Update ราคาบิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์เช้านี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯเดือนเมษายน ออกมาสูงกว่าคาด 80.3% นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเพิ่งปรับขึ้นไป 0.50% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ระยะนี้นักลงทุนขวัญผวากับการปรับตัวลดลงแรงของราคาคริปโทเคอเรนซี่ และเหรียญหลักอย่างบิตคอยน์ ที่เคยทำจุดสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว 69,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ ได้ลดลงมากกว่า 50% ในปัจจุบัน หลุด 30,000 ดอลลาร์สหรัฐเรียบร้อยในสัปดาห์นี้ โดยล่าสุดเช้านี้ ประมาณ 08.24 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 4.70% แตะที่ระดับ 29,449 ดอลลาร์
ส่วนช่วงสายประมาณ 10.00 น. เว็บไซต์ https://coinmarketcap.com รายงานราคาคริปโทเคอเรนซี่ที่มีการปรับลดลง
- ราคาบิตคอยน์ 28,779 ดอลลาร์ ลดลง 27.50% ในรอบ 7 วัน
- ราคาอีเธอเรียม 2,050 ดอลลาร์ ลดลง 30.42% ในรอบ 7 วัน
- ส่วนราคาที่ลงสุดโหด คือ เหรียญลูน่า 0.64 ดอลลาร์ ลดลง 99.26% ในรอบ 7 วัน และ ลดลง 95.61% ในอ24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ประเด็นของเหรียญ ลูน่า สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ มรสุมเหรียญ Terra พ่นพิษ! สหรัฐจี้คองเกรสออกกฎคุม Stablecoin ทั้งระบบ
- เหรียญ โซลาน่า 50.20 ดอลลาร์ ลดลง 46.96% ในรอบ 7 วัน
ข้อมูลของ Coinmarketcap.com ซึ่งรวบรวมราคาสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 สกุลจากตลาดซื้อขายทั่วโลก พบว่า มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดดิ่งลงสู่ระดับ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพุธที่ 11 พ.ค. จากระดับ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ก่อนหน้านี้ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลเคยพุ่งแตะระดับ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงช่วงนี้ คือความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหสรัฐ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524 แต่ดัชนี CPI เดือนเม.ย.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.1%
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า นักลงทุนราว 40% ที่ถือครองบิตคอยน์ได้ประสบภาวะขาดทุน หลังจากบิตคอยน์มีมูลค่าลดลงเกือบ 55% จากที่เคยพุ่งแตะ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนเม.ย. พบว่า วอลเล็ตบิตคอยน์ราว 15.5% ประสบภาวะขาดทุน หลังบิตคอยน์ดิ่งลงสู่ระดับ 31,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงตามดัชนี Nasdaq และสวนทางความเชื่อที่ว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกวูบหายไปถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ซึ่งจะฉุดสภาพคล่องในตลาด
ส่วนภาพของตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเช้านี้ 9.59 น. ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง ทันที 8.43 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,604.91 จุด หรือ 0.52% หลังจากนั้นดัชนีไหลลงต่ออีกกว่า 10 จุด หลุด1,600 จุดไปเลย ซึ่งนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยยังคงต้องติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด
"ปัจจุบันเรายังคงต้องติดตามข่าวสารจากต่างประเทศที่เป็นผลกระทบหลักต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตามอยากให้นักลงทุนมองที่พื้นฐานประเทศไทยว่ามีความแข็งแรงมาก และปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จะเป็นส่วนช่วยหนุนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนใหญ่ของ GDP ประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว แล้วลองคิดดูว่าจะช่วยผลักดันให้ GDP เติบโตได้แค่ไหน"นายภากร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิด 3 เหตุผล "บิตคอยน์ขาลง" พร้อมแนวโน้มลงยาวถึงสินปีนี้