
ในปี 2568 ผลสำรวจจาก JobThai ชี้ว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ตลาดแรงงานไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีตำแหน่งงานเปิดกว่า 1.75 ล้านอัตรา และความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ค้าปลีก ยานยนต์ บริการ และก่อสร้าง ซึ่งต้องการบุคลากรที่มีทักษะทันสมัยเพื่อขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
พร้อมกันนี้ “AI-ไลฟ์สด” ได้ก้าวขึ้นเป็นทักษะทองคำที่นายจ้างทั่วประเทศแสวงหา ทั้งในงานด้านเทคโนโลยี การตลาด คอนเทนต์ และงานบริการที่พึ่งพาความสามารถเชิงดิจิทัลสูงขึ้นอย่างชัดเจน JobThai ชี้ว่าแรงงานยุคใหม่ไม่อาจหยุดอยู่กับที่ การ “Reskill” และ “Upskill” จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่ออยู่รอดในโลกการทำงานที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยแรงงานที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีกับความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่
JobThai ผู้ให้บริการหางาน-สมัครงานออนไลน์อันดับหนึ่งของประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดแรงงานไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) จากฐานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและการสมัครงานทั่วประเทศ พบว่าตลาดแรงงานไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดรับสมัครงานรวมกว่า 1,758,029 อัตรา เพิ่มขึ้น 2.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันมีการสมัครงานผ่านระบบกว่า 17.5 ล้านครั้ง โดยพบว่าช่วง วันจันทร์ เป็นวันที่มีการสมัครงานมากที่สุด และช่วงเวลา 11.00-12.00 น. เป็นช่วงยอดนิยมที่ผู้สมัครมักกดส่งใบสมัคร
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ JobThai เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่หลายอุตสาหกรรมยังคงต้องการแรงงานเพิ่ม โดย 5 ธุรกิจหลัก ที่มีการเปิดรับสูงสุดในปีนี้ ได้แก่
ขณะเดียวกัน ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นดาวรุ่งของตลาดแรงงาน โดยมีตำแหน่งงานเปิดรับกว่า 92,138 อัตรา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน สะท้อนบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญของโลก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีการค้าระหว่างประเทศ
ด้านสายอาชีพที่มีการเปิดรับมากที่สุด ได้แก่ งานขาย (21.38%), งานช่างเทคนิค (9.53%), งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ (9.03%), งานวิศวกรรม (5.84%), และ งานธุรการ/จัดซื้อ (5.71%)
ส่วนสายอาชีพที่มีผู้สมัครมากที่สุดคือ งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ (13.55%), งานธุรการ/จัดซื้อ (11.99%), งานวิศวกรรม (9.54%), งานทรัพยากรบุคคล (7.96%), และ งานขาย (7.86%)
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ JobThai ในมิติทักษะการทำงาน พบว่าองค์กรต่าง ๆ ต้องการแรงงานที่มีความรู้และสามารถใช้เครื่องมือ AI ได้จริงในหลากหลายสายอาชีพ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เริ่มเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานประจำวันอย่างเต็มรูปแบบ
คำค้นยอดนิยมในฝั่งนายจ้างปีนี้ ได้แก่ “TikTok Live” และ “ไลฟ์ขายของ” สะท้อนถึงความต้องการแรงงานด้านคอนเทนต์ไลฟ์สดและสตรีมเมอร์เชิงพาณิชย์ ซึ่งเติบโตตามธุรกิจออนไลน์ที่พึ่งพาการขายแบบเรียลไทม์ ขณะที่ฝั่งผู้สมัครงานกลับเน้นคำค้นอย่าง “หยุดเสาร์-อาทิตย์”, “นักศึกษาจบใหม่”, “ไม่มีประสบการณ์”, และ “ฝึกงาน” แสดงให้เห็นถึงความต้องการงานที่สมดุลระหว่างชีวิตและงาน รวมถึงช่องทางเริ่มต้นสำหรับแรงงานหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ JobThai จากกลุ่มคนทำงานกว่า 2,600 คน และองค์กรกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ยังพบว่าแรงงานไทยและองค์กรส่วนใหญ่ได้เริ่มปรับตัวเข้าสู่ยุค AI แล้ว โดย
ขณะเดียวกัน 64.89% ขององค์กร มองว่า AI เป็น “ผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพ” มากกว่า “ผู้แทนแรงงาน” โดยมีเพียงส่วนน้อยที่มองว่า AI จะเข้ามาแทนตำแหน่งงานซ้ำซากหรืองานที่ใช้ทักษะต่ำ ขณะที่ฝั่งคนทำงาน 74.29% มีทัศนคติเชิงบวกต่อ AI มองว่าเทคโนโลยีช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น และเปิดโอกาสให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม 69.71% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มองว่า AI ทำให้บางสายงานเสี่ยงต่อการถูกลดตำแหน่ง แต่ถือเป็นแรงผลักดันให้คนทำงานต้องเร่ง “Reskill” และพัฒนาทักษะใหม่อย่างต่อเนื่อง
นางสาวแสงเดือนสรุปว่า เทคโนโลยีจะยังคงเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการทำงานอย่างรวดเร็ว ทั้งในมิติของประสิทธิภาพและความท้าทาย ดังนั้นคนทำงานยุคใหม่จำเป็นต้องพัฒนา Soft Skills เช่น การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่กับ ทักษะดิจิทัล และการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ พร้อมเปิดรับแนวทาง Hybrid Work และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นางสาวแสงยังแนะนำให้ภาคธุรกิจเร่งปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของพนักงานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในเทคโนโลยี การส่งเสริมการใช้ AI เชิงลึก และการปรับระบบสวัสดิการให้เหมาะสม เพื่อรักษาและจูงใจบุคลากรที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรระยะยาวในยุคที่การแข่งขันแรงงานกำลังเปลี่ยนอย่างไม่หยุดยั้ง