ธุรกิจการตลาด

การบินไทย กำไร Q2 8,576 ล้านบาท ดีสุดในรอบ 20 ปี คาดเริ่มจ่ายหนี้คืนได้ปีหน้า

11 ส.ค. 66
การบินไทย กำไร Q2 8,576 ล้านบาท ดีสุดในรอบ 20 ปี คาดเริ่มจ่ายหนี้คืนได้ปีหน้า

การบินไทยโชว์กำไรจากการดำเนินงาน 8,576 ล้านบาท รายได้รวม 37,381 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 20 ปีสำหรับไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น สะท้อนถึงความสามารถในการจัดการ และจะส่งผลถึงศักยภาพในการทำกำไรในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ด้วย และคาดการณ์ปีหน้าจะมีกระแสเงินสดพอเริ่มจ่ายเงินคืนเจ้าหนี้ได้

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2566 บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย พบมีผลการดำเนินงานดีขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากการฟื้นตัวด้านดีมานด์ในภาคการท่องเที่ยว และการเพิ่มเที่ยวความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่เป็นที่นิยม อาทิ ประเทศญี่ปุ่นและจีน จนมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.35 ล้านคน และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ย 60.3% 

โดยจากรายงาน ผลการดำเนินงานของการบินไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 เป็นดังนี้

  •  ‘รายได้รวม’ (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 37,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 21,526 แต่ลดลง 9.9% จากไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งเป็นไปตามปกติของธุรกิจที่ไตรมาส 2 จะเป็นช่วงที่มีผู้โดยสารเดินทางต่ำที่สุดในช่วงปี 
  • กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน’ (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 8,576 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ขาดทุน 1,299 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ของปี 2566 นี้เป็นไตรมาส 2 ที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบ 20 ปี 
  • ค่าใช้จ่ายรวม’ (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 28,805 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีค่าใช้จ่าย 22,825 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น
  • ต้นทุนทางการเงิน’ จำนวน 3,967 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ส่วนใหญ่มาจาก ‘การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ’ เป็นค่าใช้จ่ายรวม 2,643 ล้านบาท 
  • กำไรสุทธิ 2,273 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อน ขาดทุน 3,213 ล้านบาท เป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,262 ล้านบาท โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 9,307 ล้านบาท 

messageimage_1691675004916

นอกจากนี้ จากผลประกอบการที่เป็นบวก บริษัทฯ จึงมีเงินสดคงเหลือเพิ่มขึ้นเป็น 51,153 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 16,613 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ทำให้การบินไทยน่าจะมีศักยภาพในการจ่ายหนี้ให้กับเจ้าหนี้ในปีหน้าเป็นต้นไป

ในปัจจุบัน บริษัทและบริษัทย่อยมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 67 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินลำตัวแคบ 20 ลำ และเครื่องบินลำตัวกว้าง 47 ลำ โดยบริษัทเพิ่งรับเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่น Airbus A350 จากการเช่าดำเนินการเข้ามาในฝูงบินในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาจำนวน 2 ลำ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 และคาดว่าจะมี A350 อีก 9 ลำ และ Airbus 321 จำนวน 12 เข้ามาเสริมฝูงบินในปี 2567

 

นักท่องเที่ยวส่วนมากจากยุโรป คาดการเมืองไม่กระทบ

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย (CEO) เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสนี้ส่วนมากได้มาจากเที่ยวบินยาวไปประเทศแถบยุโรปและออสเตรเลีย คิดเป็น 37% และเที่ยวบินไปแถบเอเชียตะวันออก หรือที่การบินไทยเรียกว่าเอเชียเหนือ (North Asia) คือ เกาหลี ญี่ปุ่น คิดเป็น 33% แต่ดีมานด์จากญี่ปุ่นยังน้อยอยู่ ทำให้ต้องมีการร่วมมือกับสถานทูตไทยในญี่ปุ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว

s__537804812

ทั้งนี้ การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งอดีตเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญยังดูไม่สดใส เพราะเศรษฐกิจของจีนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามคาด ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ออกมาใช้เงินอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีไฟลท์ไปปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา วันละ 1 ไฟลท์ แต่ยังไม่มีแผนเพิ่มเป็น 2 ไฟลท์ หรือ 3 ไฟลท์ ต้องรอดูแนวโน้มการฟื้นตัวก่อน 

โดยในไตรมาสที่ 3 ที่ยังถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน การบินไทยมีแผนจะโปรโมตเที่ยวบิน สำหรับนักท่องเที่ยวไทยไปประเทศยอดนิยมต่างๆ เช่น เส้นทางไปเกาหลี ญี่ปุ่น และจะมีการเปิดขายบัตรล่วงหน้าให้กับเส้นทางยุโรป และออสเตรเลีย และคาดว่า เมื่อได้รับส่งมอบเครื่องบินจาก Thai Smile มาแล้วการเชื่อมต่อเส้นทางไปอินโดไชน่า หรืออาเซียนจะดีขึ้นมาก 

นอกจากนี้ นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ของการบินไทย ยังกล่าวเสริมอีกว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มั่นคงในขณะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบมากต่อการดำเนินงาน เพราะยอดจองไฟลท์สำหรับปลายปียังเข้ามาดีอยู่ และนักท่องเที่ยวส่วนมากจะลงเครื่องที่กรุงเทพฯ แล้วต่อเครื่องไปเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ทันที ทำให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ส่วนมากจะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่น่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

 

แผนรวมไทยสไมล์คืบหน้า มุ่งเปิดเส้นทางอาเซียนเพิ่มหลังโอนเครื่องบินครบ

สำหรับแผนนำสายการบินไทยสมายล์กลับเข้ามารวมกับบริษัท นายชาย ระบุว่า ได้มีการส่งมอบเครื่องบินมาให้ 4 ลำแล้ว ส่วนอีก 16 ลำน่าจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็วๆ นี้ พร้อมกับมีการรับพนักงานจำนวนประมาณ 800 คนจากไทยสไมล์เข้ามาเป็นพนักงานของการบินไทย ทำให้ปัจจุบันการบินไทยมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 15,000 คน และถ้ามีการขยายฝูงบินน่าจะเพิ่มเป็น 17,000 คน

นอกจากนี้ ภายหลังจากได้เครื่องบินมาแล้ว การบินไทยมีแผนเปิดเส้นทางไปประเทศอาเซียน CLMV และอินโดไชน่ามากยิ่งขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ และจะมีการเปิดเส้นทางกลางคืนไปอินเดีย หรือจีนตอนใต้ ความยาวไฟลท์ในระยะ 3 ชั่วโมงบิน เพื่อขยายเส้นทาง และใช้เครื่องบินที่มีให้มีประสิทธิผลสูงสุด

s__76480516










advertisement

SPOTLIGHT