ธุรกิจการตลาด

บริษัทเทคฯ 200 บริษัทปีนี้ เลย์ออฟพนักงานลดต้นทุนแล้วกว่า 5 หมื่นคน แต่งาน AI ยังรุ่ง

18 มี.ค. 67
บริษัทเทคฯ 200 บริษัทปีนี้ เลย์ออฟพนักงานลดต้นทุนแล้วกว่า 5 หมื่นคน แต่งาน AI ยังรุ่ง

บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีพบว่า ปลดพนักงานไปแล้วกว่า 50,000 คน จาก 200 บริษัท แต่งานด้านที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังรุ่ง มีการจ้างงานเพิ่ม และเพิ่มค่าตอบแทนเพื่อดึงดูดแรงงานทักษะสูง

ตลาดแรงงานในภาคเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และทั่วโลก เคยเป็นงานที่หลายๆ คนมองว่า มั่นคง และให้ค่าตอบแทนสูง และมีความเสี่ยงตกงานต่ำ แต่ในปัจจุบัน กลับกลายเป็นว่า บุคลากรในวงการเทคฯ ไม่สามารถคาดหวังอนาคตสวยหรูแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้ว หลังจากตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ต่างทยอยปลดคนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับโครงสร้างและลดต้นทุน จนเรียกได้ว่าเป็นการเลย์ออฟคนงานในภาคเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุดนับ ตั้งแต่เกิดวิกฤตดอทคอมในปี 2001

โดยข้อมูลของเว็บไซต์ layoffs.fyi ซึ่งติดตามการเลย์ออฟพนักงานเทคฯ ทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี 2024 บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ จำนวนถึง 200 บริษัท รวมถึง Alphabet, Amazon, Meta และ Microsoft ปลดพนักงานรวมไปแล้วกว่า 50,000 คน หลังจากในปี 2023 มีการเลย์ออฟรวมไปแล้วถึง 260,000 คน

ล่าสุด ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า บริษัทเทคในสหรัฐฯ มีการเลย์ออฟพนักงานเป็นจำนวนสูงที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2009 ที่หลายๆ บริษัทต้องเลิกจ้างพนักงานกะทันหันเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในปี 2008 

ทั้งนี้ การเลย์ออฟพนักงานในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะบริษัทเหล่านี้ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจจนไม่สามารถจ้างพนักงานต่อไปได้อย่างในหลายครั้งที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะบริษัทเหล่านี้ต้องการลดต้นทุนในธุรกิจที่มองว่าไม่จำเป็น แล้วโยกเงินทุนเหล่านี้ไปลงทุนกับธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตมากกว่า เช่น ธุรกิจพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

การปลดพนักงานครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ทำให้หลายๆ คนต้องพยายามอัพสกิลหรือรีสกิลตัวเองให้เท่าทันความต้องการของตลาดที่ในตอนนี้เน้นไปที่ machine learning และการพัฒนา AI หรือต้องยอมรับงานที่เงินเดือนน้อยกว่า หรือเนื้องานหนักกว่างานก่อนหน้าเพื่อให้ตัวเองได้งานทำในสายการทำงานเดิม

เลย์ออฟตัดทุนส่วนอื่นมาลงกับ AI นักลงทุนมองบวกดันราคาหุ้นขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า สาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีเลย์ออฟคนเป็นจำนวนมากในขณะนี้เพราะทุกบริษัทต่างมุ่งพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการซื้อชิประดับสูง เพื่อเทรน AI รวมถึง การแย่งบุคลากรที่มีทักษะในด้านนี้ ที่กลายเป็นแรงงานเนื้อหอมผิดกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมที่ต้องถูกปลดจากงานเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แทนที่การเลย์ออฟคนจำนวนมากจะทำให้ราคาหุ้นตกลงเพราะมันอาจสะท้อนการบริษัทจัดการคนและการจ้างงานที่ไม่มีประสิทธิภาพของบริษัท ราคาหุ้นของหลายบริษัทกลับเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนมองว่า การเลย์ออฟเพื่อโยกเงินทุนไปที่ AI เป็นการปรับเปลี่ยนที่ชาญฉลาด ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต 

เห็นได้จาก โดยราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ อย่าง Amazon และ Microsoft นั้นขึ้นมาแล้ว 16.33% และ 12.28% จากต้นปีตามลำดับ

นอกจากนี้ ข้อมูลของเว็บไซต์ Comprehensive.io แพลตฟอร์มโซลูชั่นเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทน ยังระบุอีกว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2023 ที่ผ่านมา รายได้ของวิศวกรพัฒนา AI ยังเพิ่มขึ้นถึง 12% และโดยเฉลี่ยแล้ววิศวกรพัฒนา AI ระดับสูงในสหรัฐจะได้รับค่าตอบแทนสูงถึงมากกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 6,837,815 บาท ซึ่งสวนทางการงานอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มได้รายได้ลดลง

ดังนั้น ตลาดงานเทคโนโลยีในตอนนี้จึงถือได้ว่าเป็นยุคทองของผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนา AI และเป็นโอกาสเหมาะของผู้ที่กำลังมองหาสายงานใหม่ที่จะสามารถไปศึกษาเรียนรู้ทักษะในสายงาน และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสายงานที่กำลังเติบโตนี้ได้




ที่มา: CNBC

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT