
กองทัพเมียนมาบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออนไลน์ เข้าบุกรวบตัวที่ศูนย์สแกมเมอร์สุดอื้อฉาว อยู่ใกล้ชายแดนไทย ทหารเข้าจับกุมชาวต่างชาติเกือบ 350 คน พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือเกือบ 10,000 เครื่อง นับเป็นปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ท่ามกลางแรงกดดันจากจีน หลังมีรายงานเหยื่อถูกหลอกหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากแก๊งนี้
ทั้งนี้ เครือข่ายสแกมเมอร์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา โดยฉกฉวยโอกาสในช่วงงที่เกิดความขัดแย้งและสงครามระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมาและชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ ขณะที่หลายพื้นที่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาควบคุม แก๊งสแกมเมอร์เหล่านี้ก็สามารถสร้างฐานปฏิบัติการมุ่งเป้าหลอกลวงทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่พบว่า รูปแบบการหลอกลวงของกลุ่มนี้ เน้นที่โรแมนซ์สแกมและหลอกให้ลงทุนทางธุรกิจ ซึ่งดูดเงินเหยื่อรวมแล้วมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาถูกกล่าวหามานานแล้วว่าเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ แต่ได้ประกาศอย่างยิ่งใหญ่ถึงการปราบปรามตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากได้รับการโน้มน้าวจากจีน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทางทหารคนสำคัญ
ผู้สังเกตการณ์บางรายระบุว่า การบุกเข้าตรวจค้นซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นแค่การสร้างภาพของรัฐบาลทหารเมียนมาเท่านั้น โดยมีการจัดฉากเพื่อลดแรงกดดันจากรัฐบาลจีน โดยไม่สร้างความเสียหายต่อผลกำไรที่หล่อเลี้ยงกลุ่มพันธมิตรของกองทัพมากเกินไป
ตามรายงานของสื่อรัฐบาล The Global New Light of Myanmar กองทัพเมียนมาได้บุกเข้าทลายศูนย์กลางการพนันและการฉ้อโกงที่ "ชเวก๊กโก" เมื่อเช้าวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าระหว่างปฏิบัติการ มีการจับกุมชาวต่างชาติ 346 คน ซึ่งขณะนี้อยูระหว่างการถูกสอบปากคำ รวมถึงโทรศัพท์มือถือเกือบหนึ่งหมื่นเครื่องที่ใช้ในการต้มตุ๋นออนไลน์ก็ถูกยึดด้วย
นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 ที่ก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง พื้นที่ชายแดนของเมียนมาที่อยู่ภายใต้การปกครองอย่างไม่เข้มงวดนัก ได้กลายเป็นพื้นที่สำหรับศูนย์กลางการหลอกลวง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่ามีพนักงานเป็นคนงานที่เต็มใจทำงานหลายพันคน รวมถึงผู้คนที่ถูกหลอกมาทำงาน ซึ่งเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์มาจากต่างประเทศ
รายงานของสหประชาชาติระบุว่า เฉพาะเหยื่อการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเท่านั้น ที่ถูกฉ้อโกงไปเป็นมูลค่าสูงถึง 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 โดยกล่าวว่า ความสูญเสียทั่วโลกน่าจะสูงกว่านั้นมาก
แรงกดดันจากจีน จนต้องจัดฉาก?
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนที่สนับสนุนรัฐบาลเมียนมาอย่างเปิดเผย ได้แสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลเมียนมาเพิกเฉยต่อเครือข่ายสแกมเมอร์ในประเทศ จนทำให้พลเมืองจีนได้รับผลกระทบ ทั้งกลุ่มเปราะบางที่โดนหลอกมาทำงาน ทั้งอนุญาตให้พลเมืองจีนดำเนินธุรกิจสีเทา และทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเงินนับล้าน จากขบวนการสแกมเมอร์เหล่านี้
รัฐบาลทหารเมียนมาได้กล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านที่อนุญาตให้ศูนย์ฉ้อโกงสามารถดำเนินการภายใต้การคุ้มครองของพวกเขาได้ แต่กล่าวว่า กองทัพได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว หลังจากที่สามารถบุกทลายแก๊งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ในพื้นที่ชายแดนเหล่านั้นกลับมาได้
The Global New Light of Myanmar ของรัฐบาลเมียนมาระบุว่า บริษัทหย่าไถ่ (Yatai) ซึ่งเป็นของนาย สือ จื้อเจียง (She Zhijiang) นักธุรกิจชาวจีน-กัมพูชา ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ชเวก๊กโก นายสือถูกจับกุมในประเทศไทยในปี 2565 และถูกส่งตัวข้ามแดนไปยังประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเขาเผชิญกับข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการฉ้อโกง
ก่อนหน้านี้ นายสือ จื้อเจียงและบริษัทหย่าไถ่ของเขาถูกคว่ำบาตรโดยสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา โดยรัฐบาลวอชิงตันกล่าวว่า เขาได้เปลี่ยนหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนชายแดนเมียนมา-ไทย ให้เป็นชเวก๊กโก ซึ่งเป็น "รีสอร์ตที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการพนัน การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี และการหลอกลวงที่มุ่งเป้าไปที่ผู้คนทั่วโลก"
ในเดือนตุลาคม รัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศการบุกตรวจค้นศูนย์ฉ้อโกงที่อยู่ใกล้เคียง คือบริเวณ KK Park ซึ่งอ้างว่ากำลังรื้อถอนอาคารมากกว่า 600 หลังอยู่ในขณะนี้ การกวาดล้างที่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีการส่งตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หลอกลวงกลับประเทศประมาณ 7,000 คน และประเทศไทยได้ดำเนินการบล็อกอินเทอร์เน็ตข้ามพรมแดน