หลังนายชิเงรุ อิชิบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ทางพรรคก็เลือกซานาเอะ ทาคาอิจิ นักการเมืองผู้หญิงขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย และตามกระบวนการ ทาคาอิจิก็จะกลายมาเป็นนายกฯ คนใหม่ หลังผ่านการรับรองของรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่พรรคแอลดีพีไม่ได้ถือครองเสียงข้างมาก รัฐบาลใหม่จึงจำเป็นต้องเป็นรัฐบาลผสม แต่พรรคโคเมอิโตะที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้ ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว จนทำให้ความหวังที่ญี่ปุ่นจะได้นายกฯ ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์อันตรธานหายไป
ล่าสุด โอกาสที่ทาคาอิจิจะได้กลายเป็นนายกฯ กลับมามีความเป็นไปได้อีกครั้ง หลังพรรคนิปปอนอิชินโนะไค ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง ยอมหารือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมแทนพรรคที่ถอนตัว
Japan Times รายงานว่า พรรคแอลดีพี และพรรคนิปปอนอิชินโนไค ได้เข้าหารือกันแล้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม และเตรียมเลือกซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคแอลดีพีเป็นนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า และผลการหารือก็ออกมาในทิศทางที่ดี
ประเด็นการหารือระหว่างทั้งสองฝ่ายครอบคลุมตั้งแต่การจัดตั้งเมืองหลวงแห่งที่สอง การปฏิรูประบบประกันสังคม ไปจนถึงการปรับปรุงกฎเกณฑ์การจัดสรรเงินทุนให้พรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม การหารืออาจจะนำพาสองฝ่ายมาร่วมงานกันได้ เพราะทั้งสองพรรคไม่ได้มีเพียงนโยบายที่ใกล้เคียงกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวคิดทางอุดมการณ์ที่สอดคล้องกันด้วย ขณะที่พบว่า มีสมาชิกบางส่วนของพรรคนิปปอนอิชินเคยสังกัดพรรคแอลดีพีมาก่อน
ก่อนหน้านี้ พรรคโคเมอิโตะขอถอนตัวจากรัฐบาลผสมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับทำให้การประสานความร่วมมือระหว่างพรรคนิปปอนอิชินกับพรรคแอลดีพีเป็นไปได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากตามปกติแล้ว พรรคนิปปอนอิชินและพรรคโคเมอิโตะเป็นคู่แข่งหลักแย่งเก้าอี้กันในพื้นที่โอซากา ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของทั้งสองพรรค โดยในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว พรรคนิปปอนอิชินสามารถกวาดชัยชนะได้ทั้ง 19 เขต เอาชนะทั้งพรรคโคเมอิโตะและพรรคแอลดีพี
ดังนั้นเมื่อพรรคโคเมอิโตะหลุดออกจากสมการ ความเป็นไปได้ในการจับมือทางการเมืองระหว่างพรรคนิปปอนอิชินและพรรคแอลดีพีจึงมีอุปสรรคน้อยลง
นอกจากนี้ พรรคนิปปอนอิชินซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎรโดยมีที่นั่ง 35 ที่นั่ง ยังถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (Democratic Party for the People)
ทั้งนี้ หากย้อนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จะพบว่า พรรคนิปปอนอิชินและพรรคแอลดีพีมีประวัติความร่วมมือในรัฐสภาที่เป็นไปทั้งในเชิงร่วมมือและขัดแย้งสลับกันไป
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่จะมีปัญหากันระหว่างสองพรรค คือทั้งสองฝ่ายยังคงมีจุดยืนห่างกันในประเด็นเรื่องเงินบริจาคจากภาคเอกชนและการลดภาษีการบริโภค โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ซึ่งเป็นข้อเสนอของพรรคนิปปอนอิชิน แต่ก็สามารถบรรลุความเข้าใจร่วมกันในประเด็นอื่น ๆ ได้หลายด้าน
แกนนำของพรรคได้เริ่มการเจรจาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 ตุลาคม) โดยตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากรัฐสภามีกำหนดเปิดประชุมในวันอังคารหน้า ซึ่งถ้าหากทั้งสองพรรคตกลงกันได้ เราก็จะได้เห็นญี่ปุ่นมีนายกฯ ที่เป็นผู้หญิงคนแรกในสัปดาห์หน้านี่เอง