
ราคาทองคำในตลาดโลกสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความเปราะบาง สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศที่ยังปะทุเป็นระยะ ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกหันกลับมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ท่ามกลางสัญญาณว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้
การประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) ที่ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อ โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 4,110-4,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้ จากแรงหนุนของปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแรง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และกระแสข่าวเกี่ยวกับตัวเต็งว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งล้วนเป็นตัวเร่งให้ความต้องการถือทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาทองคำในระยะนี้มาจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 216,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 226,000 ราย สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ซึ่งตลาดมองว่าเป็นข้อมูลสำคัญต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่าง J.P. Morgan ปรับประมาณการใหม่ โดยคาดว่าเฟดมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม จากเดิมที่ประเมินว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า ประกอบกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงที่เริ่มเปิดช่องถึงความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ยิ่งทำให้ตลาดเชื่อว่าแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งถือเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดด้านการทูตระหว่างจีนและญี่ปุ่น รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไร้ข้อสรุป แม้จะมีความพยายามเจรจาสันติภาพ แต่การสู้รบยังดำเนินต่อเนื่อง โดยรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีกรุงเคียฟ ขณะที่ยูเครนตอบโต้ด้วยการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซีย ด้านนายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ระบุว่า รัสเซียได้รับข้อเสนอใหม่จากสหรัฐเกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามแล้ว และเห็นด้วยในบางประเด็น แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องหารือเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตากระแสข่าวเกี่ยวกับผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และอดีตที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะมาแทนเจอโรม พาวเวล ในตำแหน่งประธานเฟด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความกังวลต่อความเป็นอิสระเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ และยิ่งตอกย้ำบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 4,110-4,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมมองว่าจังหวะที่ราคาย่อตัวลงเป็นโอกาสสำหรับทยอยสะสมการลงทุน เพื่อรับประโยชน์จากทิศทางตลาดที่ยังอยู่ในช่วงความเสี่ยงสูงและนโยบายการเงินโลกเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น