3 กันยายน 2568 จีนจัดงานเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะที่กรุงปักกิ่ง ฉลองการครบรอบ 80 ปีกองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวาระนี้ ผู้นำจากนานาประเทศรวม 26 ชาติมาร่วมฉลองงานครั้งนี้ด้วย
งานฉลองวันแห่งชัยชนะครั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามองคือการเดินขบวนสวนสนามของกองทัพจีน ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ณ ใจกลางกรุงปักกิ่ง บนสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ จตุรัสเทียนอันเหมิน
การเดินสวนสนามครั้งนี้จะประกอบด้วยการเดินขบวนของทหารจีนหลายพันคน และการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ และเทคโนโลยีใหม่ที่แสดงศักยภาพของกองทัพจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการจีนได้เตรียมการความปลอดภัยอย่างรัดกุม อาทิ มีการติดตั้งเครื่องสแกนเพื่อความปลอดภัยที่สนามบิน มีการจัดหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำการตามจุดต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการประท้วง และมีการเยี่ยมเยียนนักข่าวต่างชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสื่อสารข้อมูลที่ทางการจีนตั้งใจนำเสนอได้ อีกทั้งการเข้าร่วมขบวนพาเหรด ผู้เข้าชมจะต้องมาต่อแถวเพื่อตรวจความปลอดภัยที่เข้มงวดมากตั้งแต่เวลา 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนั้น ถนนสายต่าง ๆ ยังได้ถูกเตรียมการต้อนรับผู้นำจากนานาประเทศ ผู้นำที่มาเข้าร่วมโดยมามาจากกลุ่มประเทศเอเชีย โดย 2 ผู้นำที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือ ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และประเทศสหภาพยุโรป รวมถึงไทยไม่ได้เข้าร่วมงานฉลองครั้งนี้ด้วย
ผู้นำนานาชาติทยอยเดินทางถึงจตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะได้รับแจกธงชาติจีนเพื่อใช้โบกระหว่างการแสดง งานฉลองเริ่มต้นด้วยคณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงปลุกใจ หนึ่งในเพลงที่คณะร้องคือเพลง Yellow River ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการยืนหยัดต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นของจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ก่อนขบวนหลักจะเข้าสู่พื้นที่จตุรัส เสียงปืนใหญ่ดังขึ้น 80 ครั้งเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะครบ 80 ปี ทหารแถวหน้าถือธงชาติจีนพร้อมเสียงเพลงชาติบรรเลงพร้อมกัน สี จิ้นผิงก้าวขึ้นสู่เวทีหลักและกล่าวปราศรัย สีกล่าวต้อนรับพันธมิตรที่มาร่วมงาน และย้ำว่าจีนไม่เกรงกลัวต่อการรังแกจากฝ่ายใด
“ชาติจีนไม่เคยเกรงกลัวต่อการข่มขู่จากคนพาลกลุ่มใด และจะเดินหน้าต่อไปเสมอ [...] นี่คือเส้นทางใหม่ ยุคใหม่”
“วันนี้ มนุษยชาติเผชิญกับทางแยกอีกครั้ง ระหว่างสันติภาพและสงคราม การพูดคุยและการเผชิญหน้า ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือการแข่งขันที่มีผลประโยชน์เป็นศูนย์ คนจีนยังยืนหยัดมั่นคงบนฝั่งที่ถูกของประวัติศาสตร์ บนฝั่งของอารยธรรมมนุษย์และการพัฒนา มั่นคงบนเส้นทางแห่งสันติและการพัฒนา” สีเสริม
อีกใจความสำคัญจากการปราศัยคือ การเน้นย้ำความสำคัญของประวัติศาสตร์ สีย้ำคนจีนให้จดจำประวัติศาสตร์ชาติ
“ประวัติศาสตร์เตือนเราว่า ชะตาของมนุษยชาติต่างเกี่ยวโยงสัมพันธ์ เมื่อนานาชาติและผู้คนปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม อยู่ร่วมกันด้วยสามัคคี และสนับสนุนกันและกันเท่านั้น เราจึงจะปกป้องความมั่นคงร่วมกัน และลบล้างสาเหตุของสงครามได้ เราต้องไม่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมประวัติศาสตร์เกิดขึ้นซ้ำอีก”
“การฟื้นฟูครั้งใหญ่ของชาติจีนไม่มีอะไรจะรั้งไว้ได้ เหตุแห่งสันติภาพและการพัฒนาของมนุษยชาติจะได้รับชัยชนะอย่างแน่แท้” สีกล่าว
สียังกล่าวส่งเสริมให้ “คนจีนทุกชาติพันธุ์” เดินตามแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์ “เราต้องมั่นคงบนเส้นทางสังคมนิยมและอัตลักษณ์ของจีน เราต้องเดินหน้ากับธุรกิจต่อไปมุ่งมั่น”
หลังสีจบการปราศรัย ขบวนสวนสนามก็เริ่มขึ้น ทหารหลายพันนายเดินขบวนบนจตุรัสเทียนอันเหมิน ภายใต้การตรวจตราของสี จิ้นผิงที่ถนนฉางอาน ใจกลางกรุงปักกิ่ง สียืนอยู่ในรถเปิดประทุนหงฉีสีดำ รถยนต์หรูสัญชาติจีน มีไมโครโฟนติดตั้งอยู่บนหลังคารถเพื่อให้ประธานาธิบดีจีน และในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ออกคำสั่งต่อกองทหารที่เดินสวนสนาม
ในขบวนสวนสนามนี้ มีการจัดแสดงอาวุธหลายชิ้น อาทิ ขีปนาวุธพิสัยสั้น-กลาง ระบบปล่อยจรวดหลายระบบ อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน รวมถึง ยานร่อนความเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธ YJ-21 ที่ใช้ต่อต้านเรือดำน้ำไฮเปอร์โซนิก ขีปนาวุธ JL-3 ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ทิ้งตัวจากเรือดำน้ำ นอกจากนี้ยังมี DF-5C ขีปนาวุธข้ามทวีป Dongfeng-5 ใหม่ของจีน
นอกจากนี้ยังมีอาวุธชนิดอื่นอีก อาทิ อาวุธเลเซอร์ LY-1, ขีปนาวุธพิสัยไกล Dongfeng-61, รถถังหุ้มเกราะ HZ-155
นอกจากอาวุธที่ถูกจัดแสดงบนขบวนพาเหรดแล้ว บนท้องฟ้าก็มีการโชว์ตัวอาวุธเช่นกัน เครื่องบินรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนแสดงศักยภาพการบินบนท้องฟ้าเหนืองานฉลอง มีเครื่องบินทหารรุ่นที่ 5 ของจีนบินอยู่เหนือแนวชายฝั่ง นักวิเคราะห์ชี้ว่า นี่คือการแสดงศักยภาพของจีนว่า สามารถโจมตีจากเรือบรรทุกเครื่องบินทางทะเลได้
ขบวนสวนสนามกองทัพจีนจบลงพร้อมเพลง เกอช่างจู่กั๋ว หรือ บทกวีสรรเสริญมาตุภูมิ เพลงชาติอย่างไม่เป็นทางการของจีน พร้อมการปล่อยนกพิราบหลายพันตัวที่จตุรัสเทียนอันเหมิน
ที่มา: BBC