
ต้นปีคือช่วงเวลาที่มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตการเงินของตัวเอง
เงินเดือนเข้าเป็นรอบ รายจ่ายเข้ามาพร้อมกัน และหลายครั้ง “เงินเก็บ” กลายเป็นสิ่งที่ต้องรอให้เหลือก่อนเสมอ
ปัญหาเดือนชนเดือนจึงไม่ใช่เรื่องของวินัยอย่างเดียว แต่สะท้อนโครงสร้างรายได้–รายจ่ายของคนทำงานประจำที่มีภาระคงที่ และมีเวลาจำกัดในการดูแลเรื่องการเงิน
คำถามสำคัญอาจไม่ใช่ “จะรวยได้อย่างไร”
แต่คือ “จะเริ่มจัดการเงินให้ไม่ติดหล่มแบบเดิมได้อย่างไร”
วันนี้ผมจึงอยากจะชวนมนุษย์เงินเดือนให้ลองมองการลงทุนในมุมที่เรียบง่ายขึ้น ตั้งแต่การเปลี่ยนลำดับการใช้เงิน ไปจนถึงการสร้างพอร์ตลงทุนที่ทำได้จริง ไม่ต้องเฝ้าจอ และเดินหน้าได้แม้มีเวลาจำกัด
หนึ่งในวิธีที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่สุด คือ DCA (Dollar-cost Averaging) หรือการลงทุนเท่าๆ กันทุกเดือนแบบสม่ำเสมอ
ไม่ต้องเริ่มด้วยเงินก้อนใหญ่ ไม่ต้องจับจังหวะตลาดเก่ง ขอแค่ทำต่อเนื่องก็พอ ผมจะพาคุณจับมือทำไปพร้อมๆ กัน
ก่อนจะไปเริ่มวิธีสร้างพอร์ตแรกไปด้วยกัน มาเริ่มจากทำความเข้าใจกับคำว่า DCA กันก่อน
DCA (Dollar-cost Averaging) คือ การลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมทุกเดือนแบบสม่ำเสมอ เหมือนการแบ่งเงินจากเงินเดือนออกมาเป็นค่าซื้ออนาคตของตัวคุณเองเดือนละก้อนเล็กๆ แทนการรอให้มีเงินก้อนใหญ่แล้วค่อยเริ่มลงทุน
จุดสำคัญของ DCA ไม่ได้อยู่ที่คุณลงทุนเดือนละเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ลงทุกเดือนอย่างไม่ขาด เพราะเมื่อซื้อสม่ำเสมอ คุณจะได้ของในหลายช่วงราคา บางเดือนตลาดสูงก็ซื้อแพงบ้าง บางเดือนตลาดลงก็ได้ซื้อในราคาถูก ช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนไปเรื่อยๆ ลดความเสี่ยงที่จะซื้อหุ้นในจังหวะที่ราคาสูงเกินไปจนติดดอย
ข้อดีอีกอย่างคือ ไม่ต้องเฝ้าตลาด ไม่ต้องเดาราคา ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ คนทำงานประจำไม่มีเวลาก็ทำได้ เพราะการ DCA จะช่วยให้คุณค่อยๆ เก็บหุ้น กองทุน ETF หรือสินทรัพย์อะไรก็ตามที่คุณเลือก เหมือนการหยอดกระปุกออมสิน แต่เป็นการออมแบบที่มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า
เมื่อเข้าใจคอนเซปต์ของการ DCA แล้ว มาเริ่มต้นสร้างพอร์ตแรกกันเลย!
มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ไม่ได้เก็บเงินไม่ได้เพราะรายได้ไม่พอ แต่เป็นเพราะนิสัยเก็บเงิน ‘หลังใช้’ พอเงินเดือนเข้า รายจ่ายก็มาตั้งแถวรอ ทั้งบิลค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ และบางครั้งเผลอให้รางวัลตัวเองมากไปหน่อย กินแพงขึ้น ช็อปปิงมากขึ้น สุดท้ายเดือนๆ หนึ่งก็จบไปแบบเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เหลือเก็บ
วิธีแก้คือ กลับมาคิดใหม่ทำใหม่ เป็น ‘ออมก่อนใช้’ แทนที่จะใช้ก่อนค่อยออม ให้คุณหักเงินจากเงินเดือนทันทีที่เข้า เช่น 1,000-3,000 บาท หรือเปอร์เซ็นต์ตามกำลัง (แค่ 5-10% ของเงินเดือนก็เริ่มได้) แล้วค่อยใช้ที่เหลือ วิธีนี้เป็นการตั้งรากฐานทางการเงินแบบไม่ต้องใช้พลังใจมาก
เมื่อออมก่อนใช้อย่างสม่ำเสมอ เงินจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นกลายเป็นทุนเริ่มต้นสำหรับการลงทุน DCA ได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่รู้สึกฝืน เพราะเงินส่วนนั้นถูกกันออกไปตั้งแต่ต้นเหมือนรายการจ่ายประจำอีกอย่างหนึ่ง และยิ่งเริ่มตั้งแต่ต้นปี ก็ยิ่งเป็นจังหวะดีในการเริ่มต้นสร้างวินัยใหม่ๆ
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณกันเงินไว้ทุกเดือน เดือนละ 1,000-3,000 บาท ผ่านไป 12 เดือน คุณก็จะมีเงินตั้งต้นสำหรับลงทุนแบบไม่ต้องรออีกต่อไป ปีนี้อาจเป็นปีแรกที่คุณไม่ปล่อยให้เงินเดือนผ่านไปแบบชนเดือนอีกแล้ว แต่กลายเป็นเดือนที่เงินเริ่มงอกเงยแทน
เมื่อออมก่อนใช้จนเริ่มมีเงินก้อนเล็กๆ อยู่ในมือ ขั้นต่อมาคือ อย่าปล่อยให้เงินก้อนนั้นนอนเฉยๆ เพราะเงินเก็บในบัญชีออมทรัพย์เติบโตช้ามาก บางครั้งดอกเบี้ยแทบไล่ไม่ทันเงินเฟ้อ การลงทุนจึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เงินเติบโตเร็วขึ้น
มือใหม่อาจรู้สึกว่า การลงทุนเป็นเรื่องใหญ่ ต้องรู้เยอะ ต้องดูกราฟเป็น ต้องอ่านงบได้ ฯลฯ แต่จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญใดๆ เลยก็ลงทุนได้ แค่มีพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงอย่างสมดุล และมีระบบที่ดีช่วยดูแล การลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หลังจากเริ่มต้นลงทุนแล้ว ขั้นตอนที่ทำให้พอร์ตเติบโตได้จริงๆ คือความสม่ำเสมอ ไม่ว่าเงินจะมากหรือน้อย ที่คอยเติมเข้าพอร์ตทุกเดือน ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต
ฟังดูง่าย แต่ปัญหาที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ก็คือ… มนุษย์เงินเดือนมักเจอปัญหาเดือนชนเดือนอย่างที่รู้ๆ กัน เงินเดือนออก รายจ่ายก็มาตั้งแถวรอ แถมบางเดือนงานยุ่งมาก ก็อาจทำให้ลืมซื้อ ลืมลงทุน ลืมเก็บออม นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่หลายคนตั้งใจจะลงทุนสร้างพอร์ตแรก แต่ก็ทำไม่ได้สักที
แต่ตอนนี้ผมมีวิธีแก้… หากคุณสามารถตั้งค่าฝากเงินอัตโนมัติ (DCA) ในแอปพลิเคชัน ระบบจะช่วยตัดเงินจากบัญชีเข้าพอร์ตของคุณให้ทุกเดือน ไม่ต้องกดเอง ไม่ต้องกลัวลืม ระบบตัดเงินอัตโนมัติจะช่วยคุณสร้างวินัยการออมการลงทุนให้เอง
การปั้นพอร์ตลงทุนสำหรับมนุษย์เงินเดือนไม่ได้ต้องการสูตรซับซ้อน
แต่ต้องการ ความสม่ำเสมอ ระบบที่ช่วยลดภาระการตัดสินใจ และวินัยที่ทำต่อเนื่องได้
การออมก่อนใช้ ช่วยเปลี่ยนบทบาทของเงินจาก “ของที่เหลือ” ให้กลายเป็น “เครื่องมือสร้างอนาคต” ขณะที่การลงทุนแบบ DCA ช่วยให้เริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเก่งหุ้น ไม่ต้องจับจังหวะตลาด และไม่ต้องใช้เวลาเกินกำลัง
สำหรับคนทำงานที่อยากเริ่มต้นอย่างจริงจัง พอร์ตที่เข้าใจง่าย กระจายความเสี่ยงครบ และดูแลได้ในที่เดียว คือจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้การลงทุนไม่เป็นภาระ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หากคุณยังนึกไม่ออกลองศึกษา Omni Fund ของ Jitta Wealth ได้ครับ เงินเริ่มต้นเพียง 1,000 บาทก็สามารถกระจายลงทุนใน กองทุนรวมหุ้นทั่วโลก และกองทุนรวมตราสารหนี้คุณภาพทั้งในและต่างประเทศ
และเมื่อระบบอัตโนมัติช่วยดูแลการลงทุนแทนเรา หน้าที่ของมนุษย์เงินเดือนก็เหลือเพียงอย่างเดียว คือ เริ่มต้นให้เร็ว และทำให้ต่อเนื่อง
เพราะพอร์ตที่แข็งแรงในวันข้างหน้ามักเริ่มจากการตัดสินใจเล็กๆ ในวันนี้เสมอ
ขอให้ปี 2569 นี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นความมั่งคั่งและยั่งยืนนะครับ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด