
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ที่คาดว่าขยายตัวได้ราว 2% แต่ความท้าทายในปี 2569 ยังเต็มไปด้วยหลายปัจจัยโดยเฉพาะการเมืองภายในประเทศ หลังการประกาศยุบสภาของนายกอนุทิน ชาญวีรกูล ทำให้ประเมินการเลือกตั้งครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2569 แน่นอน
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความท้าทายของเศรษฐกิจไทยที่ยังรอการมีรัฐบาลที่มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา การฟื้นเศรษฐกิจภายในประเทศจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี ล้วนเป็นความท้าทายที่ภาคธุรกิจเอกชนต้องรับมือ
ล่าสุดธุรกิจบัตรเครดิตอย่างเคทีซี ซึ่งมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 2.3 ล้านคน ได้ออกมาเปิดเผยกลยุทธ์ของธุรกิจในปี 2569 นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า สำหรับปี 2568 ที่กำลังจะผ่านไป เป็นปีที่ท้าทายสำหรับการทำธุรกิจเพราะมีปัจจัยสำคัญทั้งภูมิรัฐศาสตร์โลก หนี้ครัวเรือนสูง และภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี แต่เคทีซียังคงรักษาการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามแม้ในปี 2569 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยอาจจะดีขึ้นกว่าปีนี้แต่ก็อยู่ในแนวโน้มยังชะลอตัว ซึ่งเคทีซียังมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังสามารถทำกำไรเติบโตได้ ต่อเนื่องจากปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัว 1-2% จากปี 2568 ที่คาดปิดที่ 0.7% ส่วน NPL ไม่เกิน 2% เช่นเดียวกับปี 2568 ที่ทำได้ตามเป้า
การวางเป้าหมายให้ธุรกิจยังคงเติบโตต่อเนื่องทุกปีนั้น เคทีซี ได้ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในปี 2569 โดยเฉพาะการทรานส์ฟอร์มธุรกิจและองค์กรไปสู่ดิจิตอลและ AI ดังนี้
เชื่อว่าการลงทุนเทคโนโลยีครั้งนี้จะช่วยเร่งเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน คุมพอร์ตโตอย่างมีคุณภาพ
สำหรับธุรกิจหลักของเคทีซีนั่นคือบัตรเครดิต นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) การเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเคทีซีในปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งโตกว่าอุตสาหกรรมรวม ที่โตเพียงแค่ 0.1% เท่านั้น และคาดว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 2569 จะเติบโตที่ 5% เพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 ราย จากปัจจุบันมีสมาชิก 2.3ล้านคน จำนวนบัตร 2.9 ล้านใบ
โดยเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
1. เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตสมาชิกคุณภาพ ยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการขยายฐานสมาชิกผ่านช่องทางดิจิทัล พร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน ช้อป เที่ยว รวมถึงหมวดที่สอดรับกับเทรนด์ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เช่น หมวดการดูแลสุขภาพ และ Healthcare
2.ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกัน (Insurance Brokerage) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและวินาศภัย เพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าให้สมาชิก รวมถึงสร้างรายได้ใหม่จากผลิตภัณฑ์ประกันบนช่องทางบัตรเครดิต
3.มุ่งสร้างการเติบโตร่วมกับธนาคารกรุงไทยในหลายมิติ โดยเน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มลูกค้า Wealth ยกระดับสิทธิพิเศษและบริการที่ครอบคลุมกว่าเดิม กลุ่ม SME สร้างช่องทางการขยายโอกาสให้พันธมิตรร้านค้า บน e-marketplace “KTC U SHOP” ซึ่งเตรียมรีแบรนด์เป็น “KTC MALL” และกลุ่ม Gen Z เจาะกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อสร้างฐานสมาชิกใหม่ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นกำลังซื้อ
4.ใช้ Digital และ AI ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาด เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้า “ง่าย เร็ว ไร้รอยต่อ” และเสนอสิทธิประโยชน์เฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำ
นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งดูแล2 ผลิตภัณฑ์หลักคือเคทีซีพราวและเคทีซีพี่เบิ้ม ระบุว่า ในปี 2569 ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งเป้าเติบโต 2% เน้นพอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ และจะ เพิ่มสมาชิกใหม่ 110,000 ราย โดยบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” จะใช้ 4 กลยุทธ์การตลาดในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่
1.ปรับโฉมการสมัครออนไลน์ E-Application ให้อยู่บนแอป KTC Mobile เพื่อความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถทำการสมัคร และรู้ผลอนุมัติไวใน 30 นาที
2.ขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตร และจุดขายที่มีดีมานด์สูงกว่า 2,000 ร้านค้า สแกนสมัครได้ที่หน้าร้าน อนุมัติ และรับสินค้าได้ทันที รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านฐานข้อมูล Payroll
3.ดูแลสมาชิกกว่า 700,000 รายด้วยสิทธิพิเศษ ทั้ง “รูด–โอน–กด–ผ่อน” เพื่อรองรับพฤติกรรมทุกไลฟ์สไตล์ และเดินหน้าโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อส่งเสริมวินัยการชำระเงิน
4.ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาผ่านโปรโมชันผ่อนสินค้าด้วยดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือน
สำหรับ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อส่วนบุคคลในรูปแบบสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะใช้กลยุทธ์ในการขยายฐานสมาชิกผ่านธนาคารกรุงไทยเป็นหลัก โดยจะปรับโฉมผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ด้านนางวิไลวรรณ นพรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่าในปี 2569 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการที่จะทำให้ธุรกิจเคทีซีเติบโตอย่างมั่นคง จึงให้ความสำคัญและวาง 3 กลยุทธ์หลัก ด้านเทคโนโลยี ได้แก่
1. การปรับเปลี่ยนระบบการชำระเงินหลักสู่ Cloud-Native เป้าหมายคือระบบใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร (ลดงานซ้ำซ้อน) ที่สำคัญ คือ ความรวดเร็ว (Speed) ทั้งสำหรับลูกค้าและภายในทีมงาน ระบบสามารถ Auto-Scale รองรับการใช้งานที่พีกได้โดยไม่ลดความเร็ว
2.การนำ Data และ AI มาใช้ (Data & AI Adoptionแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (Customer Data Platform - CDP จะรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทางและทุกกิจกรรมของลูกค้า เพื่อให้ AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
Hyper-Personalization สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจในเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในการทำการตลาดแบบ Personalization และ Real-time บนแอปพลิเคชัน KTC Mobile
3.เพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กร (Internal Productivity) AI จะเข้ามาช่วยในงานต่างๆ เช่น การพิจารณาสินเชื่อ (Underwriting), การอนุมัติลูกค้าใหม่ (Onboarding), การตรวจจับการฉ้อโกง (Fraud Detection) และการตลาด
ขณะที่ นางรจนา อุษยาพร ผู้บริหารสูงสุด สายงานการเงิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2569 คาดว่าพอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัว 1-2% ควบคู่กับการรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% และมีแผนระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 12,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ การลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนด
ส่วนการเริ่มเปิดตัวธุรกิจนายหน้าประกันในฐานะธุรกิจใหม่ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเคทีซียังคงให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยคาดว่าต้นทุนทางการเงิน ณ สิ้นปี 2569 จะต่ำกว่าสิ้นปี 2568 ประมาณ 0.15%–0.20%
ส่วนประเด็นนโยบายเรื่องการแก้หนี้ผ่าน AMC มีผลทำให้สถาบันการเงินจะมีเอ็นพีแอลลดลง สำหรับเคทีซียอดการโอนจริงกำลังทำงานร่วมกันคาดว่าเดือนมกราคมจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจน