แหล่งข่าววงในเผย การบินไทย สายการบินแห่งชาติไทย ตัดสินใจครั้งสำคัญ สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 เพิ่มเติม 45 ลำ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจต่ออนาคตของอุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
การบินไทยทุ่มซื้อโบอิ้ง 787 เพิ่ม 45 ลำ เดิมพันอนาคต เตรียมพร้อมรับดีมานด์ท่องเที่ยวพุ่ง
จากรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์ ระบุว่า บมจ.การบินไทย (THAI) ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 เพิ่มเติม 45 ลำ พร้อมเงื่อนไขขยายออเดอร์เป็น 80 ลำ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางระหว่างประเทศที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ข้อตกลงครั้งนี้ มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยปรากฏในบันทึกคำสั่งซื้อของโบอิ้ง ระบุจำนวนเครื่องบิน 45 ลำ โดยไม่เปิดเผยชื่อลูกค้า
ด้านโบอิ้งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับทางการบินไทยโดยตรง ซึ่งยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ การขยายฝูงบินครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของการบินไทยต่ออนาคตของอุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
โบอิ้ง 787 นวัตกรรมล้ำสมัย สู่ประสบการณ์การบินเหนือระดับ
เครื่องบินโบอิ้ง 787 (ดรีมไลเนอร์) เปรียบเสมือนดาวเด่นแห่งท้องฟ้า ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานความประหยัดน้ำมัน ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกัน หัวใจสำคัญ ของ เครื่องบินโบอิ้ง 787 คือการใช้วัสดุผสม (composite materials) เป็นตัวถังหลักของโครงสร้างเครื่องบิน ส่งผลให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา กว่าเครื่องบินรุ่นอื่นที่มีขนาดเท่ากันอย่างชัดเจน ประหยัดน้ำมัน มากที่สุดในบรรดาเครื่องบินพาณิชย์ทั่วโลก ลดมลพิษ ทางอากาศ และ เพิ่มประสิทธิภาพการบิน
- การออกแบบที่ล้ำสมัย ของ โบอิ้ง 787 จะ มอบประสบการณ์การบินที่เหนือระดับ หน้าต่างบานใหญ่ ช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสทิวทัศน์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ระบบปรับอากาศ รักษาความชื้นและแรงดันอากาศภายในห้องโดยสารให้อยู่ในระดับที่สบาย ไฟส่องสว่าง LED ปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามต้องการ ระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน ครบครันเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เริ่มบินทดสอบครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2552 และส่งมอบลำแรกให้กับสายการบิน ANA ในเดือนตุลาคม 2554 ส่วนการบินไทย ได้รับมอบลำแรกในเดือนกรกฎาคม 2557
- รองรับผู้โดยสารได้ลำละ 210 ถึง 290 คน ขึ้นอยู่กับรุ่น โบอิงแถลงว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุดของบริษัท และเป็นเครื่องบินโดยสารสำคัญแบบแรกของโลกที่ใช้วัสดุผสมในการก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ โบอิง 787 ใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าโบอิง 767 ที่มีขนาดเท่ากันถึง 20% เมื่อเทียบกับเครื่องบินขนาดเดียวกัน ลักษณะที่แตกต่างที่สุดมีทั้งที่กันลมสี่แผง เชฟรอนลดเสียงบนส่วนแยกเครื่องยนต์ (engine nacelle) และเส้นระดับเสียง (nose contour) ที่เรียบขึ้น
- เงียบกว่าทุกรุ่น เพราะเครื่องยนต์ของ 787 ก็คือเรื่องของ เสียงรบกวน ที่มีการใช้ Chevrons บริเวณปลายด้านหลังของเครื่องยนต์ทั้งสองข้าง ที่เป็นลอนซิกแซก คล้ายฟันปลา เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ และตัวโครงสร้างของเครื่องบินเองก็มีการเก็บเสียงที่ดีกว่าเครื่องบินรุ่นก่อนหน้าด้วย ปัจจุบันมี โบอิ้ง 787 กว่า 400 ลำ บินทำการอยู่ทั่วโลก ได้รับความนิยมจากทั้งสายการบินและผู้โดยสาร
สรุปโบอิ้ง 787 เป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดน้ำมัน และได้รับความนิยมจากสายการบินทั่วโลก เหมาะสำหรับการบินระยะไกล ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ของการบินไทยที่ต้องการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ การลงทุนครั้งนี้ แม้จะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล แต่ถือเป็นการวางเดิมพันอนาคตของการบินไทย หวังผลักดันให้สายการบินแห่งชาติไทยกลับมายิ่งใหญ่บนเวทีโลกอีกครั้ง
ที่มา รอยเตอร์