Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
'เบสเซนต์' มองสหรัฐฯ-จีนต้องลดภาษีตอบโต้กันก่อนจึงจะเจรจากันได้
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

'เบสเซนต์' มองสหรัฐฯ-จีนต้องลดภาษีตอบโต้กันก่อนจึงจะเจรจากันได้

24 เม.ย. 68
10:33 น.
แชร์

สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธว่า สหรัฐฯ และจีนจำเป็นต้องลดอัตราภาษีศุลกากรที่อยู่ในระดับสูงลงมาก่อน เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาการค้าที่มีประสิทธิภาพ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มส่งสัญญาณพร้อมพิจารณาแนวทางลดความตึงเครียดจากสงครามการค้าแล้ว

เบสเซนต์เปิดเผยว่า อัตราภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนอยู่ที่ 145% และจีนเรียกเก็บจากสินค้าสหรัฐฯ ที่ 125% เป็นอัตราที่สูงเกินไป และทั้งสองประเทศต้องปรับลดอัตราภาษีนี้ลงมาก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าเจรจาทางการค้าได้ แต่ย้ำว่ารัฐบาลทรัมป์จะไม่ลดภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว

“ทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักว่าอัตราภาษีในระดับนี้เป็นอัตราที่ไม่ยั่งยืน อย่างที่ผมกล่าวไปเมื่อวาน นี่เทียบได้กับมาตรการคว่ำบาตร และการหยุดชะงักของการค้าระหว่างสองประเทศก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดเลย” เบสเซนต์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ความหวังต่อการผ่อนคลายข้อพิพาททางการค้าได้หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.67% ปิดที่ระดับ 5,375.86 แม้จะยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ราว 12%

นักลงทุนคาดการณ์จากท่าทีของทั้งเบสเซนต์และทรัมป์ที่เริ่มอ่อนลงว่าอาจนำไปสู่การลดกำแพงภาษี แม้ในขณะนี้ยังไม่ปรากฏสัญญาณว่าทั้งสองประเทศจะเข้าเจรจากันอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

ปัจจุบัน มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในระดับที่ “มีนัยสำคัญ” เพื่อเป็นแรงผลักดันให้การเจรจากับจีนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยรายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า อัตราภาษีอาจลดลงเหลือเพียง 50% แม้ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่าเป็น “การคาดเดาล้วนๆ” พร้อมเน้นว่าการประกาศเกี่ยวกับภาษีใดๆ จะต้องมาจากประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรงเท่านั้น นอกจากนี้ แม้อัตราภาษี 50% นั้นจะถือว่าลดลงมากจากอัตราปัจจุบัน แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถชะลอการค้าระหว่างสองประเทศได้

ในอีกด้านหนึ่ง ตามรายงานจากแหล่งข่าววงใน การเจรจาแยกต่างหากเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดเฟนทานิลก็ยังไม่มีความคืบหน้า สะท้อนว่าการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศอาจยังไม่เกิดขึ้นง่ายอย่างที่นักวิเคราะห์หลายๆ สำนักคิด

คาดไตรมาสที่ 3 รู้อัตราภาษีตอบโต้ที่แน่นอน

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้สหรัฐฯ น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับระดับภาษีขั้นสุดท้ายภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นอกเหนือจากการเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงกับสินค้าจีน ทรัมป์ยังได้กำหนดภาษีทั่วไป 10% สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภท และเพิ่มอัตราภาษีเฉพาะกลุ่ม เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ ขณะเดียวกันได้ชะลอการบังคับใช้ภาษีเฉพาะเจาะจงกับประเทศอื่นๆ จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม พร้อมเสนอแผนจัดเก็บภาษีใหม่กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดการเงินและเพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อวันพุธ รัฐบาลทรัมป์ประกาศผ่าน Federal Register ว่าจะเริ่มกระบวนการสอบสวนว่าสินค้านำเข้าในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางถึงใหญ่ รวมถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการพิจารณาใช้มาตรการภาษี

อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ก็มีแผนยกเว้นภาษีสำหรับบางกลุ่มในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดย Financial Times รายงานจากแหล่งข่าวสองรายว่า การยกเว้นนี้จะช่วยให้ชิ้นส่วนรถยนต์บางประเภทไม่ถูกเก็บภาษีจากทั้งมาตรการควบคุมเฟนทานิล และภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปซึ่งถูกสหรัฐฯ ขู่จะเก็บภาษี 20% กับสินค้าจากยุโรป ก็ออกมาระบุว่า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม อียูจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีเช่นกัน 

วาลดิส ดอมบรอฟสกิส รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอียู เปิดเผยว่า ยุโรปยินดีเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐฯ และอาจลดภาษีสินค้าบางรายการเพื่อแลกเปลี่ยน

ด้านประเทศอื่นๆ ก็เริ่มขยับตัวเช่นกัน โดยรัฐมนตรีพาณิชย์เวียดนามได้เข้าพบเจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการค้าภายใต้แรงกดดันจากนโยบายใหม่ของวอชิงตัน

ในสหรัฐฯ เอง มลรัฐ 12 แห่ง รวมถึงนิวยอร์ก อาริโซนา และอิลลินอยส์ ได้ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลการค้าระหว่างประเทศเมื่อวันพุธ โดยอ้างว่าการจัดเก็บภาษีตามอำนาจใน International Emergency Economic Powers Act นั้นขัดต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นการสมทบคดีฟ้องร้องของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ยื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า มาตรการภาษีเหล่านี้อาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มระดับหนี้ทั่วโลก ส่วนข้อมูลจาก S&P Global พบว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการยังคงเพิ่มสูงขึ้น

รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระบุว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมยังคงทรงตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่ทั่วประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าอย่างกว้างขวาง โดยบางพื้นที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง และเขตเศรษฐกิจหลายแห่งในจำนวน 12 เขตของ Fed แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ “ทรุดตัวลงอย่างชัดเจน”

นอกจากนี้ ผลสำรวจล่าสุดของ Reuters/Ipsos ยังระบุว่า คะแนนนิยมของทรัมป์ในด้านเศรษฐกิจลดลงเหลือเพียง 37% จากเดิม 42% เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม สะท้อนความกังวลของสาธารณชนต่อผลกระทบของนโยบายภาษีที่กำลังดำเนินอยู่


แชร์
'เบสเซนต์' มองสหรัฐฯ-จีนต้องลดภาษีตอบโต้กันก่อนจึงจะเจรจากันได้