
กองทัพรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยว่า ได้จับกุมชาวต่างชาติเกือบ 1,600 คนภายในเวลา 5 วัน ในปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ ใกล้บริเวณชายแดนไทย
Channelnewsasia รายงานว่า ศูนย์กลางหลอกลวงออนไลน์เหล่านั้นผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา ซึ่งเผชิญภาวะสงครามกลางเมืองอยู่ และที่นั่นกลายเป็นแหล่งรวมกลุ่มเหล่ามิจฉาชีพที่พุ่งเป้าไปยังผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ด้วยกลยุทธ์ “หลอกให้รัก” และหลอกให้ทำธุรกิจ สร้างความเสียหายหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
มีการกล่าวหารัฐบาลทหารเมียนมาว่า ทำเป็นมองไม่เห็นต่อการขยายตัวของธุรกิจสีเทาดังกล่าว แต่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาก็ออกมาประกาศปฏิบัติการปราบปราม หลังถูกกดดันจากรัฐบาลจีน ซึ่งถือเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การบุกตรวจค้นอย่างหนักหน่วงในช่วงเดือนที่ผ่านมาถูกบางฝ่ายมองว่า เป็นเพียงการจัดฉาก เพื่อลดแรงกดดันจากรัฐบาลจีนเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลทหารที่ได้จากธุรกิจสแกมเมอร์เท่าใดนัก
ในรายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยสื่อรัฐ The Global New Light of Myanmar กองทัพระบุว่า มีชาวต่างชาติ 1,590 คนที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายถูกจับกุมระหว่างวันที่ 18–22 พฤศจิกายน ในปฏิบัติการบุกเมืองศูนย์พนันและฉ้อโกงที่เมืองชเวก๊กโก
รายงานยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ยึดคอมพิวเตอร์ 2,893 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 21,750 เครื่อง เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม Starlink 101 เครื่อง เราเตอร์ 21 เครื่อง และอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมฉ้อโกงและพนันออนไลน์จำนวนมาก
หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว สำนักข่าว AFP พบว่า อุปกรณ์รับอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ถูกติดตั้งจำนวนมากในศูนย์ฉ้อโกงออนไลน์ต่าง ๆ บริษัท Starlink ของอีลอน มัสก์ ก็ออกมาระบุว่า ได้ระงับอุปกรณ์มากกว่า 2,500 เครื่องที่อยู่ใกล้พื้นที่ต้องสงสัยว่าเป็นฐานฉ้อโกงในเมียนมา
The Global New Light of Myanmar ยังรายงานด้วยว่า มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับการหลอกลวงและพนันออนไลน์อีก 223 คนถูกจับกุมในเมืองชเวก๊กโกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว ในจำนวนดังกล่าวมีชาวจีนรวมอยู่ด้วย 100 คน
ด้านวิดีโอจากสื่อท้องถิ่นแสดงให้เห็นภาพของรถบดถนน บดทำลายจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์หลายร้อยเครื่องที่วางเรียงราย ข้างกองโทรศัพท์มือถือที่ถูกทุบทำลายแล้วในพื้นที่ชเวก๊กโกเมื่อวันเสาร์
รายงานของสหประชาชาติระบุว่า แค่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก มีเหยื่อถูกหลอกออนไลน์คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และเชื่อว่ายอดความเสียหายทั่วโลกน่าจะสูงกว่ามาก