
ผ่านมากว่า 5 วันแล้วกับสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนในหลายพื้นที่ ทั้งการติดค้างภายในที่พักอาศัย การขาดแคลนปัจจัยจำเป็น อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม และกระแสไฟฟ้า โดยเบื้องต้นมีการประเมินว่ามีครัวเรือนได้รับผลกระทบมากกว่า 800,000 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ความเสียหายกว่า 400,000 ไร่ ใน 9 จังหวัด และคาดว่าอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวิกฤตแบบนี้ เรายังได้เห็นความน่ารักของ “น้ำใจของคนไทย” ที่ทุกภาคส่วนต่างยื่นเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน หรือแม้แต่จากประชาชนด้วยกันเอง
เช่นเดียวกันกับ 2 แบรนด์ดัง อย่าง เต่าบิน ที่เปิดให้กดเครื่องดื่มจากตู้เต่าบินทุกเมนูฟรีแบบไม่จำกัดจำนวนใน 5 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และสุกี้ตี๋น้อย ที่ที่ประกาศนำรายได้จาก 10 สาขา มอบให้มูลนิธิกระจกเงา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ พร้อมจัดขบวนรถครัวกลางลงพื้นที่แจกอาหารให้กับประชาชน
โดยในบทความนี้ ทีม SPOTLIGHT ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ทั้งทีมงานของสุกี้ตี๋น้อยและเต่าบินผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อสะท้อนมุมมอง แนวคิด และบทบาทของภาคเอกชนในยามวิกฤตครั้งนี้
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 68 เต่าบินได้ออกมาแจกโค้ดรับเครื่องดื่มฟรีทุกเมนูไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จ. สงขลาและอำเภอหาดใหญ่ (เฉพาะตู้ที่ใช้งานได้) โดยประชาชนสามารถกดรับเครื่องดื่มได้จนกว่าวัตถุดิบจะหมด หรือจนกว่าตู้จะไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของการประกาศมาตรการ คาดว่ามีตู้เต่าบินที่ยังพร้อมใช้งานในพื้นที่ราว 50 ตู้
ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เต่าบินได้ประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเปิดให้ประชาชนสามารถกดรับเครื่องดื่มฟรีทุกเมนูแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครอบคลุมอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง สตูล ปัตตานี และยะลา
สำหรับพื้นที่ที่ขยายเพิ่มเติมนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีตู้เต่าบินที่ยังสามารถใช้งานได้ประมาณ 40 ตู้ จากจำนวนตู้ทั้งหมด 48 ตู้ในพื้นที่ดังกล่าว
จากการพูดคุยกับทีมงานเต่าบิน ทีม SPOTLIGHT ได้รับข้อมูลว่า นับตั้งแต่ประกาศเปิดให้บริการเครื่องดื่มฟรีในพื้นที่จ. สงขลาและอำเภอหาดใหญ่ ผ่านตู้เต่าบินราว 50 ตู้ มีประชาชนเข้ามาใช้บริการแล้วมากกว่าพันคน
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามข้อมูลผ่านระบบล่าสุด พบว่าขณะนี้มีตู้ที่ยังสามารถให้บริการได้เหลืออยู่ประมาณ 20 ตู้เท่านั้น โดยยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมหรือปัญหาด้านเทคนิคและวัตถุดิบ นอกจากนี้ บริษัทยังไม่สามารถส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขหน้างานได้ในขณะนี้ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากในพื้นที่เป็นผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ในกรณีตู้เต่าบินบางจุดที่สินค้าหมด ทีมงานยังไม่สามารถเข้าไปเติมวัตถุดิบได้ เนื่องจากปัญหาในเรื่องเส้นทางการสัญจร ขณะที่คลังสินค้าหลักของเต่าบินในภาคใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในจ. สงขลาและอำเภอหาดใหญ่ ก็ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทีมงานเต่าบินย้ำว่า ในบางตู้ที่สินค้าหมด ผู้ประสบภัยยังสามารถเข้าไปกดน้ำเปล่าได้ โดยสามารถมั่นใจได้เลยว่าน้ำในตู้ของเต่าบินสะอาดถูกสุขอนามัย เพราะในช่วงเวลาวิกฤตน้ำสะอาดเป็นทรัพยากรที่หาได้ยาก
ล่าสุดในวันนี้ เต่าบินได้ประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เปิดให้บริการกดเครื่องดื่มฟรีทุกเมนูแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครอบคลุมอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง สตูล ปัตตานี และยะลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ในขอบเขตที่บริษัทสามารถดำเนินการได้
จากการสอบถามข้อมูลล่าสุด ระบุว่า ปัจจุบันเต่าบินมีตู้ให้บริการในพื้นที่ภาคใต้มากกว่า 400 ตู้ โดยขณะนี้ยังสามารถเปิดให้บริการได้มากกว่า 50% ของจำนวนทั้งหมด เนื่องจากตู้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในจ. ภูเก็ต จำนวน 88 ตู้ ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 “สุกี้ตี๋น้อย” ได้ประกาศเชิญชวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการใน 10 สาขา ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึง 05.00 น. ของวันถัดไป โดยนำรายได้จากยอดขายทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้แก่มูลนิธิกระจกเงา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ก่อนที่จะเปิดเผยยอดเงินจากการระดมทุนดังกล่าว พบว่าสามารถรวบรวมเงินช่วยเหลือได้รวมทั้งสิ้น 1,779,597 บาท ซึ่งจะนำไปสนับสนุนภารกิจบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 สุกี้ตี๋น้อยได้ประกาศจัดขบวนรถครัวกลาง สัญจรตี๋น้อย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครั้งที่ 1 โดยออกเดินทางจากครัวกลางสุกี้ตี๋น้อย จ. ปทุมธานี มุ่งหน้าสู่ วัดคลองเรียน ถนนศรีภูวนารถ อำเภอหาดใหญ่ จ. สงขลา ในเวลา 23.00 น. โดยขนทัพเชฟและทีมงานกว่า 48 คน พร้อมขนส่งวัตถุดิบอาหาร อาทิ เนื้อสัตว์ ข้าวสาร น้ำดื่ม รวมถึงรถห้องเย็น รถเสบียง และรถตู้ เพื่อรองรับภารกิจปรุงอาหารและแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่
จากการพูดคุยกับทีมงานสุกี้ตี๋น้อย ทีม SPOTLIGHT ได้รับข้อมูลว่า บริษัทได้เปิดให้ลูกค้าอุดหนุนทั้ง 10 สาขา เพื่อนำรายได้จากยอดขายทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้มูลนิธิกระจกเงา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งล่าสุดสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1.7 ล้านบาท
หลังจากนั้น สุกี้ตี๋น้อยได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยยุติการให้บริการ “ข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข” ชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนภารกิจไปเปิด “ครัวกลางสัญจร” ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ สำหรับประกอบอาหารแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ขบวนรถครัวกลางได้ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา และคาดว่าจะถึงพื้นที่ในช่วงเวลาประมาณ 16.00-18.00 น. โดยกำหนดใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บริเวณคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นจุดหลักในการจัดเตรียมอาหาร
ขณะเดียวกัน เมื่อสอบถามถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ สุกี้ตี๋น้อยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากยังไม่มีสาขาเปิดให้บริการในจ. สงขลาและอำเภอหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายสาขาเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวในอนาคตอย่างแน่นอน