Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
หุ้น Berkshire ยังน่าซื้อไหม เมื่อ ‘บัฟเฟตต์’ ลาตำแหน่ง CEO
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

หุ้น Berkshire ยังน่าซื้อไหม เมื่อ ‘บัฟเฟตต์’ ลาตำแหน่ง CEO

3 พ.ย. 68
20:46 น.
แชร์

เป็นคำถามมาอย่างน้อยๆ ก็ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 ว่า หุ้นบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ (Berkshire Hathaway) จะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นหุ้นเทพที่น่าซื้ออยู่ไหม ? เมื่อวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนระดับตำนานของโลก ผู้สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่หุ้น Berkshire Hathaway มา 6 ทศวรรษ ประกาศว่าจะลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในสิ้นปีนี้ แต่จะยังเป็นประธานบริษัทคอยให้คำปรึกษาเมื่อจำเป็น

หลังบัฟเฟตต์ประกาศกำหนดเวลาลงจากตำแหน่ง CEO หุ้นของ Berkshire Hathaway ก็ทำผลงานแย่ลง แม้จะมีช่วงที่ฟื้นขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่กลับไปใกล้เคียงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในเดือนพฤษภาคมอีกเลย 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2025 ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เป็นการประกาศผลการดำเนินงานในช่วงเวลาที่ Berkshire กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ เกร็ก เอเบล (Greg Abel) 

กำไร Q3 เพิ่ม แต่กำไร 9 เดือนหด 

ในไตรมาส 3 ปี 2025 Berkshire Hathaway มีกำไรสุทธิ (Net Earning) อยู่ที่ 30,796 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.31%% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2024 ที่มีกำไรสุทธิ 26,251 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากกำไรดีขึ้นทั้งในส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทที่ Berkshire ควบคุมกิจการซึ่งเพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า และในส่วนกำไรจากการลงทุนในหุ้นบริษัทที่ Berkshire ไม่ได้ควบคุมกิจการ 

ธุรกิจสำคัญที่สร้างกำไรจากการดำเนินงานให้ Berkshire มากที่สุดคือธุรกิจประกันภัย ตามมาด้วยธุรกิจการผลิต บริการ และค้าปลีก (MSR) ทั้งนี้ บัฟเฟตต์กล่าวในการประชุมประจำปีเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า กำไรจากธุรกิจประกันภัยในปี 2024 อยู่ในระดับที่ดีที่สุด ดังนั้น การทำผลงานได้ดีเกือบเท่าตัวในปีนี้จึงถือเป็นผลงานที่น่าประทับใจ 

แต่กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ยังไม่พอชดเชยกำไรที่ลดลงในสองไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้กำไรสุทธิในภาพรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 31.07% เหลือเพียง 47,769 ล้านดอลลาร์ จากที่ทำได้ 69,301 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2024 

อย่างไรก็ตาม มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ดีในการวัดการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่แท้จริงของ Berkshire อยู่ที่ 485,429 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.9% จาก 437,580 ดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า

เงินสดสูงทุบถิติ (อีกแล้ว) 

ด้านเงินสดสำรองยังเพิ่มขึ้นอีกไตรมาส ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่ 381,700 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าในไตรมาสดังกล่าว Berkshire มีการซื้อหุ้นเพิ่มเข้าพอร์ตเป็นมูลค่า 6,400 ล้านดอลลาร์ แต่ก็มีการขายออกมากถึง 12,500 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ Berkshire เป็นผู้ขายสุทธิ และมีเงินสดเพิ่มเข้ากองเงินสดสำรองอีก 6,100 ล้านดอลลาร์

ส่วนการซื้อหุ้นคืนยังไม่เกิดขึ้น ไตรมาส 3 ที่ผ่านมานับเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่ Berkshire Hathaway ไม่ซื้นหุ้นคืน แม้ว่าราคาหุ้นลดลงแล้วเกือบ 12% นับตั้งแต่ที่บัฟเฟตต์ประกาศจะอำลาเก้าอี้ CEO ในเดือนพฤษภาคม

ตำนานหุ้นเทพ 6 ทศวรรษ ปีนี้แพ้ S&P 500

ในอดีต ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา การซื้อหุ้น Berkshire Hathaway เป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับการลงทุน เพราะทั้งมีความเสี่ยงน้อยและให้ผลตอบแทนดีอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นตำนานหุ้นเทพแห่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ในช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ทำผลงานชนะดัชนี S&P 500 แทบทุกปี ตั้งแต่ปี 1965 ถึง 2024 หุ้น Berkshire Hathaway ให้ผลตอบแทน 5,502,284% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทน (รวมเงินปันผลแล้ว) 39,054% ส่วนกำไรต่อปีแบบทบต้นของ Berkshire Hathaway ในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 19.9% ​​ขณะที่ผลตอบแทนของ S&P 500 อยู่ที่ 10.4%

แต่ในปีนี้ที่เหลือเวลาเพียง 2 เดือน นับเป็นเพียงไม่กี่ปีในประวัติศาสตร์ที่ Berkshire Hathaway ทำผลงานตามหลัง S&P 500 โดยนับจากต้นปี (YTD) จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม หุ้น Berkshire Hathaway บวกเพียง 5.86% ขณะที่ S&P 500 บวก 16.56% แนวโน้มจึงสูงมากที่ Berkshire Hathaway จะจบปีด้วยผลงานล้าหลังตลาด 

สรุปแล้ว... หุ้น Berkshire ยังน่าซื้อไหม ?

สำหรับคำถามที่ว่า เมื่อบัฟเฟตต์จะลาตำแหน่ง CEO แล้ว หุ้น Berkshire Hathaway จะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นหุ้นที่น่าซื้อหรือไม่ มีนักวิเคราะห์จากสถาบันต่างๆ วิเคราะห์ไว้ดังนี้ 

แคธี ไซเฟิร์ต (Cathy Seifert) นักวิเคราะห์จาก ซีเอฟอาร์เอ รีเสิร์ช (CFRA Research)  มองว่า การที่ Berkshire Hathaway ไม่ซื้อคืนหุ้นมาแล้วหลายไตรมาส เป็นการส่งสัญญาณที่ทรงพลังมากไปยังผู้ถือหุ้นว่าหุ้นตัวนี้ยังไม่ควรซื้อ

“ถ้าพวกเขาไม่ซื้อหุ้นคืน แล้วทำไมคุณถึงต้องซื้อด้วยล่ะ” เธอชวนคิด 

ไซเฟิร์ตบอกว่า แม้ Berkshire Hathaway จะมีกำไรเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเธอบอกอีกว่า ยังมองไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นที่จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้ 

จิม ชานาแฮน (Jim Shanahan) นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและความมั่งคั่ง เอ็ดเวิร์ด โจนส์ (Edward Jones) มองไปที่ว่า ตอนนี้ Berkshire ยังไม่มีโอกาสมากนักที่จะลงทุนในบริษัทที่ดีๆ แบบที่บัฟเฟตต์หวัง ซึ่งการที่ Berkshire ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ แสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นกำไรจากการลงทุนที่ลดน้อยลง 13% ในไตรมาส 3

ขณะที่กำไรจากการลงทุนในบริษัทอื่นลดลง บางธุรกิจที่ Berkshire ควบคุมกิจการเองก็ทำผลงานไม่ดี อย่าง ไพล็อต ทราเวล เซ็นเตอร์ส (Pilot Travel Centers) ซึ่งทำธุรกิจจุดจอดรถบรรทุก ที่ขาดทุน 17 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งชานาแฮนมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยดี และเขาสนใจที่จะติดตามดูว่าฝ่ายบริหารจะพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

บิลล์ สโตน (Bill Stone) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของบริษัทบริหารสินทรัพย์และการลงทุน เดอะ เกลนวิว ทรัสต์ คอมพานี (The Glenview Trust Company) เขียนบทวิเคราะห์เผยแพร่ใน ฟอร์บส (Forbes) ว่า โดยทั่วไปแล้วผลประกอบการระยะสั้นไม่มีความสำคัญสำหรับ Berkshire ซึ่งบริหารงานโดยเน้นการเพิ่มมูลค่าในระยะยาวมากกว่าการบรรลุเป้าหมายรายไตรมาส แต่ผลประกอบการจะใช้ในการประเมินว่าแต่ละกลุ่มธุรกิจดำเนินงานได้ตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และใช้เพื่อพิจารณาตัดสินใจในการจัดสรรเงินทุนของบัฟเฟตต์ 

บิลล์ สโตน ไม่ได้บอกตรงๆ ว่าหุ้น Berkshire ยังน่าลงทุนหรือไม่ แต่เขาได้แจกแจงปัจจัยในการพิจารณาตามที่บัฟเฟตต์ได้ให้แนวทางการบริหาร Berkshire ไว้ ซึ่งประกอบด้วย 3 เป้าหมาย คือ 

1. การเพิ่มกำไรจากการดำเนินงาน: กำไรจากการดำเนินงาน ของ Berkshire Hathaway ในรอบ 12 เดือนล่าสุดเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 17.9% 

2. ลดจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว (ซื้อหุ้นคืน): Berkshire Hathaway ไม่ได้ซื้อหุ้นคืนมา 6 ไตรมาสแล้ว เนื่องจากอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B) ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยราคาหุ้นที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ มูลค่าจึงใกล้เคียงกับระดับที่อาจมีการซื้อหุ้นคืนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบัฟเฟตต์เป็นหลัก 

3. หวังว่าจะมีโอกาสใหญ่เกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว (หวังว่าจะเจอบริษัทดีๆ ที่น่าซื้อ): Berkshire มีเงินสดสำรองอยู่มหาศาลถึง 381,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมสำหรับการซื้อหุ้นหากฝ่ายบริหารมองว่าเจอของดีในราคาคุ้มค่า ซึ่งในไตรมาส 3 บริษัทที่ Berkshire ซื้อคือ OxyChem บริษัทลูกของ Occidental Petroleum (OXY) 

หลายคนบอกว่าราคาหุ้นของ Berkshire ร่วงลงเพราะบัฟเฟตต์ประกาศวางมือจากตำแหน่งซีอีโอ แต่บิลล์ สโตน มองว่าสาเหตุที่แท้จริงน่าจะมาจากปัจจัยอื่น นั่นคือนักลงทุนมักจะแห่เข้าซื้อหุ้น Berkshire ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยพุ่งสูงขึ้น แต่เมื่อความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยลดลง นักลงทุนบางส่วนได้ย้ายไปลงทุนในหุ้นอื่น บวกกับการประเมินมูลค่าหุ้น Berkshire ก็สูงเกินจริงด้วยในช่วงเดือนพฤษภาคม

คนที่วิเคราะห์แล้วให้คำตอบแบบฟันธงสุดๆ คือ เกรกกอรี วอร์เรน (Greggory Warren) นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสของมอร์นิงสตาร์ (Morningstar) ที่ให้เรตติงหุ้น Berkshire Hathaway ระดับ 5 ดาว หรือระดับสูงสุด และมองว่าราคาในปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเขาประเมินระดับราคาที่เหมาะสม (fair value) อยู่ที่ 765,000 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับหุ้น Class A หรือ 510 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับหุ้น Class B ขณะที่ราคาหุ้น Berkshire ปิดตลาดวันที่ 31 ตุลาคมที่ 715,740 ดอลลาร์ และ 477.54 ดอลลาร์ 

อ้างอิง : Berkshire Hathaway, Bloomberg, Forbes, Morningstar 

แชร์
หุ้น Berkshire ยังน่าซื้อไหม เมื่อ ‘บัฟเฟตต์’ ลาตำแหน่ง CEO