Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯ ญี่ปุ่นลั่นจะอยู่ต่อ แม้แพ้เลือกตั้ง สว. ยับเยิน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

นายกฯ ญี่ปุ่นลั่นจะอยู่ต่อ แม้แพ้เลือกตั้ง สว. ยับเยิน

21 ก.ค. 68
10:14 น.
แชร์

นายกฯ ยันไม่ลาออก

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค. 68) ผู้มีสิทธิออกเสียงชาวญี่ปุ่นต่างไปลงคะแนนเสียงที่คูหา ท่ามกลางกาารเลือกตั้งที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เนื่องจากเสียงประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงความผิดหวังต่อพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคพันธมิตรรองโคเมโตะ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นและการรับมือมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

พรรคร่วมรัฐบาลของญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูงของประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กล่าวภายหลังปิดการลงคะแนนเสียงว่า “เขาไม่มีแผนที่จะลาออก” อย่างไรก็ตาม เขายอมรับผลการเลือกตั้ง ที่อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่รุนแรงต่อพรรค พร้อมให้คำมั่นว่าพรรครัฐบาลจะทำงานเน้นไปที่การเจรจาทางการค้าให้มากขึ้น 

ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งที่น่าผิดหวังเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยพรรครัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่างของญี่ปุ่น ดังนั้น ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะบั่นทอนอิทธิพลของรัฐบาลผสมมากขึ้นไปอีก

พรรคร่วมรัฐบาลได้เก้าอี้ไม่ครบ

สำหรับเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 248 ที่นั่ง และในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งชิงเก้าอี้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น หรือ 124 ที่นั่ง เนื่องจากก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาล (LDP และ Komeito) มีจำนวนที่นั่งอยู่ในวุฒิสภาอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง เป็นที่นั่งที่ไม่ได้ถูกเลือกตั้งในรอบนี้ เพราะยังไม่ครบวาระ 6 ปี

ดังนั้น ในการเลือกตั้ง 124 ที่นั่งเมื่อวานนี้ พรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องชนะการเลือกตั้งเพิ่มเติมให้ได้ 50 ที่นั่ง เพื่อที่จะเมื่อรวมกับที่นั่งเดิมที่มีอยู่แล้ว จะทำให้จำนวนที่นั่งรวมทั้งหมดของพรรคร่วมรัฐบาล เกิน 124 ที่นั่ง (คือ 125 ที่นั่งขึ้นไป) ซึ่งจะทำให้พวกเขายังคงมีเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้ แต่สำนักข่าว NHK รายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลคว้าไปได้ 47 ที่นั่ง โดยเหลืออีกเพียง 1 ที่นั่งที่ยังไม่ได้ประกาศผล ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาล้มเหลวที่จะเป็นเสียงข้างมากในเวทีสมาชิกวุฒิสภา

แพ้เพราะคู่แข่งชู 'Japanese First'

พรรค Sanseito พรรคการเมืองขวาจัดที่ก่อนหน้าที่เป็นเสียงข้างน้อย กำลังผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผ่านการหาเสียงที่ชูนโยบาย 'Japanese First' มุ่งหน้าแก้ปัญหาการรุกรานอย่างเงียบ ๆ ของผู้อพยพ พร้อมให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าลดภาษีและลดค่าใช้จ่ายที่ควรเป็นสวัสดิการให้ประชาชน

สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า พรรค Senseito นี้ถือกำเนิดขึ้นบน YouTube ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนและกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ซึ่งพรรคได้ก้าวเข้าสู่การเมืองกระแสหลักด้วยแคมเปญหาเสียงที่โดนใจชาวญี่ปุ่น เมื่อสามปีที่แล้ว พรรคนี้ได้เก้าอี้เพียง 1 ตำแหน่ง แต่ในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ พรรคดังกล่าวคว้าเก้าอี้ไปได้ถึง 14 ที่นั่ง 

โซเฮ คามิยะ หัวหน้าพรรควัย 47 ปี กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Nippon Television ระบุว่า วลี 'Japanese First' มีความหมายถึงการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นขึ้นใหม่โดยการต่อต้านโลกาภิวัตน์ ซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าญี่ปุ่นควรห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศทั้งหมด หรือชาวต่างชาติทุกคนควรออกจากญี่ปุ่น

นักวิเคราะห์ทางการเมืองกล่าวว่า ข้อความของคามิยะดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผิดหวังกับเศรษฐกิจที่อ่อนแอและค่าเงินที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีกจนชาวญี่ปุ่นไม่สามารถจ่ายได้ ชาวญี่ปุ่นยังกังวลเกี่ยวกับราคาข้าวที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอัตราการเกิดใหม่ของประชากรที่ต่ำลงเป็นข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดของชาวญี่ปุ่น สังคมญี่ปุ่นที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 3.8 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียง 3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

'Japanese First' ได้รับแรงบันดาลใจจากทรัมป์

คามิยะ อดีตผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ตและครูสอนภาษาอังกฤษ เคยบอกกับรอยเตอร์สก่อนการเลือกตั้งว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจาก "สไตล์การเมืองที่กล้าหาญ" ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ เขายังถูกนำไปเปรียบเทียบกับพรรค AfD ของเยอรมนีและพรรค Reform UK แม้ว่านโยบายประชานิยมปีกขวายังไม่หยั่งรากลึกในญี่ปุ่นเท่ากับในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

หลังการเลือกตั้ง คามิยะกล่าวว่า เขาวางแผนที่จะดำเนินตามรอยพรรคประชานิยมที่กำลังเติบโตในยุโรปโดยการ สร้างพันธมิตรกับพรรคเล็กอื่น ๆ แทนที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล LDP ซึ่งปกครองญี่ปุ่นมาเกือบตลอดประวัติศาสตร์หลังสงคราม

ทั้งนี้การที่พรรค Sanseito เน้นประเด็นปัญหาการเข้าเมืองได้ เปลี่ยนทิศทางทางการเมืองของญี่ปุ่นไปแล้ว เพียงไม่กี่วันก่อนการลงคะแนนเสียง รัฐบาลของอิชิบะได้ประกาศจัดตั้งคณะทำงานชุดใหม่เพื่อต่อสู้กับ "อาชญากรรมและการประพฤติมิชอบ" โดยชาวต่างชาติ และพรรคของเขาสัญญาว่าจะตั้งเป้าหมาย "ชาวต่างชาติผิดกฎหมายเป็นศูนย์"

เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ พรรค Sanseito เรียกร้องให้ ลดภาษีและเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทางการคลังและหนี้สินมหาศาลของญี่ปุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างคือ พรรคนี้มีการปรากฏตัวทางออนไลน์ที่ใหญ่กว่ามาก ซึ่งสามารถใช้โจมตีสถาบันการเมืองของญี่ปุ่นได้

ช่อง YouTube ของพรรคมีผู้ติดตาม 400,000 คน ซึ่งมากกว่าพรรคอื่นๆ บนแพลตฟอร์ม และมากกว่า LDP ถึงสามเท่า ตามข้อมูลของ socialcounts.org คามิยะกล่าวว่า ความสำเร็จในการเข้าสู่สภาสูงของพรรค Sanseito เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขาประกาศว่า "เรากำลังเพิ่มจำนวนของเราอย่างต่อเนื่องและทำตามความคาดหวังของผู้คน ด้วยการสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งและรักษาที่นั่งได้ 50 หรือ 60 ที่นั่ง ผมเชื่อว่านโยบายของเราจะกลายเป็นจริงในที่สุด"

แชร์
นายกฯ ญี่ปุ่นลั่นจะอยู่ต่อ แม้แพ้เลือกตั้ง สว. ยับเยิน