
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า มาซาโยชิ ซัน (Masayoshi Son) ผู้ก่อตั้งซอฟต์แบงก์ (SoftBank) ตัดสินใจขายหุ้นเอ็นวิเดีย (Nvidia) ที่ถืออยู่ทั้งหมด เป็นมูลค่า 5,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้เกิดความกังลมากขึ้นว่า กระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผลักดันมูลค่าหุ้น Nvidia และบรรดาหุ้นเทคให้พุ่งสูงต่อเนื่อง อาจเข้าสู่ช่วงเปราะบางแล้วหรือไม่ ขณะที่ตลาดกำลังถกเถียงกันอย่างหนักอยู่แล้วเกี่ยวกับความเสี่ยงของฟองสบู่ AI
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มาซาโยชิ ซัน ได้ออกมาลดทอนความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการที่เขาขายหุ้น Nvidia ว่า ที่จริงแล้วเขาไม่ได้อยากขายเลย แต่จำเป็นต้องขายเพราะต้องการเงินไปลงทุนในบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) เจ้าของแชตจีพีที (ChatGPT) โดยเขาบอกว่าตัวเองถึงกลับร้องไห้ตอนที่ตัดสินใจว่าต้องขายหุ้น Nvidia ออกไป
ซันกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน FII Priority Asia ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมว่า ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะไม่ขายหุ้นชุดนี้เลย แต่ซอฟต์แบงก์ต้องการเงินสำหรับลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ครั้งใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนก้อนใหญ่ใน OpenAI และโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ต่าง ๆ
“ผมไม่อยากขายแม้แต่หุ้นเดียว แต่ผมต้องใช้เงินไปลงทุนใน OpenAI และโครงการอื่น ๆ … ผมถึงกับร้องไห้ที่ต้องขายหุ้น Nvidia”
สิ่งที่ซันกล่าวนี้สอดคล้องกับคำอธิบายของนักวิเคราะห์และผู้บริหารซอฟต์แบงก์คนอื่น ๆ ที่กล่าวในเดือนพฤศจิกายนว่า การขายหุ้น Nvidia เป็นส่วนหนึ่งของแผนเสริมงบลงทุนด้าน AI ให้กองทุน SoftBank Vision Fund
ในปีนี้ซอฟต์แบงก์ได้ทุ่มทุนกับแผนด้าน AI เป็นสองเท่า ผ่านการลงทุนในโปรเจ็กต์ต่าง ๆ เช่น โครงการดาต้าเซ็นเตอร์สตาร์เกต (Stargate Project) และการเข้าซื้อกิจการบริษัทออกแบบชิปสัญชาติสหรัฐฯ ที่ชื่อ แอมเพียร์ คอมพิวติง (Ampere Computing)
นอกจากนี้ ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่า ซอฟต์แบงก์อาจจะเพิ่มการลงทุนใน OpenAI อีก ขึ้นอยู่กับผลงานของ OpenAI และการประเมินมูลค่าในรอบการระดมทุนรอบถัดไป
เมื่อต้นปี 2025 ซันเคยบอกว่า ซอฟต์แบงก์กำลัง “ทุ่มหมดหน้าตัก” ให้กับ OpenAI และเขาคาดว่า OpenAI จะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในอนาคต
จนถึงตอนนี้ การเดิมพันดังกล่าวเริ่มเห็นผลบ้างแล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้วซอฟต์แบงก์รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น 2.5 ล้านล้านเยน (16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งได้แรงหนุนจากมูลค่าการลงทุนใน OpenAI ที่เพิ่มขึ้น
การทุ่มลงทุนใน AI ครั้งใหญ่ของซอฟต์แบงก์เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลในตลาดเกี่ยวกับฟองสบู่ AI แต่ซันใช้เวทีล่าสุดนี้ตอบโต้ความกังวลดังกล่าว โดยบอกว่า คนที่พูดเรื่องฟองสบู่ AI นั้น “ยังไม่ฉลาดพอ”
นอกจากนั้น เขาคาดการณ์ด้วยว่า ปัญญาประดิษฐ์ระดับสูง (super AI) และหุ่นยนต์ AI จะสร้างมูลค่าอย่างน้อย 10% ของจีดีพีโลกในระยะยาว ซึ่งมากพอที่จะคุ้มกับการลงทุนระดับหลายล้านล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีนี้
หมายเหตุ: ภาพประกอบเป็นแฟ้มภาพ SoftBank ประกาศการลงทุนใน OpenAI เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025