การเงิน

เจ้าพ่อ Gulf 'สารัชถ์ รัตนาวดี' ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 4 ปีซ้อน

8 ธ.ค. 65
เจ้าพ่อ Gulf 'สารัชถ์ รัตนาวดี' ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 4 ปีซ้อน

เปิด 10 อันดับเศรษฐีหุ้นไทย 2565 "สารัชถ์" ยังครองแชมป์ปีที่ 4 ติดต่อกัน ความมั่งคั่งทุบสถิติใหม่แตะหลัก 2 แสนล้าน ขณะที่ "กลุ่มทุนลาว" แซงโค้งเหล่าเจ้าสัวไทยเบียดขึ้นอันดับ 2  


วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการจัดอันดับ "เศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2565" ซึ่งเป็นการจัดอันดับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศ ที่ถือหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด mai ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยมีรายชื่อ 10 อันดับแรก ดังนี้   

  1. สารัชถ์ รัตนาวะดี (GULF) - ความมั่งคั่ง 218,981 ล้านบาท (+26.51%)
  2. ปณิชา ดาว (PSG) - ความมั่งคั่ง 81,630 ล้านบาท (ใหม่)
  3. นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (BDMS,BA) - ความมั่งคั่ง 62,735 ล้านบาท (+7.76%) 
  4. นิติ โอสถานุเคราะห์ (OSP) - ความมั่งคั่ง 58,124 ล้านบาท (+3.33%)
  5. สมโภชน์ อาหุนัย (EA) - ความมั่งคั่ง 36,366 ล้านบาท (-31.42%)
  6. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ (BDMS,ONEE) - ความมั่งคั่ง 35,001 ล้านบาท (+149.09%)
  7. ชูชาติ เพ็ชรอำไพ (MTC) - ความมั่งคั่ง 26,518 ล้านบาท (-36.30%)
  8. ดาวนภา เพ็ชรอำไพ (MTC) - ความมั่งคั่ง 26,100 ล้านบาท (-37.77%)
  9. อนันต์ อัศวโภคิน (LH) - ความมั่งคั่ง 25,454 ล้านบาท (+11.95%)
  10. คีรี กาญจนพาสน์ (BTS, BTSGIF, NINE) - ความมั่งคั่ง 22,702 ล้านบาท (-7.83%)   

spotlightshot_gulf.00_00_30_   

เจ้าพ่อ GulF แชมป์เศรษฐีหุ้น 4 ปีซ้อน

สำหรับปี 2565 นี้ "นายสารัชถ์ รัตนาวะดี" กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ยังคงครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 218,981 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 45,881 ล้านบาท หรือ 26.51% ซึ่งสารัชถ์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ GULF ในสัดส่วน 35.55%

ทั้งนี้ สารัชถ์เริ่มขึ้นสู่ตำแหน่งอันดับ 1 เศรษฐีหุ้นไทยเมื่อปี 2562 โดยมีความมั่งคั่งรวม 120,959 ล้านบาท, ปีต่อมา 2563 รวย 115,2899 ล้านบาท, ปี 2564 รวย 173,099 ล้านบาท ก่อนจะขยับไปแตะหลัก 2 แสนล้านในปีนี้ และยังเป็นมหาเศรษฐีไทยคนแรกที่มีความมั่งคั่งจากหุ้นในระดับ 2 แสนล้านบาท


psg

กลุ่มทุนลาว เบียดเจ้าสัวไทยขึ้นที่ 2

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ของไทยในปีนี้ไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูคุ้นตานัก เพราะเป็นหน้าใหม่ที่ขึ้นมาสู่ท็อป 10 ครั้งแรก และมาในอันดับ 2 เลย คือ "ปณิชา ดาว" ผู้แทนกลุ่มทุนจาก "สปป.ลาว" ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ในสัดส่วน 80% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 81,630 ล้านบาท

ปณิชา ดาว คือภรรยาของ เดวิด แวน ดาว ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) ที่ถือหุ้นใน บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่ สปป.ลาว โดยเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น หรือ PSG มี แวน ฮวง ดาว นั่งเป็นประธานกรรมการ และ เดวิด แวน ดาว เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

PSG เดิมชื่อ บมจ.ที เอ็น จิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น หรือ T ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารที่พักอาศัย โรงพยาบาล รวมถึงงานสาธารณูปโภค และงานติดตั้งเครื่องจักรต่างๆ มากว่า 40 ปี ต่อมาในวันที่ 12 ตุลาคม 2564 บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งใหญ่ โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 54,044 ล้านหุ้น ขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาหุ้นละ 0.02 บาท

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ตกจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 62,735.68 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 4,517.85 ล้านบาท หรือ 7.76% หุ้นที่หมอเสริฐถือครอง ประกอบด้วย บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เจ้าของเครือข่ายโรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, สมิติเวช, บีเอ็นเอช, พญาไท, เปาโล ในสัดส่วน 12.77% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 11.38%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ลดจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว โดยนิติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกใน 8 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 58,124.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,870.84 ล้านบาท หรือ 3.33%

เศรษฐีหุ้น อันดับ 5 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลดจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้น EA ที่ถือครองในสัดส่วน 11.05% มีมูลค่ารวม 36,366.27 ล้านบาท รวยลดลง 16,660.08 ล้านบาท หรือ 31.42%

เศรษฐีหุ้น อันดับ 6 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ กลับเข้ามาติดทำเนียบ TOP 10 เศรษฐีหุ้นไทย จากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว
นอกเหนือจากหุ้น BDMS ที่ถือในสัดส่วน 5.08% และ BA 6.49% แล้ว ปีนี้ปรมาภรณ์ยังถือหุ้น บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) หุ้นน้องใหม่ IPO ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้นอีก โดยถือหุ้น ONEE สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 40.04% ส่งผลให้ปีนี้ความมั่งคั่งของ ปรมาภรณ์ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 35,001.87 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 20,950.06 ล้านบาท หรือ 149.09%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 และ 8 ได้แก่ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง โดย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ในอันดับ 7 โดยถือครองหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.49% และหุ้นของอีก 5 บริษัทรวมมูลค่าทั้งสิ้น 26,518.07 ล้านบาท ลดลง 15,133.90 ล้านบาท หรือ 36.30%

ส่วน ดาวนภา เพ็ชรอำไพ ปีนี้อยู่ในอันดับ 8 โดยถือหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 26,100 ล้านบาท ลดลง 15,840.00 ล้านบาท หรือ 37.77%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แบรนด์ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” โดยขยับขึ้นมาจากอันดับ 12 เมื่อปีที่แล้ว โดยอนันต์ถือหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ในสัดส่วน 23.93% มูลค่า 25,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,717 ล้านบาท หรือ 11.95%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยหุ้นที่คีรีถือครองมีมูลค่ารวม 22,702.45 ล้านบาท ลดลง 1,929.78 ล้านบาท หรือ 7.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS 20.23% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) 2.14% และ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) 4.31%

advertisement

SPOTLIGHT