อินไซต์เศรษฐกิจ

ทองคำใกล้หมดโลก? ความต้องการพุ่ง-ปริมาณขุดได้ลดลง หนุนราคาพุ่งไม่หยุด

7 มิ.ย. 67
ทองคำใกล้หมดโลก? ความต้องการพุ่ง-ปริมาณขุดได้ลดลง หนุนราคาพุ่งไม่หยุด

ทองคำกำลังจะหายากขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่า ทองคำที่เหลืออยู่บนโลกอาจหมดลงภายใน 19 ปี หากไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ใหม่ๆ ประกอบกับความต้องการทองคำที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง YLG มองว่านี่เป็นโอกาสทองของนักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ แนวโน้มราคาทองคำในอนาคต รวมถึงคำแนะนำในการลงทุนทองคำสำหรับนักลงทุนทุกระดับ

ทองคำใกล้หมดโลก? ความต้องการพุ่ง-ปริมาณขุดได้ลดลง หนุนราคาพุ่งไม่หยุด

ทองคำใกล้หมดโลก? ความต้องการพุ่ง-ปริมาณขุดได้ลดลง หนุนราคาพุ่งไม่หยุด

ข้อมูลของ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) พบว่า มีข้อมูบน่าตกใจถึงปริมาณทองคำทั่วโลกที่เหลืออยู่ขณะนี้มีเพียง 59,000 ตันเท่านั้น หากคิดจากปริมาณการขุดทองคำเฉลี่ยปีละ 3,000 ตัน เท่ากับว่าทองคำจะหมดโลกภายใน 19 ปี หากไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ ปริมาณทองคำรีไซเคิลที่นำกลับมาหลอมใหม่ก็มีเพียงปีละ 1,000 ตัน ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณทองคำที่ขุดได้ใหม่ ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการทองคำทั่วโลกที่มีมากกว่า 4,000 ตันต่อปี

สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมซื้อทองคำเพื่อถือครองในระยะยาว โดยมีเพียง 25% เท่านั้น ที่ถูกนำกลับมาขายในตลาด ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ที่ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาลง ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบัน ในทางกลับกัน หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ก็จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ และอาจทำให้ราคาทองคำชะลอตัวลงได้

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปริมาณทองคำสำรอง

ข้อมูลของ USGS เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น โดยอ้างอิงจากอัตราการขุดทองคำในปัจจุบันและปริมาณทองคำสำรองที่พิสูจน์แล้วเท่านั้น ในความเป็นจริง ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อระยะเวลาการหมดลงของทองคำ เช่น

  • การค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่: เทคโนโลยีการสำรวจและขุดเจาะที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่การค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ
  • การพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิล: การรีไซเคิลทองคำจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของใช้ต่างๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณทองคหมุนเวียนในระบบ
  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค: หากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลและลดการบริโภคทองคำลง ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของทองคำออกไปได้

แม้ทองคำจะไม่หมดไปในเร็วๆ นี้ แต่การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ทองคำหายากขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยทาง YLG มองว่านี่เป็นโอกาสทองของนักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว 

YLG ชี้ราคาทองคำขาขึ้นต่อเนื่อง แม้พักฐานระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง

จากสถานการณ์ปัจจุบันของทองคำถือเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับนักลงทุน ความผันผวนของราคาทองคำอาจเป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ในขณะที่นักลงทุนระยะยาวอาจมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากความต้องการทองคำยังคงมีอยู่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

โดยทางด้าน YLG เผยราคาทองคำโลกและทองคำไทยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยราคาทองคำโลกขึ้นไปถึง 13.22% และทองคำไทย 96.5% ขึ้นไปถึง 20.21% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ราคาทองคำมีการพักฐานระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรหลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก แต่ YLG มองว่านี่เป็นเพียงการพักฐานชั่วคราว และแนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน

ปัจจัยหนุนราคาทองคำระยะยาว

  • ความกังวลด้านเศรษฐกิจ: เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัญหาเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อ: ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังคงเดินหน้าสะสมทองคำสำรองอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักในการถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศ
  • ปริมาณทองคำเหลือน้อย: ปริมาณทองคำที่สามารถขุดได้ทั่วโลกเหลืออยู่เพียง 59,000 ตัน และหากไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ใหม่ๆ จะทำให้ทองคำหมดไปภายใน 19 ปี หากคิดจากอัตราการขุดเฉลี่ยปีละ 3,000 ตัน

โอกาสลงทุนทองคำ

  • ราคาทองคำปีนี้: YLG คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปีนี้อาจทดสอบแนวต้านที่ 2,450 - 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ และหากผ่านได้ อาจทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,650 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์
  • แนวรับสำคัญ: แนวรับสำคัญของราคาทองคำอยู่ที่ 2,277 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ หากราคาย่อตัวลงมาถึงระดับนี้ อาจเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ
  • โอกาสทำกำไรระยะสั้น: ราคาทองคำมีการแกว่งตัวระหว่างวันค่อนข้างมาก โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงถึง 2-3% ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่ชอบการเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาทำกำไรได้
  • ลงทุนง่ายผ่านแอปฯ: นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนทองคำได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ซึ่งเปิดให้ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท ทำให้การลงทุนทองคำเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้

YLG เชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะยังคงเป็นขาขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า หากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลงตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยเหมือนสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

โอกาสทองของนักลงทุนระยะสั้น และ ยาว

ทองคำใกล้หมดโลก? ความต้องการพุ่ง-ปริมาณขุดได้ลดลง หนุนราคาพุ่งไม่หยุด

แม้แนวโน้มราคาทองคำในระยะยาวจะเป็นขาขึ้น แต่การพักฐานระยะสั้นก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนสายเก็งกำไรเข้ามาทำกำไรได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นลงในแต่ละวันมากถึง 2-3% นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้นควรติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เช่น ตัวเลขภาคการผลิตและบริการ อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจลงทุน

ส่วนในระยะยาว YLG มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น (Sideway up) และเมื่อการพักฐานระยะสั้นสิ้นสุดลง ราคาทองคำมีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 2,450-2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หากผ่านได้ อาจพุ่งทะยานสู่ระดับ 2,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น YLG แนะนำให้พิจารณาเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำยืนเหนือแนวรับ 2,300-2,277 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดย 2,277 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป็นระดับต่ำสุดของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ 2,228 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือนเมษายน อาจส่งสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวอาจเปลี่ยนแปลงได้

ช่วงเวลาที่ราคาทองคำปรับตัวลงเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสทองของนักลงทุนในการเข้าซื้อสะสมทองคำในราคาที่น่าสนใจ YLG จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG เพื่อตอบโจทย์การลงทุนทองคำยุคใหม่ ให้นักลงทุนทุกคนสามารถเข้าถึงการซื้อขายทองคำ Gold Spot ได้อย่างสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสมาร์ตโฟน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาทเท่านั้น แอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนรุ่นใหม่ เพราะใช้งานง่าย มีความปลอดภัยสูง และสามารถทำกำไรได้จริง นอกจากนี้ ผู้สมัครยังสามารถยืนยันตัวตนและยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที รู้ผลอนุมัติภายในวันเดียว และสามารถเริ่มซื้อขายทองคำได้เลย โดยมีปริมาณการลงทุนตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อวัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Play Store หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @ylggetgold หรือโทร. 0-2678-9888 #2

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT