ศึกสุกี้กำลังเดือด! เมื่อสองยักษ์ใหญ่ในสมรภูมิร้านอาหารไทย “MK” และ “สุกี้ตี๋น้อย” งัดกลยุทธ์โปรโมชันบุฟเฟ่ต์ราคาพิเศษมาเรียกลูกค้าท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
วันที่ 9 มิถุนายน 2568 MK Restaurants เปิดศึกก่อนด้วยแคมเปญ “MK คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น” บุฟเฟ่ต์หม้อสุกี้ในราคา 299 บาทสุทธิ/ท่าน ครอบคลุมเมนูคุณภาพทั้งเนื้อบริสเก็ตออสเตรเลีย หมูสไลซ์ สาหร่ายทรงเครื่อง ฯลฯ พร้อมโปรโมชันพิเศษ “มา 4 คน กินกุ้งแม่น้ำฟรีไม่อั้น” เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ เช่น โลตัส และบิ๊กซี ทั่วประเทศช่วงเวลาตั้งแต่ วันที่ 9-30 มิถุนายน 2568 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) ถือเป็นครั้งสำคัญที่ MK หันมาเล่นเกม “ราคา” อย่างชัดเจน
วันถัดมา “สุกี้ตี๋น้อย” คู่แข่งสำคัญสวนกลับแบบไม่เกรงใจ ด้วยโปรโมชันบุฟเฟ่ต์ราคาเพียง 199 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มและ VAT) ฉลองครบ 1 ล้านผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊ก ระหว่างวันที่ 11 – 30 มิถุนายน 2568 พร้อมลดราคาสำหรับเด็กจาก 109 เหลือ 89 บาท
เรียกได้ว่าเป็นการเปิดหม้อสู้แบบ “ไม่กลัวขาดทุน” ขอแค่ดึงลูกค้าให้มารับประทานที่ร้านก่อนเป็นพอ
ถ้าวัดกันด้วย “ตัวเลข” ต้องยอมรับว่า สุกี้ตี๋น้อยกำลังมาแรงสุด ๆ
รายได้โตขึ้นแบบก้าวกระโดดจากเพียง 1,223 ล้านบาท ในปี 2563 เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าในเวลาแค่ 4 ปี! โดยปัจจุบันตี๋น้อยมี 84 สาขา ทั่วประเทศ และยังเดินหน้าขยายอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ MK ซึ่งมีฐานธุรกิจมั่นคงและสาขากว่า 441 สาขา ทั่วประเทศ กลับเริ่มเห็นสัญญาณ “ชะลอลง ”:
ในผลประกอบการของบริษัท พบว่า สุกี้ MK กำลังถูกแรงกดดันทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะจากแบรนด์น้องใหม่อย่างตี๋น้อย ที่กำลังขึ้นมาท้าทายเจ้าตลาดแบบไม่เกรงใจ
MK อาจยังได้เปรียบเรื่องจำนวนสาขาและภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง แต่สุกี้ตี๋น้อยได้ใจลูกค้าสายบุฟเฟ่ต์ด้วยราคาที่ถูกกว่าเกือบ 100 บาท สงครามหม้อเดือดยังไม่จบง่าย ๆ และสุดท้ายอาจขึ้นอยู่กับ “รสชาติ - บริการ - ความคุ้มค่า” ที่จะชี้ชะตาว่า ลูกค้าจะเลือกเทใจให้ใครในระยะยาว
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย , กรมพัฒนาธุรกิจการค้า , FB Mk และ สุกี้ตี๋น้อย