Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไทยส่งทองไปกัมพูชาเกิน7หมื่นล้านบาทใน7เดือน เอกชนจี้สอบหวั่นทำบาทแข็ง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ไทยส่งทองไปกัมพูชาเกิน7หมื่นล้านบาทใน7เดือน เอกชนจี้สอบหวั่นทำบาทแข็ง

11 ก.ย. 68
15:23 น.
แชร์

ค่าเงินบาทไทยแข็งพุ่งแตะระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ สวนทางเศรษฐกิจที่ยังซบเซา กกร.เตือนสถานการณ์ผิดปกติหลังพบการส่งออกทองคำไปกัมพูชาทะลุหลักหมื่นล้านบาท ตั้งข้อสงสัยอาจเชื่อมโยงธุรกิจใต้ดิน พร้อมเร่งหารือ ธปท. และกระทรวงการคลัง หวั่นซ้ำเติมผู้ส่งออกและบั่นทอนการท่องเที่ยวที่ไทยกำลังพยายามฟื้นตัว

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากก่อนหน้านี้ 31.70 บาท และมีแนวโน้มแตะระดับ 31.50 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่แท้จริง กกร.ได้ติดตามใกล้ชิดและส่งสัญญาณแล้วว่าเงินบาทแข็งเกินความจำเป็น เพราะเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแรง กำลังซื้อภายในประเทศไม่ดี หากเป็นไปตามกลไกปกติ ค่าเงินควรอ่อน ไม่ใช่แข็งขึ้นต่อเนื่อง

เขาระบุว่า แม้การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ค่าเงินในภูมิภาคแข็งขึ้น แต่สิ่งที่ผิดปกติคือเงินบาทกลับแข็งมากกว่าประเทศอื่น โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็งขึ้นแล้วกว่า 7% สูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาครองจากไต้หวัน ทั้งที่เมื่อดอลลาร์แข็งค่าในอดีต เงินบาทมักอ่อนแรงมากกว่าประเทศอื่น แต่เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า เงินบาทกลับแข็งขึ้นนำหน้าภูมิภาคทุกครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่ต้องจับตา

สถานการณ์นี้ซ้ำเติมผู้ส่งออกไทยที่ต้องเผชิญแรงกดดันสองต่อ ทั้งจากการถูกเก็บภาษีนำเข้า 19% ของสหรัฐ และจากค่าเงินบาทแข็ง ขณะที่หลายประเทศเลือกใช้นโยบายทำให้ค่าเงินอ่อนลงเพื่อลดผลกระทบ แต่ไทยไม่มีเครื่องมือเช่นนั้น ทำให้ผู้ส่งออกซึ่งมีสัดส่วนกว่า 60% ของจีดีพีได้รับผลกระทบเต็ม ๆ นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวซึ่งไทยพยายามเร่งฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ก็มีความเสี่ยงถูกบั่นทอน เพราะเงินบาทแข็งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลังเลจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และอาจหันไปเลือกประเทศอื่น เช่น เวียดนามที่แม้บริการไม่เทียบเท่าแต่ถูกกว่า หรือญี่ปุ่นที่ค่าเงินเยนอ่อนทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงและยังมีคุณภาพบริการสูง

กกร.ชี้ส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งผิดธรรมชาติ

กกร.ยังพบความผิดปกติในเชิงโครงสร้างการค้า โดยเฉพาะการส่งออกทองคำไปกัมพูชาในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับที่พุ่งสูงผิดปกติ จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นทองคำ ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศเล็กและไม่มีศักยภาพรองรับการนำเข้าทองคำในปริมาณมาก ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ “หลักหมื่นล้านบาท” ซึ่งมากผิดสังเกตเมื่อเทียบกับอดีตที่ไม่เคยสูงถึงระดับนี้ ทำให้ต้องตั้งข้อสงสัยว่าการส่งออกทองคำครั้งนี้อาจเกี่ยวพันกับธุรกิจใต้ดินหรือกิจกรรมเศรษฐกิจนอกระบบ โดยยิ่งน่ากังวลเมื่อกัมพูชาถูกมองว่ามีปัญหาเรื่องแก๊งสแกมเมอร์และธุรกรรมการเงินผิดกฎหมายจำนวนมาก

ในด้านสถิติการส่งออกทองคำไปกัมพูชาของไทย ผู้สื่อข่าว SPOTLIGHT ตรวจสอบจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ปี 2568 ไทยส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปไปกัมพูชาเป็นมูลค่า 71,312.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.13% จาก 59,860.89 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ส่งออกเครื่องประดับแท้ทำด้วยทองเป็นมูลค่า 495.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.57% จาก 464.86 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมแล้วกว่าเจ็ดหมื่นล้านบาท สอดคล้องกับข้อสังเกตของกกร.

นายเกรียงไกรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะการส่งออกทองคำอาจมีทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย แต่เป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้าม กกร.จึงอยู่ระหว่างการลงรายละเอียด และจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และรัฐบาลเพื่อหาสาเหตุ โดยอาจพิจารณาแยกดุลการค้าทองคำออกมาตรวจสอบโดยเฉพาะ เพื่อหาทางแก้ไขได้ตรงจุด

เขาย้ำว่า หากมองตามความจริง เศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง และแม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะเพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เงินบาทก็ควรอ่อนค่า แต่กลับแข็งขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นความผิดปกติที่ไม่สอดคล้องกับกลไกเศรษฐกิจ หากปล่อยให้ยืดเยื้อจะซ้ำเติมทั้งผู้ส่งออกและการท่องเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่


แชร์
ไทยส่งทองไปกัมพูชาเกิน7หมื่นล้านบาทใน7เดือน เอกชนจี้สอบหวั่นทำบาทแข็ง