ราคา Bitcoin สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 120,000 ดอลลาร์ ได้สำเร็จ แต่ด้วยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปและปัจจัยบวกอื่นๆที่ยังรออยู่ เรายังสามาถคาดหวังได้ถึงอัพไซด์ของ Bitcoin ที่ยังขึ้นไปได้ต่อ
บทความนี้จะวิเคราะห์แนวโน้มราคา Bitcoin โดยใช้ทั้งปัจจัยพื้นฐาน OnChain Data กราฟเทคนิค รวมถึงพฤติกรรมตลาด
สาเหตุที่ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมาได้ถึงระดับนี้ มาจากปัจจัยสนับสนุนอย่างเช่น การเข้าซื้อสะสมอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบันผ่านกองทุน ETF รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นที่สะสมเข้ามาในงบดุลของบริษัท ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงกว่า 10% ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ส้างจุดสูงสุดใหม่ ตลอดจนความเชื่อมั่นในกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตของสหรัฐฯ
ขณะที่ข้อมูล OnChain ซึ่งวิเคราะห์รูปแบบการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนระบุว่าจำนวนนักลงทุนระยะยาว (Long Term Holder) ที่ถือ Bitcoin นานกว่า 155 วันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทำสถิติใหม่ คนกลุ่มนี้จะยังไม่ขาย Bitcoin ออกมากดดันตลาด
ส่วนดัชนี Market Value to Realized Value (MVRV) ซึ่งจะเปรียบเทียบมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Bitcoin กับต้นทุนรวมถัวเฉลี่ยของ Bitcoin ทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ เพิ่งจะแตะระดับ 2.25 ซึ่งระดับที่เริ่มเข้าสู่โซนการขายทำกำไรในอดีตจะอยู่ที่ 2.75 ขึ้นไปจากข้อมูลปัจจุบัน ระดับ 2.75 นี้สอดคล้องกับราคา Bitcoin ที่ประมาณ 130,900 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ซัพพลายของ Bitcoin ส่วนที่ซื้อขายได้ในตลาด OTC และ Exchange มีจำนวนลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้อาจเกิดภาวะซัพพลายช๊อคได้ถ้ามีความต้องการเข้ามาจำนวนมาก
ด้านพฤติกรรมตลาด การที่ราคา Bitcoin ขึ้นมาอยู่ระดับนี้ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่คือนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังไม่ได้กลับเข้ามาในตลาดเหมือนกับในอดีต โดยดูได้ขจากยอดการค้นหาคำว่า Bitcoin ใน Google ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เริ่มเห็นสัญญาณที่เวบเทรดสำหรับรายย่อยอย่าง Binance ถือครอง Stablecoin อย่าง USDT และ USDC รวมกันสูงถึง 31 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณว่ารายย่อยกำลังกลับเข้ามาในตลาด
ขณะที่กราฟเทคนิคระบุว่าแนวโน้มราคา Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ระดับราคา 150,000-200,000 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายของสถาบันการลงทุนหลายรายได้ประเมินไว้
อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นคือความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินและกฎระเบียบคริปโต รวมถึงความเสี่ยงที่บริษัทจดทะเบียต่างๆที่ลงทุนใน Bitcoin อาจเข้าสู่ภาวะ Leverage สูงเกินไป ซึ่งอาจจะเป็น Blackswan ที่จะเกิดขึ้นได้
.
บทความนี้เป็นการวิเคราะห์ด้วยมุมมองส่วนตัวไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนแต่อย่างไร
ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท เมตาที จำกัด และ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย