Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กองทุนชาติอินโดฯ จ่อซื้อหุ้นดีล Grab-GoTo เอื้อควบรวมยูนิคอร์นอาเซียน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

กองทุนชาติอินโดฯ จ่อซื้อหุ้นดีล Grab-GoTo เอื้อควบรวมยูนิคอร์นอาเซียน

6 มิ.ย. 68
13:48 น.
แชร์

กองทุน Danantara ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของอินโดนีเซีย กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นเพื่อเข้าลงทุนในสัดส่วนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในกิจการใหม่ที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง Grab Holdings Ltd. และ GoTo Group ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจา การมีบทบาทของ Danantara อาจช่วยบรรเทาความกังวลของรัฐบาลอินโดนีเซียเกี่ยวกับการที่หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับชาติอาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ Grab ซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์

แม้ทั้ง Grab และ GoTo จะสามารถบรรลุความคืบหน้าในด้านโครงสร้างของดีลได้ในระดับหนึ่ง แต่แหล่งข่าวระบุว่าการหารือเริ่มชะลอตัวลงจากความกังวลด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะข้อพิจารณาทางการแข่งขันทางการค้า ซึ่งสำนักงานต่อต้านการผูกขาดของอินโดนีเซียได้ประกาศในเดือนพฤษภาคมว่าจะตรวจสอบความเสี่ยงด้านการผูกขาด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองบริษัทดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดการครอบงำตลาด

หาก Danantara เข้าร่วมดีลในฐานะผู้ลงทุนรายหนึ่ง ก็อาจช่วยเพิ่มแนวโน้มให้การควบรวมได้รับการอนุมัติจากภาครัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม การเจรจายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และอาจไม่มีการบรรลุข้อตกลงในที่สุด อีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่า Danantara ได้มีการหารือโดยตรงกับทาง Grab แล้วหรือไม่ ด้านตัวแทนจาก Grab, GoTo และ Danantara ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้

ดีลที่ซับซ้อนท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ

การควบรวมระหว่าง Grab และ GoTo เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อินโดนีเซียกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ภายใต้นโยบายประชานิยมของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2024 รัฐบาลภายใต้การนำของปราโบโวมีท่าทีแทรกแซงภาคเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน ทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การขยายโครงการอุดหนุนผู้บริโภค และการเข้าแทรกแซงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง รวมถึงการกดดันบริษัทข้ามชาติ โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางการได้มีคำสั่งให้ Grab และ GoTo จ่ายโบนัสพิเศษให้กับพนักงานขับรถในช่วงเทศกาล เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ

แม้ Grab และ GoTo จะมีการหารือเรื่องการควบรวมกิจการมานานหลายปี แต่ก็มักติดขัดในประเด็นด้านการแข่งขัน เนื่องจากทั้งสองถือเป็นผู้เล่นหลักในตลาดบริการเรียกรถและส่งอาหารของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักของ GoTo ส่วน Grab มีฐานตลาดที่แข็งแกร่งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ทั้งนี้ Grab ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Uber Technologies Inc. ได้เข้ามาแทนที่ Uber ในภูมิภาคหลังจากดีลสลับการถือหุ้นในปี 2018

การควบรวมครั้งนี้จะช่วยให้ Grab เสริมความแข็งแกร่งในตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากกว่า 275 ล้านคน แต่ในอีกด้านหนึ่ง การขาย GoTo ได้ก่อให้เกิดกระแสความวิตกในแวดวงการเมืองอินโดนีเซียว่า รายได้และตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาจไหลออกนอกประเทศ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงว่าผู้บริโภคอาจต้องเผชิญกับค่าบริการที่แพงขึ้นจากการแข่งขันที่ลดลง ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ภายใต้แรงกดดัน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หนึ่งในแนวทางที่อาจช่วยลดแรงต่อต้านจากภาครัฐ คือการที่ Grab เสนอเงื่อนไขว่าจะไม่ลดจำนวนพนักงานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ดีลนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

โครงสร้างดีลที่เป็นไปได้: ซื้อขายไขว้ เสริมฐานอินโดนีเซีย

ตามรายงานของ Bloomberg Grab ได้ประเมินมูลค่ากิจการของ GoTo ไว้ที่มากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หนึ่งในแนวทางที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือการเสนอซื้อโดยใช้หุ้น โดยตั้งราคาไว้ที่ 100 รูเปียห์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดของหุ้น GoTo ในตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ 61 รูเปียห์

รูปแบบดีลที่เป็นไปได้และกำลังอยู่ในขั้นตอนหารือ คือ GoTo จะเริ่มจากการซื้อธุรกิจบริการเรียกรถและจัดส่งอาหารของ Grab ในอินโดนีเซียมาก่อน หลังจากนั้น Grab จะกลับมาเข้าซื้อหุ้นใหญ่ในกิจการใหม่นี้อีกครั้ง เพื่อให้สามารถบริหารตลาดอินโดนีเซียได้โดยตรง ขณะเดียวกัน GoTo อาจจำหน่ายกิจการเรียกรถในสิงคโปร์ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่งสะท้อนความพยายามของทั้งสองฝ่ายในการจัดโครงสร้างใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกังวลด้านการแข่งขันทางการค้า

แม้ GoTo จะถอนตัวจากตลาดในประเทศไทยและเวียดนามแล้ว แต่ยังคงรักษาฐานผู้ใช้ในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักที่ยังแข่งขันสูง โดยเฉพาะกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง InDrive และ Maxim ด้าน Grab เองมีรายได้จากอินโดนีเซียในปี 2024 อยู่ที่ 643 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อนหน้า แต่ยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โครงสร้างดีลในลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยให้ Grab ขยายอิทธิพลในตลาดอินโดนีเซียอย่างเป็นระบบ แต่ยังเปิดโอกาสให้ GoTo ปรับโฟกัสและเพิ่มความคล่องตัวในธุรกิจที่เหลือ ท่ามกลางแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่และภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง


แชร์
กองทุนชาติอินโดฯ จ่อซื้อหุ้นดีล Grab-GoTo เอื้อควบรวมยูนิคอร์นอาเซียน