำให้ทยอยขายทำกำไรที่ระดับราคา 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 30,500 บาทต่อบาททองคำ

  • หากกรณีที่ขึ้นดอกเบี้ยแรงที่ 0.75% แล้วมีผลกระทบทำให้ราคาทองคำลงแรง แนะนำให้รอซื้อที่ระดับราคา 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลดลงไปที่ 29,500 บาทต่อบาททองคำ ถึงระดับ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลดลงไปที่ 30,00 บาทต่อบาททองคำ เพราะเป็นระดับราคาที่จะมีแรงซื้อเข้ามารับในภายหลัง โดยเฉพาะจากองทุนขนาดใหญ่ของโลก

 

 


YLG มองราคาทองมีปัจจัยกดดันเพิ่ม หลังเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัว

400957

 

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก 10.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงมีแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้การคาดการณ์ดังกล่าว สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group ที่บ่งชี้ว่า

 

ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. 2565 เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนักเพียง 5% การคาดการณ์ดังกล่าว

ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อ และแตะระดับสูงสุดที่ 105.65 ซึ่งเป็น ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2545 สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ครั้งใหม่ที่ 1,804.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

681779

 

นอกจากนี้ราคาทองคำยังมีปัจจัยลบกดดันจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยฟื้นตัวขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ร่วงลง 2.9% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 0.7% ในเดือนพ.ค.


นอกจากนี้ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.ของเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 28.49 ล้านตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 935,000 ต าแหน่งเมื่อเทียบเป็นรายปีทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 15 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว

 

สำหรับคืนนี้แนะนำให้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ จะเปิดเผยยอดค้าปลีก เดือนพ.ค.,ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index),ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ปีนี้ รวมถึงจับตารายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยในเวลาตี 1 และแถลงการณ์ของประธานเฟดในเวลาตี 1 ครึ่ง

แชร์
"ทอง"เสี่ยงดิ่งสุดรอบ 1 ปี จับตาลุด 30,000 บาท ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง