
ธนาคารกลางจีนยังคงเดินหน้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลทางการล่าสุดยืนยันว่า ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBOC) ได้เพิ่มทุนสำรองทองคำขึ้นเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกันแล้ว สะท้อนท่าทีเชิงรุกในการบริหารสินทรัพย์สำรอง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงกดดันตลาดการเงินโลกอย่างต่อเนื่อง
การขยับตัวครั้งนี้สอดคล้องกับจังหวะที่ราคาทองคำยืนเหนือระดับจิตวิทยา 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกกำลังจับตานโยบายการเงินของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีอิทธิพลโดยตรงต่อความเคลื่อนไหวของทองคำและค่าเงินดอลลาร์
ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ในเดือนล่าสุดได้เพิ่มการถือครองทองคำอีก 30,000 ทรอยออนซ์ ส่งผลให้ยอดสำรองทองคำรวมเพิ่มขึ้นเป็นราว 74.12 ล้านทรอยออนซ์ วงจรการเข้าซื้อรอบนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2 และเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นสัญญาณชัดเจนของการปรับโครงสร้างทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
ด้านราคาทองคำในตลาดโลกยังคงทรงตัวเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังปรับฐานลงจากจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม และยังมีแนวโน้มทำผลตอบแทนรายปีได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522 แรงสนับสนุนหลักมาจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 9-10 ธันวาคมนี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า ประธานเฟดคนต่อไปจะมีแนวทางดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะถัดไป
รายงานของสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือนตุลาคม หลังจากชะลอลงในช่วงกลางปี แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนความต้องการของภาครัฐในการกระจายความเสี่ยงด้านทุนสำรอง และใช้ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์สหรัฐ
กระแสนี้เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นหลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน และเกิดกรณีการอายัดทรัพย์สินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซียในต่างแดน ซึ่งส่งสัญญาณเตือนไปยังหลายประเทศถึงความเสี่ยงจากการถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากเกินไป
ในด้านของจีน นอกจากการสะสมทองคำเข้าทุนสำรองอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเดินหน้าผลักดันบทบาทในตลาดทองคำโลก ด้วยการเชิญชวนธนาคารกลางต่างประเทศมาใช้จีนเป็นสถานที่ฝากเก็บทองคำ เพื่อเสริมอิทธิพลและสถานะในระบบการเงินโลก โดยจนถึงขณะนี้มีบางประเทศตอบรับข้อเสนอแล้ว รวมถึงกัมพูชา สะท้อนความพยายามของจีนในการยกระดับบทบาทผ่านตลาดทองคำอย่างจริงจังมากขึ้น