ค่าเงินบาทเช้านี้ประจำเดือนตุลาคม 2568

ค่าเงินบาทเช้านี้ประจำเดือนตุลาคม

31 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวาน ที่ 32.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังพาวเวลส่งสัญญาณไม่แน่ชัดเรื่องลดดอกเบี้ยต่อ: สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน โดยดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นไปแตะระดับ 99.454 ก่อนจะย่อตัวลงมาที่ 99.353 หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงหลังการประชุมว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นั้น "ยังไม่แน่นอน" (far from certain) ท่าทีดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ลงจาก 90% เหลือเพียง 71%

ราคาทองคำฟื้นตัวจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์: ราคาทองคำในตลาดโลกดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ต่อการทดสอบอาวุธของรัสเซีย ซึ่งสร้างความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์รอบใหม่

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ: นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผย ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อชุดสำคัญที่เฟดให้ความสำคัญ

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 486.12 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 810 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.18-32.48

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.18/ขาย 32.48

• EUR/THB 37.17 - 37.57

* แนะนำ ซื้อ 37.17/ขาย 37.57

• JPY/THB 0.2060 - 0.2100

* แนะนำ ซื้อ 0.2060/ ขาย 0.2100

• GBP/THB 42.33- 43.7
• AUD/THB 20.99 - 21.39

30 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.27 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวรับ 32.25 เมื่อวานนี้ จาก Fund flow ที่เข้าตลาดพันธบัตรไทยกว่า 24,639 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ ที่มีการแห่ขายทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงจนหลุดโซน 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากการทยอยปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลุดโซน 152 เยนต่อดอลลาร์

ผลการประชุม FOMC เดือนตุลาคม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 10-2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว เฟดยังได้ประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล หรือยุติการใช้นโยบาย "คุมเข้มเชิงปริมาณ" (Quantitative Tightening) หรือ QT ในวันที่ 1 ธ.ค.

เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 24,639 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 830 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.25 - 32.55

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.25

• EUR/THB 37.50-37.90

* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.50

• JPY/THB 0.2100-0.2140

* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2100

• GBP/THB 42.50- 42.90
• AUD/THB 21.20- 21.60

29 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างมากในเดือนต.ค. นอกจากนี้ตลาดยังคงคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดอาจประกาศยุติการลดขนาดงบดุล (QT) ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกทางหนึ่ง

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 87.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค. ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะประกาศยุติการใช้นโยบาย "คุมเข้มเชิงปริมาณ" (Quantitative Tightening) หรือ QT ในเดือนนี้ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ การยุตินโยบาย QT จะถือเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด

ราคาทองคำร่วงลงแรง หลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์: ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 3,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง

ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 94.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 93.2

ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่า ECB และ BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,861 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,133 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.20.-32.50

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.20/ขาย 32.50

• EUR/THB 37.50- 38.00

* แนะนำ ซื้อ 37.50/ขาย 38.00

• JPY/THB 0.2120- 0.2160

* แนะนำ ซื้อ 0.2120/ ขาย 0.2160

• GBP/THB 42.70- 43.20
• AUD/THB 21.10- 21.50

28 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟด (Fed) อาจมีแนวโน้ม ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม 28–29 ต.ค. มีผลให้ค่าเงินบาทมีแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น ตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค เช่น เยนและหยวน ทังนี้หาก Dot Plot หรือถ้อยแถลงส่งสัญญาณ dovish อาจส่งผลให้ USD มีแนวโน้มอ่อนต่อ ทั้งนี้ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐ จากภาวะ Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐ สถานทางการคลัง และการขาดข้อมูลเศรษฐกิจ จากการ shutdown ลดความเชื่อมั่นต่อ USD ในระยะสั้น

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้ ผลการประชุมของเฟด รวมถึง Fed Statement & Dot Plot , ผลการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีน, การประชุมของ BoJ และตัวเลข PCE สหรัฐในคืนวันศุกร์

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,300 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,039 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.50.-32.80

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 32.80

• EUR/THB 37.90 - 38.30

* แนะนำ ซื้อ 37.90/ขาย 38.30

• JPY/THB 0.2125 - 0.2160

* แนะนำ ซื้อ 0.2125/ ขาย 0.2160

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.30 - 21.70

27 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ 32.76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์: สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาด (ประเมิน) ใกล้เคียงระดับเดิม โดยในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดได้รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาในทิศทางผสมผสาน โดย อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ประจำเดือน ก.ย. ออกมา ต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ทั้งในรายเดือน +0.3% และรายปี +3.0% ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด แต่ในทางกลับกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นต้นสำหรับเดือน ต.ค. กลับออกมา ดีกว่าที่คาดการณ์ทั้งภาคการผลิต 52.2 และภาคบริการ 55.2 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้: ไฮไลท์สำคัญที่สุดคือ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 28-29 ต.ค. ซึ่งตลาดให้น้ำหนักสูงมากว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25%

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,237 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 5,943 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.50.-32.80

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 32.80

• EUR/THB 37.80 - 38.20

* แนะนำ ซื้อ 37.80/ขาย 38.20

• JPY/THB 0.2096 - 0.2136

* แนะนำ ซื้อ 0.2096/ ขาย 0.2136

• GBP/THB 43.35- 43.75
• AUD/THB 21.16 - 21.56

23 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.78 บาท/ดอลลาร์ เแข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ระดับ 32.90 บาท/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม วันที่ 28-29 ต.ค.2568 นี้

ราคาทองคำโลกปรับตัวลดลงจากความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะมีความคืบหน้า

ล่าสุดแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะออกเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียในวันนี้ (24 ต.ค.) และจะไปเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย โดยปธน.ทรัมป์จะพบกับปธน.สี จันผิง ผู้นำจีน ในวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค.

วันศุกร์นี้ ตลาดรอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวันพุธ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 4,097.05 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,566 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.60 - 32.90

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.60/ขาย 32.90

• EUR/THB 37.80 - 38.30

* แนะนำ ซื้อ 37.80 /ขาย 38.30

• JPY/THB 0.2130 - 0.2180

* แนะนำ ซื้อ 0.2130 / ขาย 0.2180

• GBP/THB 43.50- 44.00
• AUD/THB 21.00- 21.50

22 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า *ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.85 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาด เมื่อวานที่ระดับ 32.78 บาท/ดอลลาร์ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ทั้งนี้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอติดตามการเจรจาการค้าระหว่างระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาอาจมีความคืบหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น จะไม่มีความยั่งยืน ขณะเดียวกันทรัมป์ได้แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นธรรมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในระหว่างการประชุมร่วมกันที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้

ราคาทองสปอตและฟิวเจอร์ไหลไม่หยุด ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 200 ดอลลาร์ ใกล้หลุดระดับ 4,100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.

เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,903 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,369 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.75 - 32.95

*แนะนำ ซื้อ 32.75 / ขาย 32.95

• EUR/THB 37.90 - 38.40

* แนะนำ ซื้อ 37.90 / ขาย 38.40

• JPY/THB 0.2145 - 0.2185

* แนะนำ ซื้อ 0.2145 / ขาย 0.2185

• GBP/THB 43.75 - 44.15
• AUD/THB 21.15 - 21.55

21 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาด เมื่อวานที่ระดับ 32.72 บาท/ดอลลาร์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก อันเนื่องมาจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ รวมทั้งการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 28-29 ต.ค. และนักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย. ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 94.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.

ขณะเดียวกันราคาทองยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองฟิวเจอร์และสปอตปรับตัวขึ้นกว่า 150 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 4,360 ดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 662 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 73 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.45 - 32.65

*แนะนำ ซื้อ 32.45 / ขาย 32.65

• EUR/THB 37.75 - 38.25

* แนะนำ ซื้อ 37.75 / ขาย 38.25

• JPY/THB 0.2145 - 0.2185

* แนะนำ ซื้อ 0.2145 / ขาย 0.2185

• GBP/THB 43.50 - 43.90
• AUD/THB 21.00 - 21.40

20 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 32.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายปัจจัย: ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบ โดยแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเยนและฟรังก์สวิส ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 98.498 ปัจจัยที่ตลาดยังคงกังวลคือความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยังคงยืดเยื้อ, ความไม่แน่นอนจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าสู่วันที่ 17 และความกังวลต่อเสถียรภาพของธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ

ราคาทองคำผันผวนหนัก พลิกกลับมาดิ่งลงจากแรงเทขาย: หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 4,370 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักและดิ่งลงมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 4,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตในภาคธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ หลังจากผู้เชี่ยวชาญจากมูดี้ส์ให้ความเห็นว่ายังไม่พบสัญญาณของปัญหาในเชิงระบบ

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,097 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 3,059 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.64.-32.94

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.64/ขาย 32.94

• EUR/THB 38.00 - 38.40

* แนะนำ ซื้อ 38.00/ขาย 38.40

• JPY/THB 0.2134 - 0.2174

* แนะนำ ซื้อ 0.2134/ ขาย 0.2174

• GBP/THB 43.85- 44.25
• AUD/THB 21.13 - 21.53

17 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.53 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.57 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่ตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ หลังความไม่แน่นอนของ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐ

นักลงทุนติดตามการชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้ย่างเข้าสู่วันที่ 16 ขณะที่ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,149 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 883 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.40 - 32.70

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40 /ขาย 32.70

• EUR/THB 37.90 - 38.30

* แนะนำ ซื้อ 37.90 /ขาย 38.30

• JPY/THB 0.2150 - 0.2190

* แนะนำ ซื้อ 0.2150 / ขาย 0.2190

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.00- 21.40

16 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.50 บาท/ดอลลาร์ เแข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.56 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เนื่องจากตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างมาก นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค.

ตลาดยังคงจับตาความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่คาดว่าจะผ่อนคลายลงในการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่มีกำหนดจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 31 ต.ค. ถึง 1 พ.ย.นี้

สหรัฐฯ เปิดเผยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นสู่ระดับ +10.7 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ -1.8 จากระดับ -8.7 ในเดือนก.ย. บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตยังคงไปได้ดี

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,801 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 94 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.40- 32.80

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.80

• EUR/THB 37.60 - 38.00

* แนะนำ ซื้อ   37.60 /ขาย 38.00

• JPY/THB 0.2130 - 0.2180

* แนะนำ ซื้อ   0.2130 / ขาย 0.2180

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.00- 21.50

15 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.63 บาท/ดอลลาร์ เแข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก จากการที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

ล่าสุด จีนได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัทในเครือ 5 แห่งของฮันฮวา โอเชี่ยน (Hanwha Ocean) ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือสัญชาติเกาหลีใต้ โดยระบุว่าบริษัทในเครือทั้ง 5 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐฯ ดำเนินการสอบสวนอุตสาหกรรมการเดินเรือของจีน

ทั้งนี้ เจอโรม ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ (NABE) ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยระบุว่าเฟดอาจใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่เขาไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว

ทั้งนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าตามการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำสปอตทึ่ขึ้นไปแตะ All Time High ที่ระดับ 4,169 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองฟิวเจอร์ ขึ้นไปแตะระดับ All Time high ที่ระดับ 4,187 ดอลลาร์ ต่อออนซ์

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ วานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,885.95 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 756 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.50 - 32.70

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 32.70

• EUR/THB 37.60 - 38.10

* แนะนำ ซื้อ   37.60 /ขาย 38.10

• JPY/THB 0.2130 - 0.2180

* แนะนำ ซื้อ   0.2130 / ขาย 0.2180

• GBP/THB 43.20- 43.60
• AUD/THB 21.00- 21.50

14 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 32.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำพุ่งทะยานไม่หยุดจากความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน: ราคาทองคำฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทะลุระดับ 4,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด เพื่อตอบโต้ที่จีนออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก แม้ในภายหลังนายทรัมป์จะแสดงท่าทีที่อ่อนลงและพร้อมเจรจา แต่ความไม่แน่นอนดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างหนาแน่น

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน โดยดัชนีเงินดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ลงไปแตะที่ระดับ 98.48% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และพุ่งกลับมาที่ระดับ 98.95% หลังจากท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ดูเหมือนจะเปิดช่องสำหรับการเจรจากับจีน

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ: นักลงทุนจะจับตาพัฒนาการของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด รวมถึงถ้อยแถลงของนางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน

ข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ ที่น่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากชัตดาวน์ ได้แก่ รายงาน Beige Book ของเฟด ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของยูโรโซน

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,678 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 29 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.45.-32.65

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.45/ขาย 32.65

• EUR/THB 37.45 - 37.85

* แนะนำ ซื้อ 37.45/ขาย 37.85

• JPY/THB 0.2100 - 0.2140

* แนะนำ ซื้อ 0.2100/ ขาย 0.2140

• GBP/THB 43.20- 43.60
• AUD/THB 21.00 - 21.40

10 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์

ค่าบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า สอดคล้องกับการค่าเงินในภูมิภาค ท่ามกลางภาวะการขาดการรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา จากผลกระทบของภาวะ Government Shutdown ใดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาทในประเทศยังคงเป็นราคาทองคำ ซึ่งคาดว่าทองคำจะเริ่มส่งสัญญาณการปรับฐาน จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มคลี่คลาย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าอิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงสันติภาพระยะต้น ซึ่งอาจยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานสองปี ข่าวดังกล่าวช่วยลดความต้องการ ถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลงไปในระยะสั้น.

ทั้งนี้การปิดหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐที่ยืดเยื้อส่งผลให้ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า ตลาดจนรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟด ทั้งนี้ความเสี่ยงดังกล่าวได้เร่งแรงซื้อทองคํา ทำให้ทองคำทดสอบและทำระดับสูงสุดที่ 4,059 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในปีนี้ไปแล้ว ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองสู่ระดับ 4,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในเดือน ธ.ค.2569 จากเดิมที่ระดับ 4,300 ดอลลาร์/ออนซ์.

เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 321 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 434 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.65 - 32.90

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.65

• EUR/THB 37.80-38.30

* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.80

• JPY/THB 0.2120-0.2160

* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2120

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.30- 21.70

9 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.54 บาท/ดอลลาร์ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.55 บาท/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ของเฟดระบุว่า การที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นนั้น ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดก็ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง นอกจากนี้ แม้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ แต่กรรมการเฟดไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

อีกปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า มาจากนักลงทุนพากันถือครองดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของปธน.ทรัมป์

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น.ตามเวลาไทย

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะชัตดาวน์

เมื่อวานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 1.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการ เห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลาย เพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 333.34 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 281 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.40 - 32.70

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.70

• EUR/THB 37.50 - 38.00

* แนะนำ ซื้อ   37.50 /ขาย 38.00

• JPY/THB 0.2100 - 0.2150

* แนะนำ ซื้อ   0.2100 / ขาย 0.2150

• GBP/THB 43.30- 43.80
• AUD/THB 21.20 - 21.70

8 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.51 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ 32.53 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จากสถานการณ์การปิดหน่วยงานรัฐสหรัฐฯ (Shutdown) ยืดเยื้อเข้าสัปดาห์ที่ 2 แล้ว ส่งผลให้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวถูกเลื่อนประกาศ ทำให้ Fed และนักลงทุน “ขาดข้อมูล” ในการประเมินทิศทางดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ยังมีบางข้อมูลที่จะเผย เช่น ผลสำรวจความคาดหวังผู้บริโภคจาก Fed นิวยอร์ก ทั้งนี้ความไม่แน่นอนทางการเมือง (Shutdown สหรัฐฯ) และการคาดหวังว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบีย ส่งให้ราคาทอง เทรดใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์)

นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,329 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.40.-32.70

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.70

• EUR/THB 37.75- 38.10

* แนะนำ ซื้อ 37.75/ขาย 38.10

• JPY/THB 0.2140- 0.2180

* แนะนำ ซื้อ 0.2140/ ขาย 0.2180

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.30- 21.70

7 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.48 บาท/ดอลลาร์ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศส ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ มีนโยบายสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน นอกจากนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ พัฒนาการทางการเมืองในสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะ Government Shutdown ของสหรัฐฯซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางตลาด และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยในวันที่ 8 ต.ค.

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,402 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,052 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.30.-32.60

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60

• EUR/THB 37.80- 38.20

* แนะนำ ซื้อ 37.80/ขาย 38.20

• JPY/THB 0.2130- 0.2170

* แนะนำ ซื้อ 0.2130/ ขาย 0.2170

• GBP/THB 43.50- 43.90
• AUD/THB 21.30- 21.70

6 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.35 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

"Government Shutdown" กดดันดอลลาร์ต่อเนื่อง ทองคำพุ่งไม่หยุด: ความไม่แน่นอนกรณีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ที่ยังคงยืดเยื้อ เป็นปัจจัยหลักที่กดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ล่าสุดเคลื่อนไหวที่ระดับ 97.723 ในทางกลับกัน ความกังวลดังกล่าวได้กระตุ้นแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำฟิวเจอร์สปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ พุ่งขึ้น 40.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 3,908.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7

ภาคบริการสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวและเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing PMI) ประจำเดือน ก.ย. ออกมาที่ระดับ 50.0 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 51.8 และเป็นระดับที่บ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐฯ หยุดการขยายตัว ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาในภาคบริการกลับสูงกว่าคาดที่ 69.4 สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่อาจเผชิญภาวะชะลอตัวแต่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง (Stagflation)

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้: พัฒนาการทางการเมืองในสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะชัตดาวน์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางตลาด และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยในวันที่ 8 ต.ค.

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 623 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,974 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.20.-32.50

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.20/ขาย 32.50

• EUR/THB 37.66 - 38.06

* แนะนำ ซื้อ 37.66/ขาย 38.06

• JPY/THB 0.2126 - 0.2166

* แนะนำ ซื้อ 0.2126/ ขาย 0.2166

• GBP/THB 43.27- 43.67
• AUD/THB 21.13 - 21.53

3 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาด เมื่อวานที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ โดยนักลงทุนขาดข้อมูลเศรษฐกิจที่ใช้ในการตัดสินใจ

การชัตดาวน์จะส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกรายงานระบุว่า การที่สหรัฐฯ เผชิญภาวะชัตดาวน์ในขณะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือในระยะใกล้ ส่วนผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าภาวะชัตดาวน์จะขยายวงกว้างและยืดเยื้อนานเพียงใด ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ระบุว่า โดยปกติแล้วภาวะชัตดาวน์มักส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเพียงเล็กน้อย และไม่ถือเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ

ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ไม่หยุด จากความเสี่ยง "ชัตดาวน์" ยืดเยื้อ: ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุดสัญญาทองคำฟิวเจอร์สแกว่งแตะ 3,923.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนกลับลงมาปิดตลาดที่ 3,882.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหนุนสำคัญยังมาจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนในการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด

เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 334 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 178 ล้านบาท 

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.35 - 32.50

*แนะนำ ซื้อ 32.35 / ขาย 32.50

• EUR/THB 37.75 - 38.25

* แนะนำ ซื้อ  37.75 / ขาย 38.25

• JPY/THB 0.2185 - 0.2225

* แนะนำ ซื้อ 0.2185 / ขาย 0.2225

• GBP/THB 43.30 - 43.70
• AUD/THB 21.15 - 21.55

2 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์

ค่าบาทเคลื่อนไหวผันผวนหลังหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่่งเป็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางธุรกรรมที่ชะลอลงของผู้นำเข้าเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวของจีนในเทศกาลวันชาติ

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปิดการดําเนินงานส่วนใหญ่ลงหลังจากที่ร่างกฎหมายงบประมาณที่สนับสนุนโดยพรรครีพับลิกันล้มเหลวในการผ่านการลงคะแนนเสียงในวุฒิสภา ท่ามกลางการต่อต้านอย่างต่อเนื่องจากพรรคเดโมแครตและดูเหมือนว่าจะไม่มีทางออกที่ชัดเจนจากทางตัน ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ประจำเดือน ก.ย. ที่ออกมา หดตัวกว่า 32,000 ตำแหน่ง สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อแนวโน้มตลาดแรงงาน

ทั้งนี้การปิดหน่วยงานรัฐบาลอาจทําให้การเปิดเผยข้อมูลสําคัญอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีกําหนดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ล่าช้าออกไป เนื่องจากการจ้างงานและเงินเฟ้อ เป็นข้อมูลหลักที่เฟดใช้กําหนดทิศทางนโยบาย ทำให้สร้างความไม่แน่นอนต่อการตัดสินใจ ของเฟด ทั้งนี้ความเสี่ยงดังกล่าวได้เร่งแรงซื้อทองคํา ทำให้ทองคำที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์อาจเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ภายในสิ้นปีนี้.

เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 322 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,387 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.35 - 32.60

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.35

• EUR/THB 37.90-38.40

* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.90

• JPY/THB 0.2180-0.2220

* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2180

• GBP/THB 43.60- 44.00
• AUD/THB 21.30- 21.70

1 ตุลาคม 2568

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ 32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาความเสี่ยง"ชัตดาวน์"ของสหรัฐฯ: ความกังวลเกี่ยวกับการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีเส้นตายในวันนี้ (1 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ) โดยหากยังไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวได้ หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเข้าสู่สภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการ ในเวลา 11.00น. ตามเวลาไทย โดยข่าวนี่ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดอย่างมาก โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) เคลื่อนไหวผันผวนอย่างหนัก โดยร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 97.25 ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาปิดที่ 97.41 ความไม่แน่นอนดังกล่าวได้กระตุ้นแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัย โดยราคาทองคำฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับ 3,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากเกิดการชัตดาวน์จริง จะส่งผลให้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการจ้างงานและดัชนีผู้บริโภค ต้องถูกเลื่อนออกไป

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุด ออกมาอ่อนแอกว่าคาด: ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดย ดัชนี Chicago PMI ประจำเดือน ก.ย. ลดลงสู่ระดับ 40.6 (คาดการณ์ 43.4) และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB Consumer Confidence) ลดลงสู่ระดับ 94.2 (คาดการณ์ 96.0) ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อาจกำลังชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 7.227 ล้านตำแหน่ง

สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,776 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 346 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

• USD/THB 32.30-32.60

*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60

• EUR/THB 37.87 - 38.27

* แนะนำ ซื้อ 37.87/ขาย 38.27

• JPY/THB 0.2155 - 0.2195

* แนะนำ ซื้อ 0.2155/ ขาย 0.2195

• GBP/THB 43.44- 43.84
• AUD/THB 21.26 - 21.66