“อาหารจานโปรดของผม คือแซนวิชไก่งวง ที่มีเนื้อไก่แปะอยู่บนขนมปังโฮลวีท ไม่มีชีส และรสชาติจืดชืดที่สุดในโลก” นี่คือคำบอกเล่าของ พล.ท. สตีฟ บาแชม ซึ่งเคยบินเครื่องบิน B-2 มาเป็นเวลา 9 ปี และเกษียณในปี 2024 ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำยุโรป เขากำลังเล่าถึงความเคร่งครัดในการเตรียมตัวของนักบิน B-2 ที่จะต้องควบคุมหลายเรื่อง แม้แต่อาหารที่ก็ยัง ‘โหดกว่า’ ทหารสายอื่นในกองทัพ
แซนด์วิชเนื้อไม่ติดมัน อย่างแซนด์วิชไก่งวงหรือเนื้อไก่อบ ให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่หนักท้อง แน่นอนว่าขนมปังต้องเป็นโฮลวีทเท่านั้นเพื่อให้พลังงานอย่างต่อเนื่องและย่อยง่าย นักบินจะได้รับอนุญาตให้กินผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย แอปเปิ้ล หรือผลไม้แห้งอย่าลูกเกดและแครนเบอร์รีในปริมาณที่จำกัด ส่วนอาหารต้องห้ามมีเยอะกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นถั่วต่าง ๆ บรอกโคลี กะหล่ำปลี หอมใหญ่ กระเทียม เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ ไม่ต้องพูดถึงพวกอาหารมัน ๆ ทอด ๆ อาหารรสจัดที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ นม ชีส โยเกิร์ต ไปจนถึงน้ำอัดลม เพื่อเลี่ยงน้ำตาลและแลคโตส เสี่ยงต่ออาการท้องเสีย
ในปฏิบัติการ Midnight Hammer ถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 มิ.ย. 68) มีการเปิดเผยว่านักบินต้องใช้เวลามากถึง 37 ชั่วโมงบนเครื่องบินรบล่องหน B-2 Spirit ดังนั้น การขับถ่ายบนเครื่องฯ จึงเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการควบคุมที่เหมาะสม เพราะห้องน้ำไม่ได้มีลักษณะเหมือนห้องน้ำบนเครื่องบินโดยสารทั่วไป แต่เป็น สุขภัณฑ์แบบพกพาหรือห้องน้ำเคมี (Chemical Toilet / Port-a-Potty) ขนาดเล็กที่อยู่ในส่วนท้ายของห้องนักบิน ซึ่งมีถังเก็บของเสียและน้ำยาเคมีสำหรับฆ่าเชื้อและลดกลิ่น
การที่เครื่องบินอย่าง B-2 Spirit ถูกออกแบบมาให้สามารถบินได้โดยไม่ต้องลงจอดเป็นเวลานานหลายสิบชั่วโมง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการนอนหลับของนักบิน และเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดที่นักบินต้องรับมือ พล.ท. สตีฟ เปิดเผยว่า “เหล่านักบิน B-2 เรียนเรื่องโภชนาการกันมาเยอะมาก ๆ เพื่อที่จะนำมาควบคุมพวกเราแต่ละคน ส่วนการนอนก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเราจะเรียนรู้หลัก ๆ อยู่ 2 อย่าง ก็คือ อะไรทำให้เราตื่น และอีกอันคืออะไรช่วยให้เราหลับได้”
แม้จะมีนักบิน 2 คนที่ผลัดกันบินและพักผ่อน แต่การนอนหลับในห้องนักบินที่แคบและอยู่ในท่าเอนกาย (ไม่ใช่การนอนราบเต็มที่) นั้นไม่สามารถทดแทนการนอนหลับที่มีคุณภาพได้ การงีบหลับสั้นๆ หรือ "Catnaps" (ประมาณ 20-40 นาที) อาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการการพักผ่อนของร่างกายในระยะยาว เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง นักบินจะเริ่มมีอาการอดนอนสะสม ซึ่งนำไปสู่ ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง
เพื่อบรรเทาผลกระทบเหล่านี้ นักบิน B-2 จึงต้องได้รับการฝึกฝนและมีมาตรการพิเศษ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำ Sleep Management Training เพื่อฝึกให้นักบินเข้าใจวงจรการนอนหลับของตนเอง และเทคนิคการงีบหลับที่มีประสิทธิภาพ นักบินได้รับอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างระมัดระวังเพื่อช่วยให้ตื่นตัวในช่วงที่สำคัญ แต่ไม่มากเกินไปจนรบกวนการพักผ่อน นอกจากนี้ ห้องนักบินของเครื่องบิน B-2 มีพื้นที่เล็ก ๆ ด้านหลังที่นั่ง ซึ่งนักบินสามารถนอนบนเตียงได้ เมล็ดทานตะวันช่วยให้นักบินตื่นตัวระหว่างมื้ออาหาร
ด้วยปีกกว้าง 172 ฟุต (52.4 เมตร) และโครงสร้างล่องหน B-2 สามารถบินได้ 6,000 ไมล์ทะเลโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง แต่ภารกิจส่วนใหญ่ จำเป็นต้องเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศหลายครั้ง เครื่องบิน B-2 Spirit ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน (stealth bomber) มีความสามารถในการเติมน้ำมันกลางอากาศ (Aerial Refueling หรือ Air-to-Air Refueling: AAR) เพื่อขยายพิสัยการบินและเวลาในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับภารกิจระยะไกลที่กินเวลานานหลายสิบชั่วโมง
พล.ท. สตีฟ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เครื่องบินต้องเติมน้ำมันกลางอากาศ นับเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่อันตรายมากที่สุด เนื่องจาก B-2 ใช้ระบบเติมน้ำมันแบบ "Boom" (Flying Boom) ซึ่งเป็นระบบที่นิยมใช้ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ โดยมีขั้นตอนคร่าว ๆ คือ จะต้องบินเข้าใกล้เครื่องบินเติมน้ำมัน (Tanker Aircraft) เช่น KC-135 Stratotanker หรือ KC-10 Extender และจัดตำแหน่งให้อยู่ในระยะที่เหมาะสมและมีความเร็วที่เท่ากัน
เครื่องบินเติมน้ำมันจะมี "Boom" ซึ่งเป็นท่อแข็งที่สามารถยืดหดได้ และมีปลายท่อสำหรับจ่ายน้ำมัน นักบินที่ควบคุม Boom (Boom Operator) บนเครื่องบินเติมน้ำมันจะบังคับ Boom ให้เคลื่อนที่ไปเสียบเข้ากับช่องรับน้ำมัน (Receptacle) ที่อยู่บนส่วนบนของลำตัวเครื่องบิน B-2 และช่วงนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เพราะนักบินจะมองไม่เห็น Boom ที่ยื่นออกมา
การเติมน้ำมันกลางอากาศเป็นหนึ่งในภารกิจการบินที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูงที่สุดสำหรับนักบิน ไม่ใช่เฉพาะกับ B-2 เท่านั้น แต่กับเครื่องบินทุกชนิดที่ทำการเติมน้ำมันกลางอากาศ เพราะต้องอาศัยความแม่นยำสูง บางครั้งอาจมีความปั่นป่วนของกระแสอากาศ ความขัดข้องของระบบเติมน้ำมันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และความเหนื่อยล้าของนักบินเป็นอีกปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้
ทั้งนี้ เครื่องบิน B-2 มูลค่า 2,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สร้างโดยบริษัท Northrop Grumman ไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการโจมตีฐานทัพนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ถูกนำมาใช้ในภารกิจสำคัญ ตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1999 สำหรับปฏิบัติการ Allied Force (สงครามโคโซโว) โดย B-2 ได้บินตรงจากฐานทัพในรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ไปยังโคโซโว และทิ้งระเบิดเป้าหมายของเซอร์เบีย
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เครื่องบินรบล่องหน B-2 ก็มักเข้ามามีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญ ดังนี้
ทั้งนี้ กองทัพอากาศมีแผนที่จะแทนที่ฝูงบิน B-2 และ B-1 ด้วยเครื่องบิน B-21 Raider อย่างน้อย 100 ลำในช่วงไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมระบุว่า เครื่องบิน B-2 มีต้นทุนการดำเนินงานประมาณ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง เมื่อเทียบกับเครื่องบิน B-1 ซึ่งมีต้นทุน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ
“นักบินของเราทำให้มันดูง่าย แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ง่ายเลย” บาแชมกล่าว ภารกิจอันซับซ้อนของ B-2 ไม่สามารถทำได้ “หากไม่มีนักวางแผนจำนวนมากที่ประจำการอยู่ทั่วโลกและช่างซ่อมบำรุงที่คอยดูแลให้คุณมีเครื่องบินที่ดีอยู่เสมอ”