Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดมุมมอง "นางงามไลฟ์ขายของ" เมื่อ MUT 2025 เปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เปิดมุมมอง "นางงามไลฟ์ขายของ" เมื่อ MUT 2025 เปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์

4 ก.ย. 68
17:08 น.
แชร์

เมื่อผู้ถือลิขสิทธิ์ของเวทีนางงาม Miss Universe Thailand เปลี่ยนมือเป็นของ “บอสณวัฒน์” หรือ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวทีประกวดสาวงาม “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” วัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างจึงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าปีนี้ผู้ชมยังได้สนุกสนาน ลุ้นตามไปกับการเดินแบบของนางงามบนเวที ไปจนถึงการโชว์ชุดประจำชาติ และแข่งตอบคำถามโชว์วิสัยทัศน์ แต่ความพิเศษในปีนี้ แฟนนางงามยังได้ลุ้นไปกับ “ภารกิจไลฟ์ขายของ” ที่มียอดขายหลักล้านให้ผู้ประกวดต้องพิชิตให้สำเร็จ

ภารกิจนี้เป็นไปตามการประกาศของผู้จัดฯ ตั้งแต่แรก เมื่อกองประกวดต้องการเฟ้นหานางงามตามมาตรฐานใหม่ ภายใต้ธีม The New Era of MUT ที่คาดหวังให้นางงามต้องมีคุณสมบัติ 3B ไม่ใช่แค่ Beauty และ Brain ที่หมายถึงความงดงามและความฉลาด แต่ยังต้องเพิ่ม B จาก Business หรือ ต้องมี “หัวธุรกิจ” เป็นพาร์ทสำคัญด้วย 

ในที่สุด Miss Universe ประจำปีนี้ ก็มอบตำแหน่ง 5 อันดับนางงามสมใจ ทั้งสวย ฉลาด และขายของเก่ง ซึ่งตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2025 ตกเป็นของ “วีนา ปวีนา ซิงห์” สาวไทยเชื้อสายอินเดีย ที่ทำผลงานในการแข่งขันรอบ Best Seller ได้อย่างโดดเด่น ชนะแคมเปญไลฟ์ขายของบนเวทีนานกว่า 3 ชั่วโมง ผ่านช่องทาง Tiktok ทำยอดขายทะลุเป้า 3,500,000 บาท และคว้าตำแหน่ง Queen of Bestseller เป็นใบเบิกทางสู่ตำแหน่งผู้ชนะเลิศสูงสุดในเวทีการแข่งขัน

เป็นนางงาม ไม่ใช่ว่าขายของไม่ได้!

บรรยากาศที่แปลกใหม่และเปลี่ยนไปบนเวทีนางงามเช่นนี้ ชวนให้หลายคนตั้งคำถามว่า การเพิ่มมูลค่าจากการขายสินค้าบนเวที จะลดคุณค่าของนางงาม ที่ถูกคาดหวังให้ผลักดันประเด็นสังคมหรือไม่ ซึ่งทีมข่าว Spotlight ชวนผู้ชนะและรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ประจำปีนี้ มาเปิดมุมมองว่า พวกเธอคิดเห็นกับประเด็นนี้อย่างไร ในฐานะผู้ที่ผ่านภารกิจไลฟ์ขายของในแต่ละรอบมาได้

วีนา ปวีนา ซิงห์ เจ้าของมงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 เล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่กับบ้านที่ค้าขายกันมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้สึกว่าเป็นการประกอบสัมมาอาชีพที่ทำให้มีรายได้ ทำให้ตนรู้สึกว่า เป็นนางงาม ไม่ใช่ว่าขายของไม่ได้ เห็นด้วยกับแนวคิดของกองประกวดที่ว่า นางงามนอกจากจะสวยจากภายในสู่ภายนอกแล้ว สวยทั้งความคิดและร่างกายแล้ว ที่สำคัญคือต้องมีอาชีพแบบยั่งยืนและดูแลตัวเองได้

เธอยังแชร์มุมมองเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อนางงามประกวดจบและได้รางวัล อาจจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ 1 ปีเต็ม แต่หลังจากนั้น ก็ควรหาช่องทางต่อยอดให้ตัวเองด้วย บางคนอาจทำงานในวงการบันเทิงต่อไป พัฒนาตัวเองในแง่ของการขายความบันเทิง ซึ่งการค้าขายหรือทำธุรกิจก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ มีอาชีพอยู่ต่อไปได้ และทำให้คนรอบตัวมีความเจริญก้าวหน้าทางธุรกิจตามไปด้วย

เชื่อไลฟ์ขายของ หนุนพลังหญิง เพิ่มทางเลือก

เช่นเดียวกับ "แพรว แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง" รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ที่มองว่า  “การขายของกับการผลักดันสังคม” ยืนอยู่คู่กันได้ในบทบาทของนางงาม และยิ่งไปกว่านั้นอาจจะสนับสนุนให้การผลักดันสังคมในโครงการต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีพลังมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า หลาย ๆ โครงการช่วยเหลือสังคมต้องการเงินทุนในการขับเคลื่อน และเป็นผลดีต่อสังคมเองหากนางงามมี Business Mind ที่จะทำให้โครงการเหล่านี้เดินหน้าไปได้อย่างแข็งแรง

แพรววณิชยฐ์ยังเปิดเผยว่า ภารกิจไลฟ์ขายของจากทางกองประกวด ยังสามารถนำมาประยุกต์กับแคมเปญเพื่อสังคมที่เธอสนใจด้วย นั่นก็คือ Freedom of Choices เพราะหวังอยากให้ผู้หญิงมีทางเลือกในชีวิต หากแฟนนางงามลุกขึ้นมาติดตะกร้าไปกับเธอ หรือได้แรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นมาค้าขาย-ทำธุรกิจ  การไลฟ์ขายของของนางงาม จึงเป็นทั้งตัวอย่างและช่องทางที่จะทำให้ผู้หญิงมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่น มีอาชีพที่เลี้ยงดูตัวเองได้ ในที่สุดก็จะเป็นหนทางให้หลุดพ้นจากปัญหาในชีวิตที่พวกเธออาจเผชิญอยู่ 

เมื่อการไลฟ์ สร้างแรงใจได้มากกว่าที่คิด

แพรววณิชยฐ์ยังแชร์ประสบการณ์การไลฟ์ขายของระหว่างการประกวด ที่เธอบอกว่า ทั้งตัวเธอเองและแฟนนางงามหลายหมื่นคนที่มาชมไลฟ์ “ได้อะไรมากกว่าที่คิด” ในฝั่งของเธอเองที่ได้พูดคุย หยอกล้อกับแฟนคลับก็รู้สึกว่าได้สนิทสนม สร้างสัมพันธ์กับแฟนนางงามได้อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองมากขึ้น เพราะการขึ้นไลฟ์แต่ละครั้งก็กินเวลาหลายชั่วโมง และยังสามารถโต้ตอบกันได้รวดเร็ว ต่างจากแต่ก่อนที่แฟนคลับต้องมารอเจอหน้าในงานและอาจไม่ได้มีจังหวะคุยกันได้เยอะขนาดนี้

นอกจากนี้ เธอยังได้พัฒนาตัวเอง โดยเพิ่มทักษะในการพูด การขายของ ได้ฝึกการสื่อสารที่มีลูกล่อลูกชน และก้าวเท้าเข้ามาในวงการธุรกิจมากขึ้น ขณะที่แฟนนางงามเองได้ก็ผ่อนคลาย และมีครั้งหนึ่งที่แฟนคลับได้สื่อสารกับเธอผ่านไลฟ์ ก่อนที่จะกลับมาขอบคุณเธอที่เธอพูดให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อ อยากลุกขึ้นมาแก้ปัญหาชีวิต และพึ่งพาตัวเองให้ได้

เธอปิดท้ายข้อคิดที่ได้ตกผลึกอย่างน่าสน โดยกล่าวว่า “ปีนี้กองประกวดอาจจะเพิ่ม B -  Business เข้ามา แต่ไม่ว่าเวทีจะเพิ่มอีกกี่ B สุดท้ายแล้วนางงามยังมีคุณค่าหลักอยู่ที่การช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว เป็นความท้าทายที่ว่านางงามยุคใหม่จะปรับตัวเอาโจทย์ใหม่ ๆ มาทำงานควบคู่กับสิ่งที่ตัวเองต้องการผลักดันสังคมในประเด็นที่ตัวเองสนใจได้อย่างไรบ้าง”


แชร์
เปิดมุมมอง "นางงามไลฟ์ขายของ" เมื่อ MUT 2025 เปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์