รัสเซียส่งโดรน 400 ลำ ถล่มบ้านเกิดเซเลนสกี ยูเครนเร่งเพิ่มงบกลาโหม
รัสเซียได้ส่งโดรนหลายร้อยลำโจมตี 4 ภูมิภาคสำคัญในยูเครนเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ก.ค. 68) ในขณะที่สมาชิกรัฐสภายูเครนเร่งอนุมัติงบประมาณกลาโหมเพิ่มเติม ท่ามกลางการโจมตีของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกองทัพอากาศยูเครนรายงานว่า กองทัพเครมลินได้ส่งโดรนพิสัยไกล 400 ลำ และขีปนาวุธ 1 ลูก ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในสัปดาห์นี้ โดยกองกำลังเคียฟสามารถสกัดกั้นและทำลายโดรนได้แล้วอย่างน้อย 345 ลำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การโจมตีของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่หลายเมือง รวมถึงบางส่วนของโอเดสซา คาร์คิฟ วินนิตเซีย และเมืองคริวี ริห์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน CNN รายงานว่า ทหารยูเครนกำลังเผชิญกับการยกระดับการโจมตีที่รุนแรงที่สุดจากกองกำลังรัสเซีย นับตั้งแต่การรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 ส่งผลให้สมาชิกรัฐสภาในกรุงเคียฟได้สนับสนุนการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มงบประมาณสำหรับกองทัพและการป้องกันประเทศ ในเวลาเดียวกัน เซเลนสกีก็ได้ปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ หลังสหรัฐฯ ประกาศจะส่งอาวุธชุดใหม่สนับสนุนยูเครนในการรับมือรัสเซีย
การโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด
โอเล็กซานเดอร์ วิลกุล หัวหน้าฝ่ายบริหารการทหารของเมืองเคียฟวี ริห์ ทางตอนกลางของยูเครน เปิดเผยว่าเมืองแห่งนี้เผชิญกับ "การโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงคราม" โดยมีการใช้ขีปนาวุธนำวิถีและโดรน 28 ลำ การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดไฟไหม้หลายจุด และทำให้บางส่วนของเมืองไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้
เซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียได้กำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในเมือง ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย พร้อมโพสต์บน X ระบุว่า "รัสเซียไม่เปลี่ยนกลยุทธ์ และเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ยูเครนต้องเสริมสร้างการป้องกันของเราอย่างเป็นระบบ โดยจัดให้มีระบบป้องกันภัยทางอากาศมากขึ้น มีเครื่องสกัดกั้นมากขึ้น และมีความมุ่งมั่นมากขึ้น"
อีฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออก กล่าวว่า เมืองของเขาถูกโจมตีถึง 16 ครั้งในเวลาเพียง 14 นาที ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย ในเมืองวินนิตเซีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐาน 2 แห่งเกิดไฟไหม้จากการโจมตี
รัฐบาลรัสเซียได้เพิ่มการใช้โดรนโจมตียูเครนตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามเต็มรูปแบบ โดยรัสเซียปล่อยโดรนมากถึง 728 ลำในคืนเดียว ทางการยูเครนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดย 1 ราย เสียชีวิตจากการยิงถล่มในภูมิภาคซูมี และ 2 รายในคาร์คิฟ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 38 ราย
วาดิม ฟิลาชกิน ผู้ว่าการภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน เปิดเผยผ่าน Telegram ระบุว่า รัสเซียยังคงโจมตีต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บ 27 รายจากการโจมตีศูนย์การค้าในโดโบรปิลเลีย ความเสียหายรวมถึงร้านค้า 54 แห่ง อะพาร์ตเมนต์ 304 ห้อง และรถยนต์ 8 คัน
อย่างไรก็ตาม อดีตนายกรัฐมนตรีเดนิส ชมิฮาลกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 400,000 ล้านฮริฟเนียยูเครน (ประมาณ 9,600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) สำหรับกองกำลังรักษาความมั่นคง นอกจากนี้ ยังอนุมัติการเพิ่มงบประมาณสำหรับอุปกรณ์และเครื่องจักรป้องกันประเทศด้วย
สหรัฐฯ เปลี่ยนท่าที
การโจมตีครั้งใหญ่ล่าสุดของรัสเซียในยูเครนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ และในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มแสดงความไม่พอใจมากขึ้นกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ทรัมป์ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ยูเครนจะได้รับระบบขีปนาวุธแพทริออตผ่าน NATO ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนอาวุธชุดใหม่ของสหรัฐฯ และขู่จะเก็บภาษีทางอ้อม กับประเทศอื่น ๆ ที่ซื้อน้ำมันและสินค้าอื่น ๆ ของรัสเซีย เป็นการส่งสัญญาณถึงท่าทีลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียที่รุนแรง
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียกำลังติดตามการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลของตะวันตกอย่างใกล้ชิด เขาเคยเตือนก่อนหน้านี้ว่าภัยคุกคามจากการคว่ำบาตรของทรัมป์นั้นร้ายแรงมาก เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่จะขายอาวุธ NATO เพื่อส่งต่อไปยังยูเครน เปสคอฟกล่าวว่า "นี่คือธุรกิจ มีการส่งมอบมาก่อน ไม่มีใครหยุดยั้งพวกเขาได้ มันเป็นเพียงคำถามว่าใครเป็นคนซื้ออาวุธนั้น ซึ่งยุโรปนั้นแหละที่เป็นผู้จ่ายค่าอาวุธ"
ทรัมป์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยชื่นชมปูติน ดูเหมือนจะฉุนเฉียวที่ความพยายามของเขาในการยุติสงครามส่วนใหญ่ถูกรัสเซียละเลย ล่าสุดเขากล่าวถึงปูตินว่าสามารถหลอกลวงอดีตผู้นำสหรัฐฯ อย่างคลินตัน บุช โอบามา ไบเดนได้ แต่เขาหลอกทรัมป์ไม่ได้
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศยุโรปหลายคนยินดีกับการประกาศของทรัมป์เมื่อวันจันทร์ คายา คัลลาส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า "เพื่อให้เกิดสันติภาพ เราจำเป็นต้องสนับสนุนยูเครน และเราจำเป็นต้องกดดันรัสเซีย และเขาหวังว่าชาวอเมริกันจะดำเนินการคว่ำบาตร เพื่อให้มีการกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามนี้จริง ๆ"
