สินทรัพย์ดิจิทัล

‘Vauld’ แบงก์คริปโทสิงคโปร์ส่อเจ๊ง ลูกค้าแห่ถอนเดือนเดียว 7 พันล้าน

5 ก.ค. 65
 ‘Vauld’ แบงก์คริปโทสิงคโปร์ส่อเจ๊ง ลูกค้าแห่ถอนเดือนเดียว 7 พันล้าน
ไฮไลท์ Highlight
“เรากำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินแม้เราจะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม อันเนื่องมากจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะตลาดที่ผันผวน ปัญหาทางการเงินจากคู่ค้าธุรกิจหลักของเราหลายเจ้า ที่ส่งผลต่อเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ และสภาพแวดล้อมตลาดในปัจจุบัน ที่ผลักดันให้ลูกค้าของเราถอนเงินไปแล้วกว่า 197.7 ล้านดอลลาร์ (7.06 พันล้านบาท)”

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ตลาดหมีคริปโทรอบนี้จะดีกว่าวัฏจักรรอบก่อนๆ เพราะมีเงินจากสถาบันหลั่งไหลเข้ามาในระบบมากมาย แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง สิ่งที่วิกฤตคริปโทเคอร์เรนซีรอบก่อนๆ ไม่มีก็คือ ความเสียหายจากสถาบันการเงิน ที่แต่ละรายโดนไปรายละหลัก ‘พัน ถึง หมื่นล้าน’ กลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ในวงการคริปโท ตั้งแต่ Terrafrom Labs, Three Arrows Capital (3AC), Celsius และว่าทีั่ระเบิดลูกล่าสุด ‘Vauld’ แพลตฟอร์มให้บริการสินเชื่อสกุลเงินดิจิทัลสัญชาติสิงคโปร์

 

banner-phone-new

 

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทขอระงับการทำธุรกรรมทั้งการถอน เทรด และฝากเงินบนแพลตฟอร์ม โดยจะมีผลทันทีนับตั้งแต่ประกาศ พร้อมกับการเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจด้วย

ในแถลงการณ์ดังกล่าว Darshan Bathija ซีอีโอของ Vauld เปิดเผยว่า



“เรากำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินแม้เราจะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม อันเนื่องมากจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะตลาดที่ผันผวน ปัญหาทางการเงินจากคู่ค้าธุรกิจหลักของเราหลายเจ้า ที่ส่งผลต่อเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ และสภาพแวดล้อมตลาดในปัจจุบัน ที่ผลักดันให้ลูกค้าของเราถอนเงินไปแล้วกว่า 197.7 ล้านดอลลาร์ (7.06 พันล้านบาท)”

 

 

 

Darshan Bathija Vauld CEO
 

นาย Bathija เผยถึงปัจจัยกดดันของสภาวะตลาดหมีในปัจจุบัน ที่ส่งผลให้ลูกค้าแห่มาถอนเงินจากแพลตฟอร์มกว่า 7 พันล้านบาท เกิดจากการล่มสลายของ ‘เหรียญ UST’ สเตเบิลคอยน์ของ Terraform Labs, การระงับการถอนเงินของ Celsius Network และการผิดนัดชำระหนี้ของ 3AC โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา 3AC ได้ยื่นล้มละลายต่อศาล Southern District รัฐนิวยอร์ก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

Vauld ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทกำลังหารือกับที่ปรึกษาด้านการเงินและด้านกฎหมาย เพื่อวิเคราะห์หาทุกทางออกที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงทางเลือกในการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท

 

istock-469759282(3)
 
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 18,700 - 21,500 ดอลลาร์/บิตคอยน์ โดยมีหลายจังหวะที่ร่วงหลุด 20,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์ จากปัจจัยกดดันจากทั้งสถาบันการเงิน และจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงทั่วโลก โดยราคาล่าสุดของบิตคอยน์ ณ 12.00 น. อยู่ที่ 20,253.82 ดอลลาร์/บิตคอยน์ ร่วงลงจากจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 แล้ว 70.64%



ด้านมาร์เก็ตแคปของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวต่ำกว่า 9.5 แสนล้านดอลลาร์ โดยในวันที่ 30 มิถุนายน มีบางจังหวะหลุด 8.5 แสนล้านดอลลาร์ด้วย ปัจจุบัน มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 9.1 แสนล้านดอลลาร์ (12.00 น. 5 ก.ค. 65)

 

ที่มา Vauld, Reuters

advertisement

SPOTLIGHT