บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งสำคัญ หลังผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ SFTH เสนอให้เพิกถอน KEX ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยสมัครใจ พร้อมประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือในตลาดจากนักลงทุนรายย่อย
คำตอบคือ "ไม่" – KEX ย้ำชัดว่ายังให้บริการจัดส่งพัสดุในไทยตามปกติ ไม่มีการปิดกิจการ และไม่มีผลกระทบต่อพนักงาน ลูกค้า หรือคู่ค้าแต่อย่างใด
ย้อนไปเมื่อ 24 ธันวาคม 2563 บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย จากราคา IPO ที่ 28 บาท ราคาได้พุ่งทำสถิติสูงสุดไว้ถึง 73 บาท แต่ในปัจจุบันราคาหุ้นของ KEX ดิ่งลงมาเรื่อยๆบางช่วงลงไปต่ำกว่า 1 บาท และปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 พ.ค.2568 ที่ 1.48 บาท เท่ากับหายไปเกือบ100 % และจากผลประกอบการที่เคยทีกำไรหลักพันล้าน กลายเป็นขาดทุนเกือบ 6 พันล้านบาทในปี 2567
ปัจจุบันบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SFTH) ผู้ถือหุ้นใหญ่ KEX เตรียมเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดเพื่อเอาบริษัทออกจากตลาด โดยจะเสนอซื้อหุ้นที่เหลือที่ราคา 1.50 บาทต่อหุ้น จากปัจจุบัน KEX มีราคาหุ้นอยู่ที่ 1.48 บาท
เหตุผลที่ SFTH เสนอให้เพิกถอน KEX ไม่ใช่เพราะจะยกเลิกธุรกิจในไทย แต่เป็นการปรับโครงสร้าง เพื่อเพิ่ม "ความคล่องตัว" ในการบริหารงาน ท่ามกลางสถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ที่แข่งขันรุนแรง ราคาต้นทุนสูง และกำไรหดตัวอย่างต่อเนื่อง
รวมแล้ว KEX ขาดทุนต่อเนื่องถึง 13 ไตรมาส ติดต่อกัน ทำให้ SFTH มองว่าจำเป็นต้องปรับแผนระยะยาวเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจอย่างจริงจัง
การเพิกถอนหุ้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
1. ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท มีมติอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยสมัครใจ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยที่ต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนหุ้นเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทตามหลักเกณฑ์การเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
2.การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์จะต้องได้รับการอนุมัติ และ/หรือ การผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ และคู่สัญญาใด ๆ และ/หรือ บุคคลภายนอก ภายใต้สัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (หากจำเป็น)
3.SFTH ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นจะต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้นของ SFTH (กลุ่ม SF) เป็นจำนวนที่เพียงพอและสามารถใช้สำหรับการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์
โดยถ้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อนี้ครบถ้วน บริษัทจะดำเนินการได้ แม้ว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นที่ไม่ใช่ SFTH ไม่ได้แสดงเจตนาขายหุ้นให้กับ SFTH ครบทุกราย
แม้จะออกจากตลาดหุ้น KEX ยังมีแผน เดินหน้าพัฒนาธุรกิจในไทยและอาเซียนต่อไป โดยเน้นการลงทุนด้านนวัตกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพ และการให้บริการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน
SFTH ยังย้ำว่า “ตลาดประเทศไทยยังเป็นส่วนสำคัญของกลุ่ม SF ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
สรุปคือ เคอรี่ เอ็กซ์เพรสไม่ได้หายไปไหน แต่อาจไม่อยู่ในตลาดหุ้นอีกต่อไป เพราะกำลังเปลี่ยนเกมใหม่เพื่ออยู่รอดในโลกโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนไป
ที่มาข้อมูล : KEX , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย