
ในช่วงใกล้ปลายปีแบบนี้ มักจะมีนโยบายลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจออกมาใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสำหรับปี 2568 นี้ เราได้พบกับนโยบายสำหรับคนอยากเที่ยวอย่าง “เที่ยวดีมีคืน 2568”
แต่คำถามสำคัญก่อนที่เราจะใช้สิทธิ์นั้น มันคือการทำความเข้าใจเงื่อนไขลดหย่อนภาษี และวิธีการใช้สิทธิ์ที่จะทำให้เราได้มากกว่า “ลดภาษี” แต่เป็นความคุ้มค่า ที่เราจะได้รับจากการวางแผนการเงินที่ดี
บทความนี้จะมาชวนทุกคนทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันครับ
เที่ยวดีมีคืนเป็นมาตรการภาษีที่รัฐบาลออกมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี โดยเปิดโอกาสให้ “บุคคลธรรมดา” (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) นำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวตามที่จ่ายจริงสูงสุด 20,000 บาทมาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี สำหรับการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568
ต้องบอกว่าหัวใจของนโยบายนี้คือ “การกระจายรายได้” ไปสู่ท้องถิ่น รัฐบาลจึงกำหนดแรงจูงใจเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรองจำนวน 55 จังหวัด และบางอำเภอในเมืองหลักให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ในขณะที่ท่องเที่ยวในเมืองหลักจะได้สิทธิ์ 1 เท่าตามที่จ่ายจริง
นั่นแปลว่าเงินจำนวน 20,000 บาทที่จ่ายไป หากใช้ในเมืองรองทั้งหมด 100% จะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30,000 บาท
หรือพูดง่าย ๆ ว่าสำหรับคนที่อยากลดหย่อนได้อย่างคุ้มค่าต้อง “วางแผนเที่ยวเมืองรอง” ให้ดี เพราะนอกจากจะช่วยกระจายรายได้แล้ว ยังลดหย่อนภาษีได้มากกว่าการท่องเที่ยวในเมืองหลัก
สิทธิ์ลดหย่อนนี้จะได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานทางภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งคือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยการใช้สิทธิ์ในใบกำกับภาษีจำนวน 20,000 บาท นั้น มีเงื่อนไขสำคัญดังนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ จะต้องมีชื่อ–นามสกุล ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีบนใบกำกับภาษีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรือ e-Tax Invoice
ดังนั้น ก่อนชำระเงินควรถามร้านอาหารหรือโรงแรมให้ชัดว่า “ออกใบกำกับภาษีได้ไหม” และถามต่อไปอีกว่า เป็นใบกำกับภาษีประเภทใด เพื่อให้เราสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างครบถ้วน
โดยเราสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าระบบ e-Tax ได้โดยตรงที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
etax.rd.go.th/ETAXSEARCH
คำว่า “ลดหย่อนภาษี” ไม่ได้หมายถึงการลดภาษีเต็มจำนวน แต่มันคือการ “ลดภาษี” เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งมูลค่าที่แท้จริงของจำนวนเงินภาษีที่ลดได้ขึ้นอยู่กับอัตราภาษีของแต่ละคน
ตัวอย่างการคำนวณสิทธิ์ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท
ฐานภาษี | เงินคืนภาษีที่ลดได้ |
ยกเว้น | ลดไม่ได้ |
5% | 1,500 บาท |
10% | 3,000 บาท |
15% | 4,500 บาท |
20% | 6,000 บาท |
25% | 7,500 บาท |
30% | 9,000 บาท |
35% | 10,500 บาท |
จะเห็นว่า คนที่มีรายได้สูงและอยู่ในฐานภาษีที่อัตรามากกว่า จะได้รับผลประโยชน์ทางภาษีมากกว่า ดังนั้น ก่อนใช้สิทธิ์ ควรคำนวณให้ดีว่าฐานภาษีของตัวเองอยู่ระดับไหน เพื่อประเมินความคุ้มค่าได้ชัดเจน และอย่าลืมพิจารณาสภาพคล่อง กระแสเงินสดที่เรามี เพราะการลดหย่อนภาษีที่ดี ต้องไม่ทำให้เกิดภาระการเงินตามมา
ถึงแม้มาตรการ “เที่ยวดีมีคืน” จะช่วยให้เราได้ประโยชน์ทางภาษีและเงินในกระเป๋ากลับมาบ้าง แต่ “ความสุขจริง ๆ” จากการท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขลดหย่อน แต่อยู่ที่ “ประสบการณ์” ที่เราได้จากการเดินทางหรือใช้เวลา “ทานอาหาร” ร่วมกัน
ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลัก เมืองรอง แต่การได้พาครอบครัวไปพักผ่อน ได้เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ ลูก หรือได้ใช้เวลากับคนสำคัญ นั่นแหละคือสิ่งที่เราได้ “คืนกลับมา”อย่างแท้จริง
เพราะสุดท้ายแล้ว สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอาจทำให้เราประหยัดเงินได้เพิ่มขึ้น แต่ “ความทรงจำจากการเดินทาง” ต่างหากที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน
ขอให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างมีความสุขครับ :)
ป.ล. ดูคลิปเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ https://youtu.be/_6QPtpNjCWM?si=5HZuybzrddNCmlD-

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เจ้าของเพจ TAXBugnoms